เสวียนอวี้ลังเลสักครู่ ยังคงฟังคำสั่งของชิงโม่เหยียน เดินห่างจากข้างกายเขาไปคุ้มครองตุลาการใหญ่ในทันที
คนงานที่ถูกแสงขาวพุ่งใส่เกร็งไปทั้งตัว หลายคนข้างๆ เข้าไปอยากจะกดตัวเขาเอาไว้ ผลปรากฏว่าถูกสะบัดออกมาหมด
“จับเขาไว้!” ชิงโม่เหยียนออกคำสั่งเด็ดขาด
แต่คนผู้นั้นมีแรงมากอย่างน่าประหลาด สุดท้ายยังคงสลัดหลุดจากคนอื่นได้ แล้วทะยานไปทางตุลาการใหญ่แห่งศาลต้าหลี่
เสวียนอวี้จึงต้องชักกระบี่ออกมาและแทงไปทางคนงานผู้นั้นอย่างไม่ลังเล
ฉางเฮิ่นรีบเอ่ยห้ามว่า “อย่าฆ่าเขา!”
เสวียนอวี้เบี่ยงคมกระบี่ หลบจุดสำคัญ
คนงานกระอักเลือดออกมา ตัวเอนล้มลงตรงหน้าโต๊ะ ไม่ขยับเขยื้อน
บรรยากาศในห้องตึงเครียดอย่างมาก ทุกคนยืนอยู่ตรงนั้น ไม่มีใครกล้าเข้าใกล้คนงานที่เอนล้มผู้นั้น
“เกิดอะไรขึ้น” ตุลาการใหญ่เอ่ยปากขึ้นก่อน แสงขาวเมื่อครู่เขาก็มองเห็นเช่นกัน
“เป็นหุ่นไม้ตัวนั้น…มันคงจะอยากควบคุมคนอื่น” ฉางเฮิ่นคาดเดา
เสวียนอวี้ใจกล้าเข้าไปพลิกร่างคนงานผู้นั้นกลับมา
ฉางเฮิ่นพูดอย่างกังวลใจ “ยังไม่ตายกระมัง”
“ยังมีลมหายใจอยู่” ในตอนที่เสวียนอวี้ย่อตัวลงไปตรวจดูชีพจรของคนงานผู้นั้น ร่างของคนงานก็กระตุกอย่างแรง
“ระวัง!” เพิ่งสิ้นเสียงพูดของฉางเฮิ่นก็เห็นแสงขาวลำหนึ่งพุ่งออกจากปากของคนงานที่ได้รับบาดเจ็บและพุ่งไปมาทั่วห้อง
“คุ้มกันท่านตุลาการใหญ่!”
ในห้องกลับมาวุ่นวายอีกคราทันที
หรูเสี่ยวนันรู้สึกว่าภาพตรงหน้ามืดดำ พอมองอย่างละเอียดก็พบว่าเป็นฝ่ามือของชิงโม่เหยียน เขากางมือกดตัวนางเข้าไปในอกเสื้อ
เมื่อมองผ่านร่องนิ้ว หรูเสี่ยวนันก็ต้องตกใจที่เห็นแสงขาวพุ่งมาทางชิงโม่เหยียน
ไม่ได้นะ!
นางไม่กล้าคิดภาพเลยว่าหากชิงโม่เหยียนถูกสิ่งชั่วร้ายนั้นควบคุม…นางไม่อยากมีเจ้านายที่เป็นคนโง่เซ่อ
หรูเสี่ยวนันดีดขาหลัง กระโดดออกจากอ้อมอกของชิงโม่เหยียนโดยไม่ทันได้คิดอะไรต่ออีก
แม้ว่านางจะกลายเป็นสัตว์ ใช้เท้าทำมุทระไม่ได้ แต่คาถาชำระกายที่ปู่เคยสอนนางยังจำได้ ครั้งที่แล้วนางประมาท ไม่ได้ป้องกันจึงเสียที
ก่อนนี้นางมักจะคิดว่าเรียนสิ่งเหล่านี้จากจอมเวทเฒ่าเป็นเรื่องน่าอับอาย เด็กสาวคนอื่นอยู่ในมหาวิทยาลัยวิ่งตามแฟชั่นทุกวัน มีแต่นางที่หอบหนังสือประหลาดที่ปู่ส่งต่อมาให้เหล่านั้น ตอนอ่านยังต้องหลบคนอื่น ไม่อย่างนั้นจะถูกพวกเพื่อนร่วมหอพักหัวเราะเยาะ…
แต่ตอนนี้นางรู้สึกขอบคุณปู่อย่างมากที่สอนทุกอย่างให้แก่นาง