ตุลาการใหญ่ศาลต้าหลี่อยู่ที่ศาลพอดี เมื่อได้ยินว่าชิงโม่เหยียนเอาหุ่นไม้หน้าหยกมาด้วยอีกตัว ก็รีบให้คนไปตามท่านหมอฉางเฮิ่นมาทันที
“คิดหาวิธีแยกชิ้นส่วนมันได้หรือไม่” ตุลาการใหญ่ถามขึ้น
ฉางเฮิ่นมองสำรวจหุ่นไม้ที่นอนนิ่งอยู่บนโต๊ะ “เกรงว่าจะลำบากสักหน่อย” ก่อนหน้านี้เสวียนอวี้ให้คนใช้ไฟเผา ราดน้ำมันก็ยังไม่มีประโยชน์ ไม่รู้ว่าเจ้าตัวนี้จะจัดการได้ยากเหมือนตัวก่อนหรือไม่
“คิดหาวิธีดู ถ้ามันแปลกประหลาดเหมือนที่รองตุลาการว่าจริง เช่นนั้นในตัวมันต้องซ่อนหัวใจคนเอาไว้อีกแน่นอน”
พอพูดถึงเรื่องนี้ ในห้องราวกับเย็นเยือกลงสามส่วน
หรูเสี่ยวนันเบิกตาโตจ้องมองทุกคนด้วยความกังวล
ฉางเฮิ่นพูดอย่างลำบากใจว่า “ข้าจะลองดู”
จากนั้นก็สั่งการให้คนไปหยิบเลื่อยมา และเรียกคนงานหลายคนมาเริ่มเลื่อยตัวหุ่นไม้ต่อหน้าทุกคน
ยิ่งมีเสียงเลื่อยดังแกรกกราก หรูเสี่ยวนันก็ยิ่งรู้สึกว่าอุณหภูมิในห้องเย็นเยียบลงไปอีก
นางขดตัวหนีทันทีทันใด ใช้เท้าตะกุยคอเสื้อชิงโม่เหยียนจนเปิดออกคิดจะมุดเข้าไปข้างใน
ชิงโม่เหยียนจะยอมให้เจ้าตัวเล็กหนีเข้าไปในเสื้อตนเองได้อย่างไร อยู่ต่อหน้าคนมากมาย เขาไม่อยากควานหาสัตว์เลี้ยงในเสื้อผ้าต่อหน้าคนเหล่านั้น
ในตอนที่เขาออกแรงต้านกับเจ้าตัวเล็กในอ้อมอก เลื่อยก็ส่งเสียงแสบแก้วหูออกมา ฟังดูแล้วเหมือนใครกำลังกรีดร้อง เสียงแหลมสูงสะเทือนจนคนฟังรู้สึกปวดแก้วหู
หรูเสี่ยวนันเอาเท้าปิดสองหูที่อยู่เหนือหัว
สิ่งที่คนอื่นได้ยินเป็นเสียงที่ดังแสบหู แต่สิ่งที่นางได้ยินเป็นเสียงคำรามคลุ้มคลั่งของสิ่งชั่วร้าย
เลื่อยหักออกเป็นสองท่อน แผ่นเศษเลื่อยที่ปลิวกระเด็นออกไปเป็นเสมือนอาวุธลับ ลอยผ่านเหนือหัวทุกคนไป…
เลื่อยเหล็กหัก เศษเลื่อยปลิวกระเด็นออกมา
เสวียนอวี้ไม่สนใจอันตราย เอาตัวขวางหน้าชิงโม่เหยียน ขวางเศษเลื่อยที่ลอยมาเอาไว้ได้
หรูเสี่ยวนันได้แต่มองดูหุ่นไม้หน้าหยกอ้าปาก แสงสีขาวลำหนึ่งพุ่งออกมา
“จี๊ด!” ระวัง!
นางร้องเสียงดัง อยากจะเตือนทุกคน
ทว่าเสียงที่ออกมากลับเป็นเสียงจี๊ดที่นับว่าแผ่วเบายิ่ง ท่ามกลางความวุ่นวายไม่มีใครสังเกตเห็นความร้อนใจของสัตว์ตัวน้อยนี้เลย
แสงสีขาวพุ่งตรงไปยังร่างคนงานคนหนึ่งอย่างแม่นยำราวกับมีดวงตา
หรูเสี่ยวนันจับเสื้อของชิงโม่เหยียนไว้อย่างร้อนใจ ร่างแข็งเกร็ง เหมือนเผชิญหน้ากับศัตรูที่เหนือกว่า
“คุ้มกันท่านตุลาการใหญ่!” ชิงโม่เหยียนตะโกนขึ้น