ยามที่เห็นว่าแทบจะถึงก้นจานแล้ว หรูเสี่ยวนันก็รู้สึกว่ามีไอร้อนประหลาดพุ่งขึ้นมาในร่างอย่างฉับพลัน ตรงกันข้ามกับอาการหนาวเย็นไปทั่วร่างก่อนหน้านี้ ไอร้อนนี้ทำให้ร่างของนางเหมือนแทบจะลุกไหม้
เกิดอะไรขึ้น!
นางยังไม่ทันคิดอย่างละเอียด ภาพตรงหน้าก็รางเลือนขึ้นมา
ง่วงเหลือเกิน…อยากนอน…
ชิงโม่เหยียนมองชะมดเช็ดน้อยสัปหงกกับจานอย่างตกใจ หัวเล็กพยักขึ้นลง สุดท้ายหัวพับลงบนจาน และนอนหลับสนิทไป
“เจ้าตัวเล็กร้ายกาจเกินไปแล้วกระมัง แม้แต่ตอนกินยังนอนหลับได้” เสวียนอวี้ที่มองอยู่ข้างๆ เอ่ยขึ้น
ชิงโม่เหยียนคว้าตัวหรูเสี่ยวนันออกมาจากจาน บนตัวเจ้าก้อนขนมีข้าวติดเต็มไปหมด ดูสกปรกมาก ทว่าเขาใช้ผ้าเช็ดอย่างไรก็ไม่ตื่น
ชิงโม่เหยียนเห็นแล้วก็ขมวดคิ้ว ก่อนจะให้เสวียนอวี้ไปเชิญท่านหมอประจำศาลต้าหลี่มา
หลังจากฉางเฮิ่นมาตรวจอาการให้หรูเสี่ยวนันแล้ว สุดท้ายก็ประกาศว่า “มันแค่นอนหลับเท่านั้น”
เสวียนอวี้ไม่เชื่อ “เป็นไปได้อย่างไร มันนอนหลับสนิทเหมือนตายเกินไปแล้วกระมัง”
ฉางเฮิ่นเอ่ยด้วยสีหน้าจนใจ “มันแค่นอนหลับจริงๆ แม้ว่าอุณหภูมิร่างกายจะสูงไปสักนิด แต่ดูแล้วไม่ได้เกิดจากอาการป่วย รองตุลาการไม่ต้องเป็นกังวล”
ได้ยินว่าเจ้าตัวเล็กไม่ได้ป่วย ชิงโม่เหยียนก็วางใจลงได้ทั้งหมดในที่สุด
จากนั้นหรูเสี่ยวนันก็ใช้ชีวิตแบบมึนๆ งงๆ มาเยี่ยงนี้ บ่อยครั้งที่จู่ๆ ตื่นมาก็กินยกใหญ่ แล้วก็หลับสนิทอีกครั้งอย่างไม่มีปี่มีขลุ่ย
เพียงพริบตาสิบวันก็ผ่านไปแล้ว มาถึงวันที่พิษกู่ในร่างของชิงโม่เหยียนจะกำเริบอีกครั้ง
“ท่านตุลาการใหญ่กลับมาแล้ว เชิญท่านไปหาขอรับ” เสวียนอวี้เข้ามาแจ้งข่าว
ตอนนี้ท้องฟ้าใกล้ค่ำแล้ว ชิงโม่เหยียนเก็บงานในมือเดิมทีเตรียมจะพักผ่อน พอได้ยินข่าวนี้จำต้องสวมชุดขุนนางใหม่อีกครั้ง
แสงอาทิตย์อัสดงส่องไปบนทางเล็ก ชิงโม่เหยียนลดความเร็วฝีเท้าอย่างห้ามไม่อยู่ ในจิตใต้สำนึก ร่างกายของเขากำลังเตรียมรับความเจ็บปวดที่จะมาถึง
นี่เป็นเวลาผ่านมาหลายปี มันกลายเป็นความเคยชินของเขาแล้ว แม้ว่าตอนนี้ในอ้อมอกของเขาจะมีชะมดเช็ดน้อย แต่ปฏิกิริยาของร่างกายไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้
แสงอาทิตย์ค่อยๆ หมดลง ร่างกายของเขาก็แข็งเกร็งตามไปด้วย ทว่า…ความเจ็บปวดไม่ได้มาตามกำหนด
เป็นจริงดังคาด เจ้าตัวเล็กนี้เป็นดาวนำโชคของเขา
ตอนที่ก้มหน้ามองดูชะมดเช็ดน้อยที่หลับสนิทในอ้อมอก จู่ๆ ร่างของมันกลับขยับโดยแรง มันยังคงหลับตา แต่ปากกลับส่งเสียงร้องแหลมปรี๊ด
“จี๊ดๆๆๆ…” หรูเสี่ยวนันร้องจี๊ดๆ พยายามดิ้นขัดขืน
ชิงโม่เหยียนหยุดฝีเท้า มองเจ้าก้อนขนที่ดิ้นอยู่ในอ้อมอกอย่างประหลาดใจ
หรูเสี่ยวนันตอนนี้ยังคงหลับสนิทอยู่ แต่ตัวของนางกลับสั่นไม่หยุดอย่างห้ามไม่อยู่ หากไม่ใช่ชิงโม่เหยียนอุ้มไว้อย่างทะนุถนอมก็คงจะกลิ้งตกลงพื้นไปแล้ว
“เจ้าตัวเล็ก” ชิงโม่เหยียนอยากจะปลุกมันตื่น แต่เจ้าก้อนขนกลับเอาแต่หลับตา ร้องจี๊ดๆ อย่างเจ็บปวด
“จะเชิญท่านหมอหรือไม่ขอรับ” เสวียนอวี้พูดอย่างตื่นตกใจ