บทที่ 68
สมัยหนุ่มๆ เยี่ยหรู่ชวนขึ้นเหนือล่องใต้ไปค้าขายสมุนไพรทั่วทุกสารทิศทั้งนอกด่านในด่านย่อมจะไม่ตกหล่นเมืองท่าสำคัญของภาคเหนืออย่างเมืองเทียนเป็นธรรมดา
ทว่านั่นเป็นเรื่องนานนมมาแล้ว คราวที่เขามาเยือนเมืองเทียนคือเมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนี้ได้มาอีกครั้ง เห็นที่นี่เปลี่ยนแปลงไปมากเหลือเกิน เขาก้าวออกจากสถานีรถไฟก็แทบจะจดจำถนนหนทางไม่ได้แล้ว
จวงเถียนเซินเพื่อนเก่าของเขาจะมาถึงวันพรุ่งนี้ ตอนที่ติดต่อกันก่อนหน้านี้อีกฝ่ายบอกว่าพอเขามาถึงเมืองเทียนให้ไปพักที่บ้านสกุลจวงได้เลย ทว่าเยี่ยหรู่ชวนตั้งใจว่าจะพักในโรงแรมเพราะไม่อยากรบกวนคนอื่นเกินไป
ในเมื่อจะมาเยี่ยมคารวะเฮ่อฮั่นจู่ก็ต้องไปอย่างมีหน้ามีตา ด้วยเหตุนี้เขาจึงเข้าพักในโรงแรมเทียนเฉิงที่โด่งดังที่สุดแห่งนั้น
ห้องชุดชั้นบนสุดราคาแพงที่สุดของโรงแรมนี้ต้องจ่ายเงินถึงสิบเหรียญต่อหนึ่งคืน ซึ่งมากกว่าเงินค่าจ้างรายเดือนของคนงานทั่วไปมากมายหลายเท่า
กระทั่งค่าห้องพักราคาถูกที่สุดก็ต้องมีสามสี่เหรียญ พอๆ กับเงินเดือนครึ่งหนึ่งของตำรวจสายตรวจเลยทีเดียว
ตอนเยี่ยหรู่ชวนมาทำการค้าที่เมืองเทียนเมื่อครั้งกระโน้นก็อยากพักในโรงแรมนี้เพื่อลิ้มลองประสบการณ์ใหม่ๆ ดูสักหนว่าเป็นอย่างไร แต่ที่พลาดโอกาสไปไม่ใช่ว่าเขาไม่มีปัญญาจ่าย ทว่าเป็นเพราะเสียดายเงินเท่านั้น คราวนี้เขากัดฟันเปิดห้องพักราคาถูกที่สุดพลางลอบปลอบใจตนเองว่าถือเสียว่าทำตามความปรารถนาเมื่อหลายปีก่อนให้ลุล่วงไป
ส่วนพวกซูจงที่มาพร้อมกับเขาไปพักที่ที่พักนักเดินทางราคาถูกกว่าใกล้ๆ กัน หลังจากเข้าห้องพักเยี่ยหรู่ชวนก็ล้างหน้าล้างตาเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดที่ดูภูมิฐาน จากนั้นรีบไปหาหลานสาวที่วิทยาลัยแพทย์ทหารบกที่เธอเล่าเรียนศึกษาอยู่ก่อนเป็นอันดับแรกอย่างอดใจรอไม่ไหว
แม้ในจดหมายที่หลานสาวส่งมาคราวก่อนฉบับนั้นจะเขียนเล่าว่าเธออยู่ทางนี้สบายดีทุกอย่าง ขอให้คนทางบ้านสบายใจ แต่อย่างไรหลานสาวเขาก็เป็นผู้หญิง ต้องอยู่ในวิทยาลัยชายล้วนแบบนี้ อย่าว่าแต่เยี่ยอวิ๋นจิ่นเลย กระทั่งตัวเยี่ยหรู่ชวนเองยังรู้สึกห่วงพะวงอยู่ไม่วาย
เมื่อเขาไปถึงวิทยาลัยแพทย์ทหาร เห็นคนเฝ้ายามหน้าประตูสวมเครื่องแบบทหารก็สาวเท้าเข้าไปแจ้งชื่อของหลานสาว บอกว่าตนเองเป็นคุณลุงแท้ๆ เดินทางจากบ้านเกิดเพื่อมาเยี่ยมเยือน
เดี๋ยวนี้ซูเสวี่ยจื้อเป็นคนดังประจำวิทยาลัยไปแล้ว เวลาเอ่ยชื่อเธอไม่มีใครไม่รู้จัก คนเฝ้ายามได้ยินว่าเป็นคุณลุงของนักเรียนซูก็พลันมีท่าทางสุภาพมากขึ้นทันใด บอกกับเยี่ยหรู่ชวนว่าเขามาไม่ได้จังหวะเลย วันนี้นักเรียนซูออกไปข้างนอก ดูเหมือนท่านผู้อำนวยการจะมอบหมายงานอะไรให้สักอย่าง ไม่รู้จะกลับมาเมื่อไร แต่สามารถฝากคำพูดไว้ได้ รอนักเรียนซูกลับมา คนเฝ้ายามจะบอกต่อให้ทันที
เยี่ยหรู่ชวนมาเสียเที่ยวก็อดผิดหวังอยู่บ้างไม่ได้ เขากล่าวขอบคุณแล้วเริ่มสอบถามถึงความเป็นไปของหลานสาวในวิทยาลัยนี้ พอได้ยินคนเฝ้ายามพูดว่าซูเสวี่ยจื้อมีผลการเรียนดีเยี่ยม ฝีมือความสามารถก็โดดเด่น และเป็นลูกศิษย์คนโปรดของผู้อำนวยการ เยี่ยหรู่ชวนถึงคลายความเป็นห่วงที่ติดอยู่ในใจจางๆ ลงได้ เขาอารมณ์ดีสุดจะกล่าว ควักเหรียญเงินเหรียญหนึ่งบนตัวออกมาวางแปะลงบนฝ่ามือคนเฝ้ายามอย่างใจป้ำพลางบอกหมายเลขห้องพักของเขาในโรงแรมเทียนเฉิง กำชับให้คนเฝ้ายามจำไว้ พอซูเสวี่ยจื้อกลับมาก็ให้ไปหาเขาที่นั่น
ในเมื่อมาผิดจังหวะไม่ได้เจอหลานสาว เขาจึงไปสะสางธุระสำคัญรองลงมาของการเดินทางเที่ยวนี้ นั่นก็คือเยี่ยมคารวะเฮ่อฮั่นจู่
ถึงแม้อีกฝ่ายได้ชื่อว่าญาติห่างๆ รุ่นเดียวกับเขา แต่อายุห่างกันมาก อีกทั้งก่อนหน้านี้ไม่เคยไปมาหาสู่กันโดยตรง ดังนั้นจะเข้าไปหาโดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้าแบบนี้คงทำไม่ได้แน่นอน
เยี่ยหรู่ชวนทำตามธรรมเนียมของคนยุคนี้คือเขียนเทียบขอเยี่ยมคารวะ ลงชื่อเสร็จแล้วก็ให้คนรับใช้เอาไปส่ง
ตามมารยาททางสังคมโดยทั่วไป ถ้าอีกฝ่ายอยู่และเต็มใจพบเขาจะส่งเทียบเชิญตอบกลับอย่างช้าที่สุดไม่เกินพรุ่งนี้ ฝ่ายคนเป็นแขกก็สามารถไปเยี่ยมเยียนถึงที่ในวันถัดไปได้เลย
เยี่ยหรู่ชวนรออยู่ในห้องพักของโรงแรม จนกระทั่งคนรับใช้กลับมารายงานว่าไปส่งเทียบที่กองบัญชาการหน่วยทหารรักษาการณ์เรียบร้อยแล้ว ทางนั้นรับไว้แต่บอกว่าผู้บัญชาการเฮ่อไม่อยู่ ไม่รู้ว่าไปที่ไหนและจะให้คำตอบได้เมื่อไร
วันนี้ดูท่าทางเยี่ยหรู่ชวนจะดวงไม่ค่อยดี ตอนแรกไม่ได้เจอกับหลานสาว เฮ่อฮั่นจู่ก็ยังไม่อยู่อีก เขาได้แต่ทำใจเย็นรอคอยไปก่อน
ขณะนี้ยังเป็นเวลากลางวัน แม้ห้องพักในโรงแรมจะดีเพียงไหน เยี่ยหรู่ชวนก็ทนอยู่เฉยไม่ไหว ยิ่งไม่ต้องเอ่ยถึงว่าเขาไม่คุ้นเคยกับห้องที่ตกแต่งแนวตะวันตกประเภทนี้อยู่เป็นทุนเดิม เขาพาซูจงออกไปเยี่ยมเพื่อนเก่าที่เคยทำการค้าร่วมกันคนหนึ่ง หลังจากได้พบกันแล้วดื่มชาโอภาปราศรัยเล็กน้อย ก็ได้ยินว่าแถวๆ วัดเฉิงหวงมีแหล่งรวมร้านค้าสมุนไพรที่เกิดขึ้นเมื่อไม่กี่ปีมานี้แห่งหนึ่ง ห้างขายยาตงย่าของที่นั่นมีชื่อเสียงโด่งดังมากจากการจำหน่ายยาเม็ดเลิกฝิ่นแผนปัจจุบันสูตรลับเฉพาะที่ผลิตจากโรงงานของตนเอง ยามที่อยากฝิ่นขึ้นมา กินยาเลิกฝิ่นนั้นเม็ดเดียวก็หายเป็นปลิดทิ้ง อีกทั้งยังมียาเม็ดชูกำลังอีกขนานหนึ่ง ช่วยคลายความอ่อนเพลียและกระตุ้นร่างกายให้กระปรี้กระเปร่า ล้วนขายดีเป็นเทน้ำเทท่าจนแทบถึงขั้นผูกขาดตลาดไปแล้ว เยี่ยหรู่ชวนชักสนใจ คิดคำนวณว่าจะทำการค้านี้ได้หรือไม่ ด้วยเหตุนี้เขาจึงจ้างคนนำทาง ตั้งใจไปดูกับตาตนเอง