ไม่ใช่แค่นี้ คุณชายหวังถึงกับมาด้วยตนเอง เขาตามมาข้างหลัง บอกพร้อมกับยิ้มกว้างจนตาหยีประหนึ่งไม่เคยเกิดอะไรขึ้นมาก่อนว่าเมื่อครู่เขาได้ยินเรื่องนี้เลยให้ผู้คุ้มกันลงไปรับคนขึ้นมา ให้พ่อบ้านเก่าแก่ของทั้งคู่พักผ่อนที่นี่ตามสบาย
คุณชายหวังให้เกียรติขนาดนี้ ซ้ำยังพาตัวลุงจงขึ้นมาแล้ว สองลูกพี่ลูกน้องยังจะทำอย่างไรได้อีก ได้แต่พูดขอบคุณซ้ำๆ
คุณชายหวังโบกมือไปมา “เอาล่ะ ตามสบายเถอะ” ว่าแล้วก็เริ่มครวญเพลงเบาๆ “…ข้านี้ออกจากเมืองเยี่ยนมา อันทิวทัศน์เมืองเหมยหลงแสนลานตา…” เขาเดินเอ้อระเหยจากไปด้วยสีหน้าเบิกบาน
รอกระทั่งเขาไปแล้ว ซูจงที่แกล้งป่วยอยู่จึงยืดตัวลุกขึ้น ถามนายน้อยทั้งสองว่าเกิดอะไรขึ้น
เมื่อครู่เขาอยู่ข้างล่างกำลังรอนายน้อยสองคนลงไป คิดไม่ถึงว่าจะมีคนมาหาบอกว่าจะรับเขาขึ้นไปพักรักษาตัว เขานึกถึงคำพูดของนายหญิงน้อยตอนมาหาเขาเลยกลั้นใจตามขึ้นมาก่อนอย่างไม่มีทางเลือก
สองลูกพี่ลูกน้องสบตากัน
มาถึงขั้นนี้คงต้องพักอยู่ข้างบนแล้ว แค่ต้องลำบากซูจงให้นอนเฉยๆ อยู่ในห้องสองสามวันก่อน
วันที่เหนือความคาดหมายนี้ผ่านพ้นไปในที่สุด หลังจากนั้นคุณชายหวังยังคงเรียกพวกเขาไปเล่นไพ่บริดจ์เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น และดีที่อีกฝ่ายไม่ได้บังคับให้ซูเสวี่ยจื้อหัดร้องอุปรากรกับเขาอีก ทั้งคู่ถึงคลายใจลงได้ทีละน้อย
เรือแล่นไปตามกระแสน้ำจากทิศตะวันตกสู่ทิศตะวันออกเช่นนี้อีกสองวัน วันนี้หยุดเทียบท่าแถวตำบลใหญ่แห่งหนึ่งเพื่อจัดหาเสบียงเพิ่มเติม
ซูจงต่างจากนายหญิงน้อยของตน เขาเป็นคนวิ่งรอกทำงานจนเคยชิน นอนอยู่ในห้องได้สองวัน ต่อให้สะดวกสบายแค่ไหน เขาก็ทนอยู่เฉยไม่ไหวแล้ว
เขาได้เห็นว่านายน้อยทั้งสองพักอยู่อย่างสบาย ส่วนคุณชายหวังคนนั้นก็ทำสีหน้าแย้มยิ้มทั้งวันอย่างอบอุ่นเป็นกันเองมาก เขาก็สบายใจและฉวยจังหวะที่เรือหยุดจอดบอกว่าหายป่วยแล้ว พูดขอบคุณคุณชายหวังและย้ายลงไปข้างล่างตามเดิม
ผ่านไปครึ่งวัน พอปล่องไฟขนาดใหญ่พ่นกลุ่มควันออกมาเป็นทางยาวคล้ายมังกรสีดำ เรือก็เคลื่อนตัวออกจากท่า
สองวันที่แล้วมีฝนตกลงมาทำให้ระดับน้ำสูงขึ้น ผืนน้ำช่วงนี้กว้างขึ้นไม่น้อยอย่างฉับพลัน สายน้ำที่ไหลหลากโอบพยุงเรือกลไฟที่ขับเคลื่อนด้วยพลังเครื่องยนต์สามพันแรงม้าลำนี้ล่องลอยไปทางทิศตะวันออกอย่างมั่นคงกลางกระแสน้ำเชี่ยวแรง
หลังผ่านแม่น้ำช่วงนี้ไปแล้วมุ่งหน้าต่อไปเรื่อยๆ วันพรุ่งนี้เรือจะแล่นถึงสุดปลายทางของแม่น้ำตอนบน และเริ่มเข้าสู่เขตแดนของอีกมณฑลหนึ่งแล้ว
ตำบลที่เพิ่งผ่านมาเมื่อครู่เป็นจุดแวะพักประจำของเรือที่จะเดินทางไปทางทิศตะวันออก มีคนค้าขายไม่น้อยลงเรือมาจากที่นั่นพร้อมด้วยสินค้าท้องถิ่นหลากหลายชนิดเช่นใบชา ไก่รมควัน พวกเขาตะโกนเร่ขายของเสียงดัง ยังมีคนเล่นกายกรรมและละครลิงอีกด้วย ผู้โดยสารที่อุดอู้อยู่บนเรือมาหกเจ็ดวันพากันออกมาอย่างตื่นเต้นคึกคัก ชั่วอึดใจเดียวบริเวณดาดฟ้าเรือกับท้ายเรือของชั้นกลางกับชั้นล่างก็เต็มไปด้วยผู้คน ทำให้ครึกครื้นขึ้นกว่าปกติไม่น้อย ดูไปแล้วคล้ายตลาดย่อมๆ
ทว่าของที่เร่ขายอยู่บนเรือย่อมไม่ถูกตาถูกใจซูจงอยู่แล้ว เขาฉวยจังหวะเรือหยุดจอดขึ้นฝั่งไปซื้อใบชาชั้นดีชื่อดังของถิ่นนี้ด้วยตนเอง ขณะนี้เขาเดินถือมันมาถึงเชิงบันไดขึ้นไปชั้นบนสุด ขอให้ผู้คุ้มกันที่เฝ้าอยู่ตรงนั้นไปตามนายน้อยของตนเองลงมา
เมื่อคืนเล่นไพ่กันถึงดึกดื่นค่อนคืนตามเคย แต่หลังเล่นเสร็จกลับมาได้ไม่นานก็ไม่รู้ว่าคุณชายหวังเกิดเพี้ยนอะไรขึ้น ให้คนมาเรียกไปดื่มเหล้าฝรั่งกับเขาอีก ซูเสวี่ยจื้อแกล้งหลับไม่ได้ไป แต่ญาติผู้พี่ยอมดื่มเป็นเพื่อนแบบถึงไหนถึงกัน สุดท้ายดื่มเหล้าจนเมามายนอนหลับจนถึงตอนนี้ยังไม่ตื่น
ซูเสวี่ยจื้อเลยออกมาเอง
“นายน้อย นี่เป็นใบชาที่ผมขึ้นฝั่งไปซื้อมาโดยเฉพาะ อันนี้ให้คุณกับนายน้อยเยี่ย ส่วนอันนี้มอบให้พวกคุณชายหวัง ฝากนายน้อยนำไปให้แทนผมด้วย บอกว่าเป็นการขอบคุณพวกเขาแล้วกันขอรับ” ซูจงพูด
หญิงสาวหันหน้าไปมองคนที่ยืนพิงข้างราวรั้วดาดฟ้าเรือดูความคึกคักพลุกพล่านด้านล่างอยู่ในขณะนี้แวบหนึ่งก่อนรับของมา เธอเดินเข้าไปบอกต่อแล้วถือใบชาด้วยสองมือยื่นส่งให้
คุณชายหวังชำเลืองตามองนิดหนึ่งทว่าไม่ขยับตัว เขาพยักพเยิดคางบอกให้ผู้คุ้มกันที่อยู่ด้วยกันรับไว้