นางกำลังคิดอยู่ พลันได้ยินท่านหมอส่งเสียงเอ๋หนึ่งทีก่อนจะเอ่ยถามขึ้น
“นี่คือชะมดเช็ดหรือ”
“ใช่แล้ว” ชิงโม่เหยียนวางหรูเสี่ยวนันกลับลงบนโต๊ะ “เป็นเครื่องบรรณาการจากแคว้นฉี หนีออกมาจากลานล่าสัตว์หลวง ถูกข้าเก็บได้”
ท่านหมออุ้มหรูเสี่ยวนันมาใกล้ๆ ใบหน้าตนเอง ไม่รู้เพราะเหตุใด ในใจหรูเสี่ยวนันจึงมีลางสังหรณ์ไม่ดีพุ่งขึ้นมา นางจึงถีบเท้าหลังอย่างแรง อยากจะหนีให้ห่าง ทว่าแรงของนางน้อยเกินไป ดิ้นไม่หลุดเลยแม้แต่น้อย
“ถูกต้องๆ เป็นกลิ่นชนิดนี้” ท่านหมอพูดอย่างตื่นเต้น “กลิ่นชะมดเช็ดนี้เป็นตัวยาเหนี่ยวนำตัวหนึ่งที่สามารถระงับพิษกู่ในร่างท่านได้ ขอเพียงสกัดกลิ่นหอมนี้ออกมา ทำเป็นถุงหอมพกติดตัว แม้จะถอนพิษไม่ได้ แต่สามารถยับยั้งการกำเริบของพิษทุกสิบวันในตัวรองตุลาการได้”
หรูเสี่ยวนันตัวแข็งเกร็งไปในทันใด
ทำเป็นถุงหอม?!
จากนั้นภาพในสมองของนางล้วนเป็นภาพของตัวเองถูกเชือดแล้วมีเลือดไหลนองออกมา
มะ…ไม่เป็นไร สงบสติ สงบสติไว้…
นางบอกตัวเองไม่หยุด
ต้องหาทางกลับไปก่อน…กลับไปได้ก็หมดเรื่องแล้ว
ท่านหมอฉางเฮิ่นอุ้มชะมดเช็ดน้อยด้วยสีหน้าตื่นเต้นยินดีพลางเอ่ยต่ออีกว่า “รองตุลาการ เรื่องนี้ชักช้าไม่ได้ ตอนนี้ก็มอบมันให้ข้าเถอะ ถ้าราบรื่น ราวสามวันข้าก็ทำถุงหอมออกมาได้แล้ว”
ชิงโม่เหยียนมองดูชะมดเช็ดสีดำที่จ้องมองเขาด้วยดวงตาสีเขียวคู่นั้น ไม่รู้เพราะเหตุใด เขารู้สึกว่าสายตามันดูเย็นชายิ่ง และยังแฝงความเหินห่างเอาไว้อย่างมากด้วย
“ไม่ต้อง” ชิงโม่เหยียนยื่นมือไปอุ้มชะมดเช็ดน้อยกลับคืนมา
ฉางเฮิ่นพูดอย่างไม่เข้าใจว่า “ทำเป็นถุงหอมติดตัวสะดวกกว่าที่ท่านจะเลี้ยงมันมาก”
แท้จริงแล้วชิงโม่เหยียนมีหรือจะไม่รู้หลักการข้อนี้ ทำเป็นถุงหอมพกติดตัว สะดวกกว่าการเลี้ยงเจ้าตัวเล็กที่ยุ่งยากและไม่อยู่สุขตัวนี้มากจริงๆ เพราะหากช่วงเวลาสำคัญมันหายไป คนที่เคราะห์ร้ายก็คือเขา
แต่ไม่รู้เพราะเหตุใด เห็นความเย็นชาและเหินห่างจากแววตาของเจ้าตัวเล็กนี้แล้ว เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ
“เรื่องนี้พักไว้ก่อน รอจัดการงานตรงหน้าเหล่านี้ให้เสร็จก่อนค่อยว่ากัน”
ในเมื่อชิงโม่เหยียนตัดสินใจแล้ว คนที่เป็นหมอก็ไม่อาจพูดอะไรได้อีก จึงเขียนใบยาบำรุงร่างกายให้แล้วก็เดินออกไป
ชิงโม่เหยียนเริ่มจัดการเอกสารที่กองสุมหลายวันเหล่านี้ ตุลาการใหญ่ของศาลต้าหลี่ไม่อยู่ มีเรื่องมากมายที่เขาต้องตัดสินใจเอง