ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 68-69 – หน้า 5 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 68-69

เฮ่อหลันเสวี่ยล่ำลาพวกเพื่อนนักเรียนแล้วตั้งท่าจะกลับ พลันเห็นตำรวจคนหนึ่งยืนอยู่ริมถนน ก้มหน้าอ่านเนื้อหาในใบปลิวอย่างเอาจริงเอาจัง เธอจำเขาได้ในแวบแรกว่าเป็นญาติผู้พี่ของคุณชายซูที่เจอกันด้านนอกภัตตาคารเทียนเซียววันนั้น ดูเหมือนจะชื่อว่า…เยี่ยเสียนฉี

“คุณชายเยี่ย!” เธอเดินเข้าไปส่งเสียงเรียกทักทาย

จากนั้นเห็นเขาหันหน้ามาเห็นเธอแล้วพูดอย่างตื่นเต้นแกมดีใจ “คุณอาเล็ก? บังเอิญจัง คุณก็มาแถวนี้เหมือนกันหรือครับ”

เฮ่อหลันเสวี่ยได้ยินชายหนุ่มอ้าปากเรียกเธอว่า ‘อาเล็ก’ ทั้งที่อายุมากกว่าก็หลุดหัวเราะพรืดอย่างกลั้นไม่อยู่ เธอกระแอมให้คอโล่ง ปั้นหน้าเคร่งขึ้นแล้วพยักหน้าหงึกหงัก “วันนี้คุณลาดตระเวนอยู่ที่นี่หรือคะ”

“ครับ เมื่อครู่นี้เห็นพวกคุณแจกใบปลิวอยู่ ผมก็เลยรับมาใบหนึ่ง งานที่พวกคุณทำอยู่มีความหมายเหลือเกิน สมควรเผยแพร่ให้มากขึ้น ถ้าไม่มีใครเตือนสติ ประชาชนก็ยังคงหลงเชื่องมงายไม่รู้เรื่องรู้ราว แล้วเมื่อไรสังคมถึงจะพัฒนาสักทีก็ไม่รู้ เดี๋ยวผมจะเอาใบปลิวนี้กลับไปที่สถานีตำรวจ บอกให้ทุกคนท่องจำไว้ให้หมดแล้วกลับไปเผยแพร่ให้คนที่บ้านรับรู้ด้วย” ว่าแล้วเขาก็พับกระดาษอย่างเรียบร้อยใส่ในกระเป๋าเสื้อด้วยท่าทางจริงจัง อีกทั้งยังบอกให้ลูกน้องคนหนึ่งไปเอาใบปลิวที่เหลือมา

“มอบหน้าที่ให้พวกผมเอง รับรองแจกหมดแน่ครับ”

พวกนักเรียนเห็นดังนั้นก็ดีใจไปตามๆ กัน

เฮ่อหลันเสวี่ยขอบคุณเขา เธอมีความรู้สึกคล้ายได้พบกับคนที่ถูกอัธยาศัยกัน ตอนนี้เองเห็นคนขับรถเดินเข้ามา เธอจึงกล่าวลาอย่างสุภาพว่าต้องกลับแล้ว

คนขับรถเข้ามาบอกว่าถนนแถวนี้รถติดมาก ขับรถเข้ามาไม่ได้ คงต้องให้เธอเดินเท้าออกไปก่อน

เฮ่อหลันเสวี่ยตอบรับแล้วจะแยกไป กลับได้ยินเยี่ยเสียนฉีบอกให้เธอรอสักครู่แล้ววิ่งเข้าไปในตรอกสายหนึ่ง ไม่นานนักก็เข็นจักรยานแบบตะวันตกออกมา เขาตบๆ เบาะหลังและพูดว่าจะไปส่งเธอ

“ไม่ต้องค่ะๆ ฉันเดินออกไปเองได้” เฮ่อหลันเสวี่ยปฏิเสธเป็นพัลวัน

“คุณเป็นคุณอาเล็กของผม ผมต้องดูแลคุณ ทางนี้ไม่ได้ใกล้ๆ นะครับ ผมไปส่งคุณดีกว่า ไม่ได้เปลืองแรงอะไรสักหน่อย ถ้าคุณไม่นั่งแสดงว่าดูถูกผม”

เขาพูดจบแล้วบอกกล่าวให้คนขับรถของสกุลเฮ่อรับรู้ จากนั้นขึ้นนั่งคร่อมบนอานจักรยานก่อน วางขาข้างหนึ่งยันพื้นและเบือนหน้ามองเฮ่อหลันเสวี่ยรอเธอขึ้นมา

เด็กสาวเห็นท่าทีเขาตั้งใจจริง อีกทั้งเป็นญาติผู้พี่ของคุณชายซู จะหักหน้ากันเกินไปก็กระดากใจ เมื่อบอกปัดไม่ได้ เธอได้แต่ให้คนขับรถไปก่อน ส่วนตนเองนั่งบนเบาะหลังของจักรยาน

เยี่ยเสียนฉีหน้าชื่นตาบาน ตะโกนบอกให้อีกฝ่ายนั่งดีๆ เขาจับแฮนด์จักรยานไว้มั่นแล้วปั่นด้วยสองเท้า วงล้อสองล้อก็เริ่มหมุนพาจักรยานแล่นไปข้างหน้า

ยุคนี้จักรยานของชาวตะวันตกแบบนี้ยังมีน้อยมากพอๆ กับรถยนต์ และเป็นของนำเข้าจากต่างประเทศทั้งสิ้น จักรยานคันหนึ่งมักมีราคาสูงถึงหนึ่งร้อยเหรียญ เป็นของเล่นที่พวกลูกเศรษฐีถึงจะมีปัญญาซื้อหาได้

เฮ่อหลันเสวี่ยถามตามปากพาไป “ทางสถานีตำรวจมีจัดจักรยานแบบนี้ไว้ให้พวกคุณด้วยหรือคะ”

จักรยานคันนี้ย่อมเป็นเยี่ยเสียนฉีซื้อมาขี่เล่นเองอยู่ก่อนแล้ว เขาพูดปดไปตามน้ำว่า “ใช่ๆ เบื้องบนจัดให้ครับ ให้พวกผมปฏิบัติหน้าที่ได้สะดวก”

เธอพูดอย่างทึ่งๆ “ท่านอธิบดีของพวกคุณไม่เลวเลยนะคะ เห็นอกเห็นใจพวกคุณขนาดนี้”

“พี่ชายคุณเป็นผู้นำที่ดี ต้องยกความดีความชอบให้เขาคนเดียวเลยขอรับกระผม ฮ่าๆ”

เฮ่อหลันเสวี่ยเห็นเขาพูดจาชวนขันก็กลั้นหัวเราะไม่อยู่ ฝ่ายเยี่ยเสียนฉีได้ยินเสียงหัวเราะของเด็กสาวข้างหลังจึงเหลียวมองแวบหนึ่งแล้วยิ่งรู้สึกคึกคักฮึกเหิมไปหมด เขาปั่นจักรยานโฉบเฉี่ยวเร็วฉิว ผู้คนบนถนนเห็นแล้วพากันหลีกทางให้เพราะกลัวจะชนโดนตนเอง

บริเวณใกล้ๆ ลูกน้องของเขาคนหนึ่งถือใบปลิวที่เหลืออยู่ปึกหนึ่งซึ่งรับมาเมื่อครู่นี้แจกจ่ายให้คนบนถนน เห็นชายสูงวัยท่าทางคล้ายมาจากต่างถิ่นเดินเอาสองมือไพล่หลังเหลียวซ้ายแลขวาผ่านมาด้านข้าง เขายื่นใบปลิวให้อีกฝ่าย “นี่ลุงเอาไป! ห้ามทิ้งนะ กลับไปอ่านดูดีๆ ด้วย”

ตอนเยี่ยหรู่ชวนได้ยินเสียงเรียกแล้วหันหน้าไป เหลือบเห็นแผ่นหลังของตำรวจคนหนึ่งกำลังปั่นจักรยานให้นักเรียนหญิงซ้อนท้ายไวๆ ทางหางตา เขาพลันรู้สึกคุ้นตาเลยอดเขม้นตามองไม่ได้

“มองอะไรอยู่ ยังไม่รับไว้อีก” ตำรวจสายตรวจพูดเร่ง

จังหวะนี้เองเยี่ยหรู่ชวนเห็นตำรวจคนนั้นพูดอะไรก็ไม่รู้ นักเรียนหญิงเปล่งเสียงหัวเราะ แล้วตำรวจคนนั้นก็เอี้ยวคอแอบมองเธอแวบหนึ่ง

ฟ้าดินสิ่งศักดิ์สิทธิ์! เขามองเห็นลูกชายของตนเองหรือนี่?!

ลูกชายที่ควรจะเรียนหมออยู่ที่ตงหยางในตอนนี้คนนั้น!

เขาเกือบนึกว่าตนเองตาฝาด

เยี่ยหรู่ชวนขยี้ตาแล้วมองซ้ำอีกที เขาทิ้งคนที่มาด้วยไว้ที่เดิม ก้าวขาวิ่งไล่ตามโดยไม่รอช้า แต่กวดฝีเท้าตามไปได้ระยะหนึ่ง เห็นลูกชายปั่นจักรยานเร็วมาก อีกทั้งหลังจากเขาได้รับบาดเจ็บที่ขาแล้วก็วิ่งได้ไม่เร็ว เขาจึงรีบเรียกรถลากริมทางคันหนึ่ง ปีนขึ้นไปนั่งหายใจหอบแฮกๆ พร้อมกับชี้ไปข้างหน้า “ตามไป…เร็วเข้า!”

“ได้เลย ท่านนั่งดีๆ นะขอรับ” คนลากรถขานรับและออกวิ่งลากรถไล่ตามไป

เยี่ยเสียนฉีทางด้านหน้าซึ่งได้โอกาสให้สาวสวยซ้อนท้ายคราวนี้ยังไม่สำเหนียกถึงคราวเคราะห์ที่กำลังติดตามมาข้างหลังแม้แต่น้อยนิด เขาอยากให้เส้นทางสายนี้ทอดยาวไปเรื่อยๆ ไม่สิ้นสุดใจจะขาด จะให้ปั่นจักรยานไปอย่างนี้ตลอดชีวิตเขาก็ยินยอมพร้อมใจ น่าเสียดายที่สวรรค์ไม่เป็นใจ พอตัดผ่านถนนสองสามสายออกมา เม็ดฝนเย็นเฉียบพลันหยดแหมะลงบนหน้าผาก

คนขับรถของสกุลเฮ่อก็ขับรถมาทางด้านหลังเช่นกัน

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com