ช่วงชีวิตของชะมดเช็ดตัวหนึ่งอย่างมากก็สิบกว่าปี ไม่รู้ว่าหลังจากที่นางตายแล้วจะกลับไปในโลกก่อนหน้านี้ได้หรือไม่ ร่างเดิมของนางจะยังอยู่หรือเปล่า
เกรงว่าทรัพย์สมบัติของปู่คงถูกอาสามของนางยึดไปแล้ว
ปู่ขา ขอโทษด้วย นันนันของปู่ดูแลของล้ำค่าเหล่านั้นไว้ไม่ได้…
หรูเสี่ยวนันยิ่งคิดยิ่งเสียใจ ในดวงตาสีเขียวมีม่านน้ำตาปรากฏขึ้นมาทันใด
ฮือๆๆ…ข้าควรทำอย่างไร ทำอย่างไรจึงจะไปจากที่นี่ได้…
“เจ้าตัวเล็ก” เสียงคุ้นเคยเสียงหนึ่งตัดบทความคิดของนางในทันใด
หันหน้าไปตามเสียง เห็นเพียงชิงโม่เหยียนยืนอยู่ใต้ชายคา แสงอาทิตย์อัสดงสาดส่องมา เสื้อคลุมนกกระเรียนดั้นเมฆเหมือนถูกเคลือบด้วยผงทองบางๆ เปล่งประกายระยิบระยับ
หรูเสี่ยวนันมองจนใจลอย ดวงตากลมโตลืมกะพริบ จ้องตรงมาที่เขา ท่าทางโง่เซ่อน่ารักมาก
ชิงโม่เหยียนเห็นความหลงใหลในดวงตาเจ้าตัวเล็กอย่างชัดเจน
“เป็นเจ้าตัวเล็กที่ลามกจริงๆ” ชิงโม่เหยียนหัวเราะเบาๆ
หรูเสี่ยวนันดวงตาเปล่งประกาย คิดไม่ถึงว่ารองตุลาการศาลต้าหลี่ที่ปกติมีใบหน้าไร้ความรู้สึกจะมีรอยยิ้มที่น่าดูแบบนี้ได้
นางแอบพูดพลางทอดถอนใจอยู่ภายในใจว่า ถ้าไม่ใช่เพราะคนผู้นี้อยากจะเอาข้าไปทำตัวยาเหนี่ยวนำ ก็คุ้มค่าให้ลองยั่วยวนดูสักหน่อย
แต่ไม่ช้าอารมณ์ของนางก็ถูกความเป็นจริงสาดน้ำเย็นใส่อย่างไร้น้ำใจ
ตอนนี้นางมีร่างกายเป็นสัตว์ สภาพแบบนี้ไม่มีทางไปหลอกล่อชายหนุ่มได้!
ในคืนนั้นชิงโม่เหยียนไม่ได้กลับจวนโหว แต่พักอยู่ในศาลต้าหลี่
หรูเสี่ยวนันกินอาหารเย็นร่วมกับเขา จากนั้นก็ขดตัวอยู่บนโต๊ะนอนหลับสนิท
อาจเป็นเพราะอายุยังน้อย เวลาส่วนใหญ่ในแต่ละวันของหรูเสี่ยวนันจึงใช้ไปกับการนอน ชิงโม่เหยียนเห็นจนเป็นปกติแล้ว จึงปล่อยให้นางนอน เขาจัดการเอกสารต่ออีกจำนวนหนึ่ง จนกระทั่งตกดึกจึงอุ้มหรูเสี่ยวนันไปพักผ่อนบนเตียงนอนในห้องหนังสือ
หรูเสี่ยวนันนอนหลับไปจนถึงกลางดึก จู่ๆ ก็ตื่นขึ้นมา หูของนางขยับ นางได้ยินเสียงดังซ่าๆ ดังมาจากนอกหน้าต่าง
นี่…ไม่เหมือนเสียงลมพัดใบไม้…