ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 74-76 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 74-76

เฮ่อฮั่นจู่พิศดูเธออย่างตั้งใจ

เมื่อครู่นี้ซูเสวี่ยจื้อพูดตามที่ใจคิดจริงๆ ไม่ได้โกหก แล้วคงเป็นเพราะได้ฤทธิ์เหล้าย้อมใจเต็มที่ เธอพูดจบแล้วถึงรู้สึกปลอดโปร่งโล่งอกขึ้นไม่น้อย จนสามารถสบตากับเขาด้วยจิตใจที่เบิกบานแจ่มใสมากขึ้น

นานพักหนึ่งถึงได้ยินเขาพูดขึ้นอีกด้วยน้ำเสียงเนิบนาบ “ก่อนหน้านี้ฉันทำให้เธอเจอความลำบากบ้าง ยังต้องย้ายไปห้องพักรวม เธอรู้สึกคับแค้นใจใช่หรือเปล่า”

ยังนึกว่าเขาคิดอะไรอยู่ ที่แท้เรื่องพวกนี้นี่เอง

ซูเสวี่ยจื้อเกือบหัวเราะออกมา “ในสายตาคุณน้า ผมเป็นคนปล่อยวางไม่ได้ขนาดนั้นเลยหรือครับ ผมยอมรับว่าตอนนั้นผมมีปัญหาจริงๆ”

เธอหยุดเว้นจังหวะนิดหนึ่ง “พูดได้ว่าเป็นปัญหาใหญ่มาก แต่ตอนนี้นึกย้อนกลับไป สำหรับผมแล้วใช่ว่ามันจะไม่ใช่ความทรงจำที่ควรค่าแก่การจดจำ อย่างน้อยมันทำให้ผมเชื่อมั่นในตนเองมากขึ้น วันหน้าพบกับปัญหาอีก แค่อย่าท้อถอยง่ายๆ ทำได้เท่าไรก็ทุ่มสุดตัวทำไปเท่านั้น…”

ท้องทุ่งโล่งกว้าง สายลมหนาวเหน็บพัดหวีดหวิวดุจใบมีดบาดผ่านผิวแก้มนอกร่มผ้าให้เย็นเฉียบอย่างรวดเร็ว แต่คงเป็นผลจากแอลกอฮอล์ในร่างกาย ทำให้หญิงสาวไม่รู้สึกหนาวเลย ในอกอุ่นผะผ่าว เธอถึงกับรู้สึกราวกับว่าเนื้อตัวเบาหวิวไปหมด

อันที่จริงคืนนี้เห็นเขาสุภาพมีมารยาทต่อคุณลุง ผิดแผกไปจากปกติที่มักวางท่าหยิ่งยโสเป็นนิจ ในใจซูเสวี่ยจื้อก็รู้สึกซาบซึ้งใจแล้ว

ถึงแม้จะเคยคับแค้นในความใจจืดใจดำของเขาจริงๆ แต่หลังจากอาหารเย็นมื้อนี้ก็ลบล้างกันไปได้แต่แรกแล้ว

เขาให้เกียรติคุณลุง นี่ก็คือการให้เกียรติเธออย่างสูงที่สุดไปด้วย

“ผมไม่ได้โกรธเคืองคุณน้า ไม่เลยแม้แต่นิดเดียวครับ”

ซูเสวี่ยจื้อสั่นศีรษะแรงๆ พูดอย่างขึงขังจบ เห็นเฮ่อฮั่นจู่ยังนิ่งเงียบอยู่ก็นึกว่าเขาไม่เชื่อ เธอจึงพูดต่อด้วยอารมณ์ฮึกเหิมที่พลุ่งขึ้นมาระลอกหนึ่ง “ความจริงผมรู้สึกโชคดีที่ตัวเองมีโอกาสได้มาเข้าเรียนที่นี่นะครับ ผมพูดจริงๆ ตอนมาถึงใหม่ๆ ผมไม่ได้คิดถึงเรื่องอนาคตเลย แล้วผมก็ไม่รู้ว่าผมทำอะไรได้บ้าง แต่ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว”

ดวงตาของเธอเป็นประกายวิบวับขึ้นมาทันใด “นับวันผมก็ยิ่งรู้สึกว่าสิ่งที่ผมเรียนอยู่นั้นมีคุณค่า จริงอยู่ว่ามนุษย์เล็กกระจ้อยร่อย แต่ไม่ใช่เหตุผลที่เราไม่คู่ควรเป็นส่วนหนึ่งที่จะฉายแสงแห่งความหวัง คุณน้า ผมจะบอกให้นะ ผมมีแผนการอย่างหนึ่ง ไม่รู้ว่าจะเป็นจริงได้ไหม…”

ขณะที่เกือบพูดออกมา หญิงสาวพลันรู้ตัวว่าพูดมากไปหน่อย

เธอเมาแล้วจริงๆ ถึงกับเริ่มพูดจ้อไม่หยุดปากกับเขาอีกแล้ว

บทเรียนก่อนหน้านี้ยังชัดเจนอยู่ในความทรงจำ

เขาจะสนใจอยากฟังคติสอนใจพวกนี้ของเธอได้อย่างไรกัน

เธอรีบหยุดปากและเปลี่ยนเป็นพูดว่า “ขอโทษครับ ผมพูดมากไปแล้ว คุณน้าถือเสียว่าผมไม่ได้พูดเถอะ เอาเป็นว่าความหมายของผมคือผมไม่ได้ไม่พอใจคุณน้าครับ”

เฮ่อฮั่นจู่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรตนเองถึงยอมเสี่ยงที่คืนนี้กลับไปแล้วอาจต้องทนทรมานกับอาการไอทั้งคืนอีก เขายืนตากลมหนาวตรงนี้ฟังเธอพูดอะไรมากมายก่ายกองเป็นวรรคเป็นเวรแบบนี้

หากน่าแปลกคือเขากลับไม่รู้สึกเบื่อหน่าย หนำซ้ำในใจลึกๆ ยังอยากฟังเธอพูดอย่างนี้ไปเรื่อยๆ

เธอที่อยู่ตรงหน้าขณะนี้มีท่าทางร่าเริงสดใส จนเฮ่อฮั่นจู่รู้สึกราวกับเธอเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่ค่อยเหมือนเดิมสักเท่าไร เขา…เห็นว่าแบบนี้ไม่เลวเลยจริงๆ

“แผนการอะไรหรือ” ก่อนชายหนุ่มจะห้ามปากตนเองไว้ เขาได้ยินคำถามนี้หลุดออกไปแล้ว

เธอเหมือนอึ้งงันไป มองเขาแวบหนึ่งแล้วโคลงศีรษะยิ้มๆ “ไม่พูดกับคุณน้าแล้ว”

นี่คือท่าทางเวลาเธอ ‘ออดอ้อน’ หรือ

เป็นแววตาเย้ายวนใจ…หรือว่าประกายหิมะจับตาจับใจคน

เฮ่อฮั่นจู่รู้สึกว่าตนเองตาฝาดไปแล้วแน่ๆ เขาถึงกับหัวใจเต้นผิดจังหวะเพราะคนที่ไม่มีเสน่ห์ของผู้หญิงแม้แต่น้อยคนนี้

เขาเลื่อนสายตาไปที่หน้าอกแบนราบของเธออีกครั้งอย่างห้ามไม่อยู่

เธอเป็นอย่างนี้ตั้งแต่เกิดหรือว่ารัดมันไว้แบบนี้กันนะ

ครั้นเขาประจักษ์ได้ว่าในหัวตนเองมีความคิดนี้ผุดขึ้น และนึกไปถึงคำฝากฝังที่ลุงเธอพูดกับเขาอย่างจริงจังในคืนนี้แล้วจู่ๆ ก็เกิดความรู้สึกผิดอย่างรุนแรง เขาสะกดความคิดอยากถามซักไซ้ต่อไว้ พูดเยาะตนเองในใจว่า นี่…คงโดนเธอยั่วโมโหจนขาดสติไปแล้ว

นับตั้งแต่ค้นพบว่าเธอเป็นผู้หญิง หลายวันมานี้เขาคงยังทำใจยอมรับจุดนี้ไม่ได้ในชั่วประเดี๋ยวประด๋าว ดังนั้นถึงได้ทำเรื่องโง่งมที่คิดอีกทีแล้วต้องเสียใจภายหลังอยู่เรื่อย

อารมณ์หดหู่เหนื่อยหน่ายหลังจากเห็นฟู่หมิงเฉิงรับเธอขึ้นรถที่นอกบ้านผู้อำนวยการคิมูระตอนเช้าตรู่เมื่อวานถาโถมเข้าใส่เขาเป็นคำรบที่สอง

ช่างเถิด สุดแท้แต่เธอ จะเป็นผู้หญิงหรือผู้ชาย จะชอบฟู่หมิงเฉิงหรือเปล่า ไม่เกี่ยวอะไรกับฉันทั้งนั้น

ปกติวิทยาลัยแพทย์ทหารห้ามไม่ให้ผู้หญิงเข้าเรียน แต่ว่าเธอ…บางทีอาจอยู่ในกรณีพิเศษได้

เธอก็พูดเองว่ารู้สึกโชคดีที่มีโอกาสได้มาเข้าเรียนที่นี่ แล้วจะมัวถือสาว่าเธอเป็นหญิงหรือชายโดยไม่เลิกราให้ได้อะไรขึ้นมา

ก็ปล่อยให้มันเป็นอย่างนี้ไปเถอะ

เป็นเรื่องยากที่จะมีคนใช้ชีวิตตามใจปรารถนาได้

ให้เธอได้มีชีวิตตามแบบที่เธอคิดก็ไม่เลวเลย

เฮ่อฮั่นจู่ขับไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากใจได้อย่างรวดเร็ว เขาโยนบุหรี่ทิ้ง ก้นบุหรี่ติดไฟหล่นลงบนพื้นหิมะก็ดับมอดไป ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ไปเถอะ เธอควรกลับได้แล้ว”

ชายหนุ่มย่ำหิมะที่ถมทับบนพื้นไปขึ้นรถ

ซูเสวี่ยจื้อขานรับด้วยจิตใจที่ผ่อนคลาย เธอลอดตัวขึ้นรถตามเขาไป

ต่อจากนั้นไม่เกิดเหตุอะไรขึ้นอีก

เฮ่อฮั่นจู่ส่งเธอถึงหน้าประตูวิทยาลัย เธอกล่าวลากับเขาแล้วลงจากรถเดินเข้าไปเอง

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 1-2

บทที่ 1 ฮ่องเต้หญิง   “ท่านพี่นำร้อง น้องหญิงคลอรับ ท่านพี่เสียงเพิ่งลับ น้องหญิงสลับขึ้นเวที เป็นมารดาอารี มีบุตรีกตัญญ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ร้อยเรียงรักเคียงฤทัย บทนำ – 1.2

บทนำ ความหลังของต้าลี่ 1   ฤดูหนาวในรัชศกต้าลี่ปีที่สิบเอ็ด โม่เป่ย ตำบลค่งหม่า สถานที่แห่งนี้คือประตูด่านสำคัญสุดท้ายทา...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 7-8

บทที่ 7 ค่าเดินทาง เมื่อภูตสุนัขดำคืนร่างเป็นสุนัขธรรมดาตัวหนึ่ง ภูตบุปผาสองตนนั้นก็ไม่อาจทำการใหญ่ ต่อให้ชาวหมู่บ้านป่า...

จุติรัก พลิกชะตาร้าย

ทดลองอ่าน จุติรัก พลิกชะตาร้าย บทที่ 3-4

บทที่ 3 เกิดใหม่   เวิ้งฟ้าดำสนิทปานน้ำหมึก เพียงมีดวงดาวบางตากระจัดกระจายบนม่านฟ้า ทอรัศมีอ่อนจางประเดี๋ยวเผยประเดี๋ยวเ...

community.jamsai.com