ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 68-69 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 68-69

คฤหาสน์สกุลเลี่ยวในเขตซินเจี้ยทางทิศตะวันออกของเมืองประดับประดาทั้งภายนอกภายในเป็นสีขาวเพื่อไว้ทุกข์ นอกประตูใหญ่มีพวงหรีดซึ่งส่งมาจากผู้คนทุกแวดวงตั้งเรียงรายเต็มพืดไปตามริมถนนสองฝั่งจนแทบมองไม่เห็นหางแถว

แม้แต่ประธานาธิบดีก็ยังสั่งให้คนส่งพวงหรีดมา หลังจากท่านรู้ข่าวแล้วตกใจและเศร้าเสียใจมาก ขณะนี้มันวางอยู่ตรงตำแหน่งเด่นสะดุดตาที่สุดในโถงตั้งศพ

คนที่แต่งตัวแบบนักข่าวหนังสือพิมพ์สิบกว่าคนกำลังดักเฝ้าอยู่บริเวณหน้าประตูทางเข้า คอยจับสังเกตแขกที่มาเคารพศพไม่ขาดสาย

ทันใดนั้นทุกคนเห็นรถยนต์คันหนึ่งแล่นมาจากที่ไกล พอรถหยุดจอดสนิท คนขับรถวิ่งลงมาเปิดประตู คนคนหนึ่งก้มตัวลงมาจากบนนั้น เขาแต่งกายด้วยเครื่องแบบทหารกับรองเท้าขี่ม้าอย่างสุภาพเรียบร้อย เมื่อจำได้ว่าเป็นเฮ่อฮั่นจู่ผู้บัญชาการหน่วยทหารรักษาการณ์ พวกนักข่าวหนังสือพิมพ์พากันยกกล้องถ่ายเก็บภาพเขาด้วยความตื่นเต้นคึกคักอย่างสุดระงับ

รอมานานหลายวันในที่สุดเฮ่อฮั่นจู่ก็มาปรากฏตัวในงานศพเสียที

ท่ามกลางสายตาที่จับจ้องมองมาด้วยความรู้สึกนึกคิดต่างๆ กันไปจากด้านข้าง ชายหนุ่มย่างเท้าข้ามธรณีประตู เดินไปตรงหน้าแท่นบูชาซึ่งแขวนตัวอักษรขนาดใหญ่คำว่า ‘เตี้ยน*’ ไว้ รอให้ซุนเมิ่งเซียนที่มาถึงก่อนเข้าจุดธูปไหว้ศพด้วยหน้าตาเคร่งขรึมหม่นหมองเสร็จ ถึงก้าวเข้าไปเผากระดาษเงินกระดาษทองปึกหนึ่งด้วยตนเอง

เสียงร้องไห้สะอึกสะอื้นอย่างทุกข์ระทมของพวกผู้หญิงในสกุลเลี่ยวที่อยู่รอบหีบศพค่อยๆ เบาลง

สายตานับไม่ถ้วนจากทั้งสี่ทิศพุ่งตรงมาที่เขาประหนึ่งลูกธนูลับ

เฮ่อฮั่นจู่ยืนนิ่งด้วยสีหน้าเรียบเฉย มือของเขาถือกระดาษเงินกระดาษทองไว้กลางอากาศให้ติดไฟได้เร็วขึ้น

ประกายเพลิงลุกโชน ส่องกระทบดวงหน้าคมเข้มที่สงบนิ่งของเขา

เขาหลุบตาน้อยๆ มองดูกระทั่งเปลวไฟลามเลียกระดาษสีทองจนม้วนงอมอดไหม้ไปครึ่งหนึ่ง ก่อนจะยกขึ้นโยนใส่ถังเผากระดาษ โค้งคำนับสองทีเป็นอันเสร็จสิ้นการเคารพศพ จากนั้นค้อมศีรษะนิดหนึ่งให้ผู้ประกอบพิธีด้านข้างที่ขอบคุณเขาแล้วหมุนตัวจะเดินออกจากโถงตั้งศพ ฉับพลันนั้นชายสวมชุดผ้าดิบคนหนึ่งชักปืนก้าวเข้ามาจ่อไปที่กลางอกเขา

“คนแซ่เฮ่อ แกแน่มาก! ยังกล้าโผล่หน้ามาอีกหรือ แกนั่นล่ะเป็นคนบงการอยู่เบื้องหลัง แกมาได้จังหวะพอดี ฉันจะล้างแค้นให้พี่น้องฉันเดี๋ยวนี้เลย!”

ชายคนนี้คือเลี่ยวโซ่วกวงญาติผู้น้องของเลี่ยวโซ่วหลิน เป็นนายทหารยศพลตรีคนหนึ่งใต้บังคับบัญชาของเขา

ดวงตาทั้งคู่ของเลี่ยวโซ่วกวงเบิกถลน ปีกจมูกขยับไปมาด้วยความเดือดดาล เขากัดฟันกรอดๆ มองเฮ่อฮั่นจู่ด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น

กริ๊ก!

เขาง้างไกปืน

บรรยากาศทั้งงานเขม็งเกลียวในฉับพลัน

ผู้ว่าฯ โจวก็อยู่ด้วย เขานั่งอยู่ข้างโต๊ะเห็นดังนั้นก็สะดุ้งตกใจ ลุกพรวดขึ้นจะเข้าไปห้าม แต่เห็นซุนเมิ่งเซียนลอบขยิบตาให้ เขาละล้าละลังเล็กน้อยแล้วค่อยๆ หยุดฝีเท้า

เสียงร่ำไห้กระซิกๆ ของพวกผู้หญิงภายในโถงตั้งศพก็หยุดลงทันใด รอบด้านเงียบกริบไร้สุ้มเสียง ได้ยินเพียงเสียงหายใจแรงๆ ดังฟืดฟาด บ่งชัดถึงความเด็ดเดี่ยวในเสี้ยวขณะนี้ของเลี่ยวโซ่วกวง

เฮ่อฮั่นจู่มองปากกระบอกปืนดำมะเมื่อมที่หันมาทางเขาปราดหนึ่ง ก่อนจะเดินเข้าไปยกมือกำกระบอกปืนไว้แล้วดึงเข้ามาใกล้ๆ ให้ปากกระบอกปืนจ่อตรงตำแหน่งหว่างคิ้วของตนเอง

กระดาษเงินกระดาษทองที่เพิ่งโยนลงถังเผากระดาษที่มีถ่านไฟคุแดงโดนเผามอดไหม้หมดสิ้นอย่างรวดเร็ว เกิดเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นระลอกหนึ่งแล้วอ่อนแรงลง เหลือไว้แค่ควันลอยอ้อยอิ่ง และค่อยๆ สลายหายไปในอากาศเจือกลิ่นไหม้จางๆ รอบตัวในที่สุด

เฮ่อฮั่นจู่จ้องตากับเลี่ยวโซ่วกวงตรงหน้าครู่หนึ่งถึงพูดขึ้นว่า “ทำไมไม่เหนี่ยวไกล่ะ” น้ำเสียงของเขาราบเรียบยิ่ง

มือข้างที่ถือปืนไว้ของเลี่ยวโซ่วกวงถูกจับยกขึ้นสูงเริ่มสั่นเทาน้อยๆ ในดวงตาไม่มีแววดุดันกล้าหาญเหมือนชั่วอึดใจก่อนหน้าให้เห็นอีก เขาหลบสายตาที่จ้องมองมานิ่งๆ อย่างลังเลไม่แน่ใจ

เฮ่อฮั่นจู่ตวัดข้อมือแย่งปืนจากมือเลี่ยวโซ่วกวงมาอย่างง่ายดาย หมุนปืนกลับแล้วใช้ส่วนด้ามฟาดกลางหน้าผากเลี่ยวโซ่วกวงเต็มแรงในพริบตาเดียวอย่างไม่ให้อีกฝ่ายตั้งตัวสักนิด

แรงฟาดที่หนักหน่วงทำให้เลี่ยวโซ่วกวงล้มลงกับพื้น ศีรษะแตกเลือดไหลลงมาจากหน้าผากทันควัน

ทุกคนตกใจยกใหญ่ พากันวิ่งกรูมาแต่ไม่กล้าเข้าไปใกล้ๆ ส่วนพวกผู้หญิงกรีดร้องเสียงแหลม

เฮ่อฮั่นจู่มองเลี่ยวโซ่วกวงที่ล้มลงนั่งกับพื้นกุมหัวไว้ ท่าทางยังดึงสติคืนมาไม่ได้อย่างเห็นได้ชัด เขาโยนปืนที่ด้ามจับเปื้อนเลือดทิ้ง ใช้สองมือยกขากางเกงก่อนย่อตัวลงตรงหน้าอีกฝ่าย มองหน้าผากที่มีเลือดไหลไม่หยุดอย่างพินิจพิจารณาแล้วโคลงศีรษะ ล้วงผ้าเช็ดหน้าสีขาวสะอาดในกระเป๋าเสื้อของตนเองออกมา ยื่นมือไปใช้มันเช็ดคราบเลือดซึ่งเปรอะเปื้อนบริเวณดวงตาข้างหนึ่งของเลี่ยวโซ่วกวงออก ก่อนจะใช้ผ้ากดปากแผลไว้ให้

“พลตรีเลี่ยว เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้น ทุกคนต่างอยู่ในอารมณ์ย่ำแย่ทั้งนั้น ผมเข้าใจได้ แต่คุณทำแบบนี้จะทำให้คนอื่นเข้าใจผิดได้ง่ายมาก ผมเป็นคนห่วงชื่อเสียงมาแต่ไหนแต่ไร ดังนั้นจำเป็นต้องแสดงความบริสุทธิ์ใจกันหน่อย ผมมือหนักไปนิด หวังว่าคุณจะไม่ถือสานะ”

เฮ่อฮั่นจู่หยักยิ้มน้อยๆ พร้อมจับมือของเลี่ยวโซ่วกวงขึ้นมากดผ้าเช็ดหน้าบนแผลเอาเอง จากนั้นค่อยลุกขึ้นยืน สีหน้าเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมเย็นชา เขาไม่มองคนรอบด้านสักแวบเดียว ก้าวขาเดินออกไปทิ้งเลี่ยวโซ่วกวงไว้ที่เดิม

แสงแฟลชจากกล้องถ่ายรูปของนักข่าวดังขึ้นอีกระลอกหนึ่ง ชายหนุ่มพร้อมด้วยผู้ติดตามสองคนซ้ายขวาก็ขึ้นรถยนต์ออกจากคฤหาสน์สกุลเลี่ยวไป

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com