เมื่อเช้าเขาออกจากเมืองตอนห้านาฬิกากว่า
ชายหนุ่มนอนไม่หลับทั้งคืน อารมณ์โกรธและไม่พอใจที่พลุ่งพล่านตรงกลางอกเป็นแรงขับให้เขามุ่งหน้ามาที่นี่แต่เช้าตรู่อย่างทนรอไม่ไหวจริงๆ
เขาอยากเห็นกับตาว่าลูกสาวสกุลซู ผู้หญิงจอมหลอกลวงพูดโกหกเป็นไฟคนนั้น หลังจากโดนเขาเปิดโปงความลับซึ่งๆ หน้า เธอจะทำหน้าอย่างไร
เฮ่อฮั่นจู่มองอยู่ไกลๆ เห็นประตูไม้เปิดออก สองสามีภรรยาเจ้าของบ้านเดินออกมาส่งแขกด้วยท่าทางเปี่ยมด้วยไมตรีจิต
สายตาเขาปะทะเข้ากับร่างร่างหนึ่ง
เธอออกมาแล้ว ยืนอยู่บนบันไดหินใต้ชายคาเหลียวมองไปรอบตัว
สายลมพัดผ่านเรือนผมสั้นที่ดูเรียบร้อยของเธอ นัยน์ตาสุกใสเปล่งประกายระยับจับตา
เขารู้สึกไม่วายคล้ายว่าเธอจะมองเห็นตนเอง ก็เกิดร้อนตัวขึ้นมากะทันหัน ถอยหลังสองก้าวโดยไม่รู้ตัวแล้วหยุดยืนนิ่งเพ่งตามองไปอีกครั้ง
เธอสวมเสื้อสูทลำลองสีขาวนวลกับกางเกงขี่ม้าลายตาราง คงจะคาดไม่ถึงว่าหิมะจะตกกะทันหัน เสื้อผ้าอาภรณ์แลดูบางไปไม่ค่อยอบอุ่น
เธอถือผ้าพันคอผืนหนึ่งในมือ คลี่ออกห่มไหล่ง่ายๆ เวลานี้เองฟู่หมิงเฉิงก้าวตามออกมากางร่มให้
เธอหันหน้าไปส่งยิ้มให้อีกฝ่าย ดูท่าทางเหมือนพูดขอบคุณแล้วรับร่มมาถือเองทันที จากนั้นเดินย่ำพื้นหิมะไปที่รถยนต์ซึ่งจอดอยู่นอกประตู
ฟู่หมิงเฉิงกวดฝีเท้าตามมาเปิดประตูรถให้
เธอพยักหน้าให้ฟู่หมิงเฉิง หุบร่มและก้มตัวลอดเข้าไปนั่ง
จากนั้นฟู่หมิงเฉิงก็ขึ้นรถตาม
เฮ่อฮั่นจู่เห็นภาพนี้แล้ว ในใจเกิดความรู้สึกว่าเธอกับฟู่หมิงเฉิงเป็นคู่ที่เหมาะสมกันมาก
อารมณ์โกรธและไม่พอใจจนทำให้เมื่อคืนเขาข่มตาอย่างไรก็นอนไม่หลับพลันสลายหายไปตามความรู้สึกนี้ด้วย
ฟู่หมิงเฉิงสตาร์ตรถอุ่นเครื่องแล้วขับออกไปอย่างช้าๆ
เดิมทีเฮ่อฮั่นจู่ควรจะเข้าไปเรียกเธอลงจากรถ พาตัวไปซักไซ้ไล่เลียงทันที
ฟู่หมิงเฉิงขัดขวางเขาไม่ได้
ขอแค่เขาอยากทำ ไม่มีใครขัดขวางได้
แต่เขากลับยืนอยู่เฉยๆ ไม่ขยับตัว มองดูฟู่หมิงเฉิงขับรถพาเธอหายลับตาไปทีละน้อย
ลมโชยมาระลอกหนึ่งเกิดเสียงดังซ่าๆ หิมะที่เกาะอยู่ตามกิ่งไม้เหนือศีรษะหล่นใส่คอเสื้อของชายหนุ่ม
เกล็ดหิมะสัมผัสกับไออุ่นจากผิวกายใต้ร่มผ้าเขาจึงละลายอย่างรวดเร็วแล้วไหลลงไปตามแผ่นหลังกว้าง
เสื้อของเขาเปียกแฉะเย็นเฉียบเป็นวง
จิตใจที่สุมแน่นไปด้วยไฟโทสะมาค่อนคืนของเขาก็ค่อยๆ เยือกเย็นลงตามไปด้วย
คล้ายกับกระดาษกรุหน้าต่างที่มีหิมะเกาะแล้วละลายเปียกซึม กระดาษไม่ขาดแต่จะอ่อนนิ่มยวบยาบ
เฮ่อฮั่นจู่ห่อเหี่ยวใจกะทันหัน รู้สึกเหนื่อยหน่ายเหลือแสน
นี่มันอะไรกัน
นอกจากจะไม่หลับไม่นอนทั้งคืนแล้ว ยังทำเรื่องไร้สาระน่าขำแบบนี้อีก
ลูกของสกุลซูจะเป็นผู้ชายหรือผู้หญิงแล้วมันกงการอะไรของเขาด้วย
เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเธออยากปิดบัง ไม่เต็มใจเปิดเผยความลับของครอบครัวกับคนนอก
เขาเองก็รู้โดยบังเอิญ มีสิทธิ์อะไรไปเค้นถามเธอ
พอคิดอีกทีที่เขาโดนหลอกโดนหยามน้ำหน้าก็รนหาที่เอง
เขาถูกใจเธอถึงมีความคิดจะให้เธอแต่งงานกับน้องสาว
แล้วเขาก็โง่งมเองที่เชื่อคำโกหกของเธอ อยากรักษาโรคของเธอ
ถ้าพูดแบบไม่ค่อยน่าฟังคือเขาเป็นฝ่ายเสนอตนเองทั้งนั้น
เธอปฏิเสธมาโดยตลอด ไม่มีทีท่าอยากเข้ามาใกล้ชิดเขาก่อนแม้แต่น้อยนิด
ตอนนี้เขาอยู่ในฐานะอะไรที่จะไปซักไซ้ไล่เลียงเธอที่ปิดบังความลับนี้
อาศัยแค่ว่าเธอเรียกเขาว่า ‘คุณน้า’ หรือ
ชายหนุ่มยืนต่ออีกชั่วครู่ ลมพัดมาระลอกหนึ่งเหนือศีรษะซ้ำอีกที
เฮ่อฮั่นจู่ไม่ขยับตัว ปล่อยให้หิมะเย็นจัดร่วงหล่นเต็มศีรษะ เขาเหลือบมองท้องฟ้าขมุกขมัว สุดท้ายล้วงบุหรี่มวนหนึ่งออกมาอย่างเอื่อยเฉื่อย ยกมือป้องลมกดไฟแช็กดังแชะๆ หลายต่อหลายทีกว่าจะจุดไฟติดแล้วสูบคำหนึ่ง ก่อนหมุนตัวย่ำรองเท้าทรงสูงบนพื้นหิมะดังสวบสาบเดินจากไป
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 3 มี.ค. 67 เวลา 12.00 น.