ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง
ทดลองอ่าน ข้ามเวลามาเป็นแพทย์ทหารหญิง บทที่ 74-76
เขาอยู่ในรถมองดูเธอเดินไปตามพื้นหิมะด้วยฝีเท้าฉับไวหายลับไปในประตูวิทยาลัยพลางหวนนึกถึงคำรายงานเกี่ยวกับการอยู่ในหอพักชายของเธอที่ได้รู้จากติงชุนซานภายหลังเมื่อวาน ตอนนี้เธอไม่เพียงสนิทสนมกับเพื่อนนักเรียนชายเจ็ดคนนั้น ยังไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ บางครั้งก็ช่วยซักถุงเท้าเหม็นๆ ของเจ้าหนุ่มที่ชื่อว่า ‘เจี่ยงจ้งไหว’ ด้วย
เฮ่อฮั่นจู่นึกภาพไม่ออกว่าเธออยู่ในสภาพนี้อย่างเป็นปกติสุขได้เช่นไร
เขาเพิ่งรับปากลุงของเธอว่าจะดูแลเธอ ฉะนั้นจะปล่อยให้เธออยู่รวมกับผู้ชายโขยงหนึ่งอย่างนี้ไปเรื่อยๆ อีกไม่ได้เด็ดขาด
กระนั้นเขารู้สึกอีกว่าถ้าเขาให้เธอออกมาจากหอพักชายและย้ายกลับไปอยู่ห้องพักเดี่ยวตอนนี้ ไม่แน่ว่าเธอจะรับความหวังดีของเขาเสมอไป ดีไม่ดียังจะพูดลามปามประชดเขาอยู่ในใจว่าตอนนั้นก็เพราะเขาเองนี่ล่ะที่ไล่เธอไปอยู่ห้องพักรวม
ชายหนุ่มตรึกตรองอยู่ชั่วครู่ แล้วก็ฉุกคิดถึงข่าวหนึ่งที่รู้มาจากหวังเซี่ยวคุนเมื่อหลายวันก่อน เขาตัดสินใจอย่างฉับไวแล้วขับรถกลับไปโดยไม่เหลียวหลัง
ตอนซูเสวี่ยจื้อกลับถึงห้องพักเป็นเวลาปิดไฟแล้ว เธอคลำทางในความมืดทำธุระส่วนตัวแล้วขึ้นเตียงนอน
ยามนี้ทุกคนยังไม่หลับ กำลังพูดคุยกันถึงหนังสือราชการฉบับหนึ่งซึ่งทางวิทยาลัยได้รับเมื่อสองวันก่อน ทางกองทัพจะจัดตั้งหน่วยฝึกทหารภายในประจำฤดูหนาว ต้องการแพทย์ทหารติดตามไปด้วย เพื่ออบรมด้านสุขอนามัยภาคบังคับให้พวกทหาร แต่เพราะกำลังคนไม่พอ จึงต้องการคนจากวิทยาลัยแพทย์ทหารยี่สิบคนมาปฏิบัติหน้าที่เป็นเวลาหนึ่งเดือน ขอให้ทางวิทยาลัยรวบรวมคนและออกเดินทางมาภายในสามวัน
กองกิจการนักเรียนติดประกาศให้นักเรียนลงชื่อตามความสมัครใจ
แน่นอนว่าคนที่มีสิทธิ์อย่างน้อยต้องเรียนอยู่ชั้นปีที่สี่ นักเรียนชั้นปีต่ำกว่านี้ถึงไปก็ไม่มีประโยชน์
คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยสนใจเรื่องนี้กันนัก เพราะสถานที่ฝึกอยู่ไกลมาก แต่ที่สำคัญที่สุดคือใกล้จะขึ้นปีใหม่แล้ว ใครไม่อยากหยุดเรียนและกลับบ้านเร็วๆ
พอทางวิทยาลัยเห็นว่าไม่ได้ผล วันนี้จึงออกประกาศเรื่องสิทธิพิเศษอย่างทันท่วงทีว่าคนที่ไปเข้าร่วม นอกจากสามารถเลื่อนเวลาสอบปลายภาคตามรายบุคคล ยังนับเป็นหน่วยกิตเพิ่มเติมได้อีกด้วย
หรืออีกนัยหนึ่งคือขอแค่ไปเข้าร่วม หลังจากกลับมาแล้วถึงสอบตกก็ไม่ต้องเป็นห่วงว่าจะโดนไล่ออก
พอประกาศสิทธิพิเศษนี้ออกมาแล้วยังมีเสียงตอบรับแค่ประปราย ทำให้รวบรวมคนได้ไม่ครบยี่สิบคนอยู่ดี
วันนี้มีข่าวซุบซิบอีกว่าทางวิทยาลัยเห็นว่ายังได้คนไม่ครบ เป็นไปได้มากว่าพรุ่งนี้จะใช้วิธีเกณฑ์คนแล้ว
ในห้องพักของซูเสวี่ยจื้อมีแค่โหยวซือจิ้นที่ชักโอนเอน ส่วนคนอื่นๆ ไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย อีกทั้งยังหวั่นใจว่าตนเองจะโดนเกณฑ์ไป ทุกคนคุยถกกันยกหนึ่งก็ทยอยกันหลับไป
ซูเสวี่ยจื้อเองก็ไม่สนใจแน่นอน เพราะโอกาสที่จะได้ฝึกหัดในกองทหารนั้นมีอยู่แล้ว เดิมทีก็ถูกจัดอยู่ในแผนการเรียนเทอมหน้า ฉะนั้นสำหรับพวกนักเรียนแล้ว ตอนนี้ไม่มีความจำเป็นต้องเข้าร่วมล่วงหน้าแต่อย่างใด
หญิงสาวรู้สึกเหมือนยังเมามายอยู่นิดหน่อย เธอหลับใหลไปอย่างรวดเร็วเช่นกัน แต่ตอนตื่นขึ้นอีกที คิดไม่ถึงว่าลมจะเปลี่ยนทิศเสียแล้ว
ตอนเช้าตรู่ทางวิทยาลัยติดประกาศด่วนล่าสุดอีก เป็นหนังสือราชการจากกองทัพฉบับใหม่ แจ้งว่านักเรียนคนใดที่สมัครใจไปเข้าร่วม จะบันทึกประวัติเก็บไว้ในระบบข้อมูลของกองทัพ หลังจบการศึกษา ในกรณีที่มีคุณสมบัติเหมือนกัน จะมีสิทธิ์ได้บรรจุเข้ารับราชการก่อนและได้เลื่อนยศหนึ่งขั้นทันที
ทีนี้ทุกคนให้ความสนใจกันหมด แย่งกันไปถามรายละเอียดที่กองกิจการนักเรียนเป็นการใหญ่ เพื่อนร่วมห้องของซูเสวี่ยจื้อก็ลงชื่อทั้งเจ็ดคน
ตอนเที่ยงตรงรายชื่อออกมาแล้ว เพื่อนร่วมห้องของเธอโชคดีมากที่สุด ได้รับเลือกหมดทุกคน และเพื่อจะไปเข้าร่วมการฝึกทหารประจำฤดูหนาวได้ทันเวลา มีคำสั่งให้ออกเดินทางทันที จึงต้องนั่งรถไฟเร่งรุดไปที่ค่ายทหารคืนนี้เลย
หลังประกาศรายชื่อแล้ว ในห้องพักคึกคักวุ่นวายอย่างยิ่ง
วันมะรืนจะเป็นวันคริสต์มาสของประเทศตะวันตก ตรงกับวันอาทิตย์อีกเช่นเคยพอดี
ขณะนี้วันตรุษฝรั่ง* เป็นที่นิยมแพร่หลายมากในวงสังคมชั้นสูงและหมู่นักเรียน ตอนแรกทุกคนนัดหมายกันไว้ดิบดีว่าพรุ่งนี้จะเข้าเมืองไปเดินเที่ยวด้วยกัน ตอนนี้ได้แต่ต้องยกเลิกไป ต่างคนต่างง่วนอยู่กับการเก็บเสื้อผ้าพร้อมกับพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน ไม่มีใครรู้สึกเสียดาย แค่สงสารซูเสวี่ยจื้อที่ถูกทิ้งไว้คนเดียว ยังบ่นเธอว่าทำไมไม่ไปลงชื่อ
เวลาหนึ่งเดือนแลกกับยศทหารหนึ่งขั้น เรื่องดีๆ อย่างนี้มีแต่กำไรไม่มีวันขาดทุนอย่างเด็ดขาด
อย่าว่าแต่ยศทหารหนึ่งขั้นเลย ต่อให้ได้เลื่อนตำแหน่งเป็นผู้บัญชาการทันที ซูเสวี่ยจื้อก็ไม่มีทางอยู่ดีไม่ว่าดีหาเหาใส่หัวแน่ เธอแย้มยิ้มมองดูพวกเพื่อนๆ ถือกระเป๋าสัมภาระเดินทางไว้พร้อมกับโบกมือลา จากนั้นออกจากวิทยาลัยไปกับนักเรียนที่ได้รับเลือกคนอื่นๆ
คืนวันนี้ห้องนอนที่กว้างใหญ่เหลือเธออยู่คนเดียว
หญิงสาวเริ่มชินกับการอยู่ท่ามกลางคนเยอะๆ เสียงดังอึกทึกแล้ว พูดตามตรงว่าแรกๆ เธอไม่ค่อยคุ้นเคยอยู่สักหน่อย แต่ข้อดีของมันก็เห็นได้ชัดเสียเหลือเกิน ตอนนี้แค่ปิดประตูรูดม่าน เธอก็ได้กลับมาใช้ชีวิตตามลำพังก่อนเวลา ไม่ต้องรอถึงเทอมหน้าแล้ว
แม้ว่าจะฝึกแก้ปัญหาเรื่องรัดหน้าอกใต้ผ้าห่มจนคล่องมือ แต่ไม่ต้องทำแบบนั้นได้เธอยิ่งกว่าเต็มใจเสียอีก
ความรู้สึกคะนึงหาชีวิตที่มีเพื่อนร่วมห้องอยู่รอบข้างในวันวานหายวับไปในเวลาสามวินาทีด้วยประการฉะนี้
พบกันคราวหน้าจะเป็นช่วงปิดภาคเรียนแล้ว ถึงตอนนั้นทุกคนก็ยังเป็นเพื่อนฝูงกันเหมือนเดิม…
ซูเสวี่ยจื้อคิดคำนึงอย่างครึ้มอกครึ้มใจ
ด้านเยี่ยหรู่ชวนคุณลุงของเธอ หลังจากการกินเลี้ยงสังสรรค์มื้อนั้นก็อารมณ์เบิกบานขึ้นมาก แม้แต่ความรู้สึกโกรธเคืองที่ลูกชายไม่ได้ความก็ลดลงไม่น้อย
คืนนั้นหลังเฮ่อฮั่นจู่พามาส่ง เขายังคุยติดลมกับจวงเถียนเซินเพื่อนเก่าในห้องพักโรงแรมอย่างเพลิดเพลินต่ออีกนานจนกลางดึกถึงได้ไปพักผ่อน
จวนจะสิ้นปีแล้ว ในบ้านมีงานสุมเป็นกอง เดิมทีไม่ใช่จังหวะเหมาะต่อการเดินทางไกลเลย แต่จุดประสงค์หลักที่เขาจากบ้านมาก็เพื่อเยี่ยมหลานสาวและเยี่ยมคารวะเฮ่อฮั่นจู่ ตอนนี้เรื่องสำคัญสองเรื่องนี้สำเร็จลุล่วงไปได้อย่างราบรื่น วันถัดมาเขายังไปเยี่ยมเยียนพบปะเพื่อนพ่อค้า พูดคุยเจรจาการค้าขายกันอีกเล็กน้อย เพียงเท่านี้เขาก็หมดธุระที่นี่แล้ว
ถึงอย่างไรทางลูกชายก็เกินเยียวยา ตีให้ตายก็ไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น เยี่ยหรู่ชวนจึงพูดปลอบตนเองให้ปลงตก คิดเสียว่าลูกชายอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนหลานสาวก็ดีเหมือนกัน เขาถึงยอมตามใจลูกชาย จากนั้นวางแผนว่าจะออกจากเมืองเทียนวันรุ่งขึ้น จะได้กลับถึงบ้านก่อนวันสิ้นปีไปเตรียมฉลองวันตรุษจีน
แต่ละคนต่างยุ่งกับเรื่องของตนเอง พริบตาเดียวก็ถึงวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันเทศกาลคริสต์มาสของชาวตะวันตกแล้ว