ชิงโม่เหยียนหน้าตาไม่เหมือนท่านพ่อของเขาแม้แต่น้อย หรือคุณชายรองคนนั้นไม่ได้เป็นพี่น้องแม่เดียวกับเขา แล้วชิงโม่เหยียนก็หน้าตาเหมือนท่านแม่ของเขา…
หรูเสี่ยวนันลูบคางพลางครุ่นคิดเรื่องชาวบ้าน
ท่านโหวมีท่าทางเคร่งขรึม “โม่เหยียน นี่คือใต้เท้าจางหัวหน้ากองอาวุธของกรมทหาร”
ชิงโม่เหยียนพยักหน้าพลางเอ่ย “ใต้เท้าจาง”
ท่านโหวชักสีหน้าทันใดพร้อมพูดตำหนิว่า “ไร้มารยาทจริง ใต้เท้าจางเป็นสหายเก่าของพ่อ เจ้าทำเพียงพยักหน้าทักทายเท่านี้เองหรือ”
ใต้เท้าจางมีสีหน้าเก้อเขิน อันที่จริงหากเทียบระดับขั้น เขายังต้องคารวะชิงโม่เหยียนก่อนด้วยซ้ำ “ท่านโหว ช่างเถอะ…เป็นแค่มารยาททั่วไปเท่านั้น”
ชิงโม่เหยียนไม่เย่อหยิ่งไม่โอนอ่อน “ไม่รู้ว่าใต้เท้าจางวันนี้มาอวยพรวันเกิดในฐานะขุนนางกรมทหาร หรือมาดื่มเหล้าสังสรรค์ในฐานะสหายเก่าของท่านพ่อ”
“แน่นอนว่าเป็นสหายเก่า” ใต้เท้าจางพูดด้วยเสียงที่ดูแหบแห้ง
ชิงโม่เหยียนประสานมือ ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบว่า “คารวะท่านลุงจาง” เขาเรียกอีกฝ่ายว่า ‘ท่านลุงจาง’ เสียเลย
ใต้เท้าจางอ้าปากค้าง ใบหน้าซีดขาว
ท่านโหวได้ยินเช่นนั้นก็พูดอย่างไม่สบอารมณ์ทันที “ยากนักที่ใต้เท้าจางจะหมายตาเจ้า บุตรสาวในจวนของเขาปีนี้อายุสิบห้า อีกสองสามวันเจ้าก็พาคนไปวางของหมั้นที่จวนของเขาเสีย”
“รู้แล้วขอรับ” ชิงโม่เหยียนพูดรับคำ ไม่มีข้อสงสัยใด และไม่ได้สอบถามใต้เท้าจางเรื่องธิดาของเขาเลยแม้แต่น้อย เหมือนว่าทุกอย่างไม่เกี่ยวข้องกับตนเองอย่างไรอย่างนั้น
หรูเสี่ยวนันเบิกตาโตอย่างตกใจ
การแต่งงานสมัยโบราณต้องเชื่อฟังคำบิดามารดาและวาจาของแม่สื่อจริงๆ ด้วย กำหนดกันง่ายๆ อย่างนี้หรือ
ชิงโม่เหยียนนี่เกรงว่าแม้แต่คนที่ตนเองจะแต่งงานด้วยเป็นใครก็ยังไม่รู้กระมัง แบบนี้ใช่ทำอะไรส่งเดชเกินไปหรือไม่นะ
ไม่ได้ หากเขาแต่งงานจริงๆ นางจะทำอย่างไรต่อไป
“จี๊ดๆ” ชะมดเช็ดน้อยใช้เท้าเกี่ยวแขนเสื้อของเขาไว้แล้วส่ายหน้าใส่เขาอย่างแรง
อย่านะ! อย่ารับปากส่งเดชแบบนี้เลย
ชิงโม่เหยียนก้มลงมองนาง มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย “เจ้าไม่อยากให้ข้าแต่งงานหรือ”
“จี๊ดๆ!” ท่านแต่งงานแล้วข้าจะทำอย่างไร หากภรรยาท่านรู้ว่าข้าเป็นตัวยาเหนี่ยวนำของท่าน ต้องให้คนมาฆ่าข้าแน่นอน นางจะรักข้าเหมือนท่านหรือไม่ หากนางคิดว่าข้าเป็นก้างขวางคอแล้วจะทำอย่างไร นางจะวางยาพิษข้าหรือไม่ แล้วข้าจะทำอย่างไร…
หรูเสี่ยวนันร้อนใจอย่างมาก ส่งเสียงร้องใส่เขาไม่หยุด