ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 72-73 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 72-73

พ่อบ้านสกุลซูก็อายุปูนนี้แล้ว มีอาการข้อเข่าเสื่อมตามประสาผู้สูงวัย วันนี้หิมะตกพื้นลื่นอากาศหนาว อีกทั้งซูเสวี่ยจื้อก็ไม่ได้ไม่รู้จักทาง จึงบอกเขาว่าไม่ต้องตามไป

เยี่ยหรู่ชวนตวาดเรียกลูกชายที่หลบอยู่นอกห้องให้เข้ามา และสั่งให้ไปด้วยกันเพื่อคอยคุ้มครองเธอ

เยี่ยเสียนฉีขานรับซ้ำๆ อย่างไม่มีปากมีเสียง

เพราะจะไปอธิบายเรื่องที่ผิดนัดและขอเปลี่ยนเวลานัดหมายใหม่ ดังนั้นไม่จำเป็นต้องรอถึงตอนบ่าย

หญิงสาวตรวจตราเครื่องแต่งกายของตนเองก่อนออกไป

พักนี้เธอไปข้างนอกบ่อยๆ สวมเครื่องแบบนักเรียนไม่สะดวก แต่เทียบกับชุดเสื้อคลุมยาวแล้ว เธอชอบใส่กางเกงมากกว่า ข้อดีของการใช้ชีวิตในฐานะผู้ชายก็คือจุดนี้นี่เอง สามารถใส่กางเกงได้ตามใจชอบ

แม้ว่าขณะนี้จะมีกลุ่มหัวก้าวหน้าออกมาเรียกร้องสิทธิสตรีกันแล้ว แต่ในภาพรวมค่านิยมของคนยุคนี้ยังยึดถือตามจารีตประเพณีดั้งเดิมกันอยู่ เมื่อพูดถึงการเข้าสังคม ผู้หญิงสวมชุดฝรั่งอวดคออวดแขนก็ถือว่าล้ำสมัยแล้ว ขืนใส่กางเกงอีก คงจะเป็นที่ตกตะลึงของใครต่อใครเลยทีเดียว

ตอนแรกเธอมีชุดสูทชุดนั้นอยู่ชุดเดียว แต่ใส่ในเวลาปกติจะดูเป็นทางการเกินไป อีกทั้งตั้งแต่เหตุบังเอิญครั้งนั้น ลึกๆ ในใจเธอไม่อยากแตะมันอีก ด้วยเหตุนี้พักก่อนเธอจึงซื้อเสื้อผ้าสำหรับสวมใส่ออกไปข้างนอกเพิ่มอีกสองชุด

ชุดที่อยู่บนตัวตอนนี้ยังเป็นชุดเดียวกับเมื่อวาน แต่ก่อนออกจากวิทยาลัยเธอใส่เสื้อโค้ตผ้าขนสัตว์สีกากีอีกตัว พันผ้าพันคอ และสวมหมวกทรงสูง ทั้งกันหนาวได้ทั้งไม่นับว่าเป็นการแต่งกายตามสบายเกินไป เหมาะกับการไปพบคน

เธอสำรวจความเรียบร้อยของตนเองแล้วถึงลงไปพร้อมกับญาติผู้พี่

ตอนทั้งสองจะออกจากหน้าประตูโรงแรม ตำรวจสายตรวจนายหนึ่งวิ่งมาบอกว่ามีครูวิทยาลัยคนหนึ่งมาแจ้งความว่าเพื่อนของเขาหายตัวไปอย่างไม่มีสาเหตุ สงสัยว่าจะถูกคนทำร้าย ขอให้ทางตำรวจทำการสืบสวนสอบสวนและดำเนินคดีตามกฎหมาย

เยี่ยเสียนฉีพูดขึ้นว่า “ผมมีธุระ พวกคุณบันทึกปากคำไปก่อน ผมกลับไปแล้วค่อยว่ากันอีกที”

ซูเสวี่ยจื้อเห็นตำรวจสายตรวจทำท่าอึกอักสีหน้าลำบากใจ เธอจึงบอกให้ญาติผู้พี่ไปทำงาน ไม่ต้องเจาะจงไปเป็นเพื่อน เธอคุ้นเคยที่ทางดีและนั่งรถลากไปเองได้

ทีแรกชายหนุ่มรู้สึกหวาดหวั่นอยู่บ้างเมื่อต้องไปพบเฮ่อฮั่นจู่ พอเห็นญาติผู้น้องพูดอย่างนี้กอปรกับในสถานีตำรวจมีคดีต้องทำ เขาไม่ยืนกรานต่อ โบกรถลากคันหนึ่งให้ ส่งเธอขึ้นรถแล้วจากไปอย่างเร่งรีบเช่นกัน

 

ตอนหญิงสาวไปถึงคฤหาสน์สกุลเฮ่อ อีกสิบห้านาทีจะเป็นเวลาสิบเอ็ดนาฬิกาแล้ว

หิมะตกหนักมากขึ้น

บ้านเรือนแถบนี้เป็นบ้านเดี่ยวตั้งอยู่แยกกันหมด ปกติก็เงียบเชียบผู้คนบางตา บริเวณโดยรอบมีแต่ต้นไม้ ขณะนี้โดนปกคลุมด้วยหิมะจนกลายเป็นสีขาวโพลนจนทั่ว ดูไปแล้วยิ่งเงียบสงัดกว่าเดิม

เหล่าซย่าเปิดประตูให้

ซูเสวี่ยจื้อถามอีกฝ่ายว่าเฮ่อฮั่นจู่อยู่หรือเปล่า

เหล่าซย่าตอบ “อยู่ขอรับ คุณผู้ชายกลับมาตั้งนานแล้วยังไม่ได้ออกไปไหน” พูดจบก็เชิญเธอเข้าไป

เธอเดินตัดลานหน้าบ้านเข้าไปหยุดอยู่นอกประตูห้องรับแขก เคาะหิมะออกจากรองเท้า

ป้าอู๋ออกมาต้อนรับ พอรู้จุดประสงค์ที่เธอมาก็เอ่ยว่า “คุณผู้ชายน่าจะยังนอนอยู่ คุณชายซูรอประเดี๋ยวนะเจ้าคะ ฉันจะขึ้นไปดูให้”

จวนเที่ยงวันแล้ว คุณน้าคนนี้ยังนอนหลับอยู่อีกหรือนี่

สงสัยเมื่อคืนคงไปเที่ยวสำเริงสำราญมาทั้งคืนอีกตามเคย ใช้เวลากลางวันกลางคืนสลับกัน ไม่มีวินัยในตนเองเอาซะเลย

ป้าอู๋ขึ้นไปถึงหน้าห้องของเฮ่อฮั่นจู่ที่ชั้นบน เคาะประตูเบาๆ สองทีแล้วรอครู่หนึ่ง เมื่อไม่ได้ยินเสียงตอบจากด้านในก็นึกว่าเขายังนอนอยู่ เธอกำลังจะหันหลังกลับ พลันได้ยินเสียงพูดแหบต่ำแฝงรอยขุ่นมัวจางๆ ดังลอยมาจากหลังประตู

“มีเรื่องอะไร”

เธอรีบตอบ “คุณผู้ชายเจ้าคะ คุณชายซูมาหา บอกว่าคุณลุงของเขาไม่สบายกะทันหัน ตอนบ่ายออกมาไม่ไหวจริงๆ เลยอยากจะขอขมาคุณ คุณจะให้พบไหมเจ้าคะ”

คนในห้องนิ่งเงียบไป ป้าอู๋รอจนเกือบสงสัยว่าเขาหลับไปอีก ถึงได้ยินเสียงเอื่อยเฉื่อยลอยออกมา “ให้เขารอสักครู่ เดี๋ยวฉันลงไป”

ป้าอู๋ขานตอบทันที เธอลงไปบอกอย่างยิ้มแย้ม “คุณผู้ชายตื่นแล้ว คุณชายซูรอประเดี๋ยวเดียวนะเจ้าคะ คุณผู้ชายกำลังจะลงมา” ว่าแล้วก็กุลีกุจอเชิญเธอนั่ง

เหมยเซียงยกน้ำชามาวางให้ เธอรับหมวก เสื้อโค้ต และผ้าพันคอที่ซูเสวี่ยจื้อถอดออกเอาไปแขวนด้านข้าง

หญิงสาวนั่งลงรอคอย เธอเตรียมใจว่าเฮ่อฮั่นจู่จะลงมาภายในสิบนาที เพราะเขาไม่ใช่ผู้หญิง

เวลาผู้หญิงตื่นนอนแล้วพบแขก ต้องแต่งตัวแต่งหน้า เป็นธรรมดาที่จะเสียเวลามากกว่า

แต่เธอคิดไม่ถึงเลยว่าผู้ชายคนหนึ่งก็ใช้เวลานานจนน่ากลัว

เธอรออยู่ครึ่งชั่วโมงเต็มๆ กระทั่งป้าอู๋ยังรู้สึกผิดปกติ ออกจากห้องครัวมาบอกว่าจะช่วยขึ้นไปดูให้อีกที เวลานี้เองเสียงรองเท้าหนังย่ำเดินบนพื้นไม้ก็ดังลอยมาจากชั้นบนในที่สุด

ซูเสวี่ยจื้อช้อนตาขึ้น เห็นเฮ่อฮั่นจู่ปรากฏตัวตรงชานพักบันไดจากชั้นบนแล้ว

เขาแต่งตัวเรียบร้อย สวมเครื่องแบบที่รีดเรียบกริบไม่เห็นรอยยับแม้แต่นิดเดียว คาดเข็มขัดหนังรอบเอวสอบ สวมรองเท้าทรงสูงที่ขัดเป็นมันวาวไร้คราบฝุ่นเกาะ เขาเอาเสื้อนอกพาดบนแขนข้างหนึ่งตามสบาย ส่วนอีกมือหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกง คาบบุหรี่ไว้ในปาก สาวเท้าลงบันไดมา

เธอลุกขึ้นยืนพลางลอบพิศดูสีหน้าของเขาพร้อมกับส่งเสียงเรียกทักทายว่า ‘คุณน้า’ คำหนึ่ง เห็นเขาลงมาแล้วเดินมาหยุดยืนตรงหน้าเธอด้วยท่าทางเฉยเมย ไม่แม้แต่มองหน้าตรงๆ สักแวบเดียว เธอก็คลายความวิตกกังวลตลอดหลายวันนี้ลงได้ในทันใด

ที่นี้ก็กลับไปนอนหลับอย่างสบายใจได้แล้ว…

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com