กู้เซียนเซิงเหลือบสายตามองขึ้นมาจากด้านหลังหนังสือ เห็นเพียงเจ้าก้อนขนสีดำตัวหนึ่งยืนอยู่นอกหน้าต่าง ดวงตาสีเขียวจ้องตรงมาที่เขา
เขามองไปในลานกว้าง แต่ไม่เห็นเงาร่างของชิงโม่เหยียนจึงเอ่ยขึ้นว่า “รองตุลาการไม่ได้เตรียมของกินให้เจ้าหรือ”
คนผู้นั้นกำลังเตรียมจะไปแต่งงานน่ะ จะมีเวลามาสนใจข้าได้อย่างไรกัน
หรูเสี่ยวนันบากหน้ากระโดดเข้าทางหน้าต่าง มาคลอเคลียข้างกายกู้เซียนเซิง
กู้เซียนเซิงหยิบขนมถั่วแดงให้นางชิ้นหนึ่ง
หรูเสี่ยวนันก้มหน้าเคี้ยวตุ้ยๆ บังเอิญเหลือบเห็นหนังสือที่กู้เซียนเซิงถือเอาไว้ อาหารในปากก็พลันตกลงบนโต๊ะทันที
ไม่ใช่กระมัง นี่เป็นตำราภาพวังวสันต์* ที่เล่าลือกันกระมัง ลูกตาของหรูเสี่ยวนันแทบจะหลุดออกจากเบ้าอยู่แล้ว
มาอ่านหนังสือแบบนี้กลางวันแสกๆ อย่างเปิดเผยแบบนี้จะดีหรือ ท่านเป็นถึงเจ้าหน้าที่จดบันทึกของศาลต้าหลี่ ท่าทางภูมิฐานกลับมาดูของแบบนี้…เป็นการไม่ให้เกียรติความเป็นบัณฑิตไม่ใช่หรือ
กู้เซียนเซิงสังเกตเห็นสายตาแปลกๆ ของหรูเสี่ยวนัน จึงจงใจกางหนังสือนั้นต่อหน้านาง “ก้อนขนอย่างเจ้าก็ดูสิ่งนี้เข้าใจด้วยหรือ”
ชิ ข้าไม่ดูของสิ่งนี้หรอก!
ตอนที่ชิงโม่เหยียนนำเสวียนอวี้ออกมาตามหา เห็นภาพนี้แล้วทำให้เส้นเลือดตรงขมับของเขาเต้นตุบๆ
กู้เซียนเซิงแนบชิดกับสัตว์เลี้ยงของเขา เคี้ยวถั่วปากอ้าไปพลางชื่นชมตำราภาพวังวสันต์ด้วยประกายตาวับวาวไปพลาง
เมื่อเงามืดปกคลุมเหนือหัวของพวกเขา หนึ่งคนหนึ่งสัตว์จึงดึงสติคืนมาได้ในที่สุด
ชิงโม่เหยียนก้มลงมองพวกเขาพลางเอ่ย “ดูจบแล้วหรือ”
กู้เซียนเซิงสอดหนังสือลงไปใต้โต๊ะ แล้วกระแอมเบาๆ สองที “ที่แท้ก็เป็นรองตุลาการ…ข้ากำลังศึกษาภาพวาดอยู่”
สายตาเย็นชาของชิงโม่เหยียนเลื่อนมาที่ตัวเจ้าก้อนขนที่ขดตัวอยู่ข้างๆ
หรูเสี่ยวนันหดคอตามสัญชาตญาณ เดิมทีนางคิดว่าชิงโม่เหยียนจะฉวยโอกาสตำหนินางอีก คิดไม่ถึงว่าเขาเพียงแค่นิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็อุ้มนางขึ้นมาแล้วหมุนตัวเดินจากไป
นี่จะไปที่ใดหรือ นางเบิกดวงตากลมโตสีเขียว
ชิงโม่เหยียนอุ้มนางออกจากศาลต้าหลี่แล้วขึ้นม้า
หรูเสี่ยวนันเห็นเสวียนอวี้ขี่ม้าตามอยู่ด้านหลัง
หรือว่า…ชิงโม่เหยียนจะไปดูตัว
นางขยับตัวอยู่ในอ้อมอกเขาอย่างไม่สบายใจ ทุกครั้งที่คิดถึงเรื่องชิงโม่เหยียนไปดูตัวในใจนางก็เต็มไปด้วยความรู้สึกแปลกประหลาด
จริงสิ ไม่รู้ว่าเรื่องหุ่นไม้หน้าหยกเมื่อวานเป็นอย่างไรบ้าง
ชิงโม่เหยียน ท่านวางเรื่องสำคัญไว้ไม่สนใจได้อย่างไร การดูตัวเป็นเรื่องเล็ก คดีจึงจะเป็นเรื่องใหญ่สิ
ชิงโม่เหยียน ท่านเอาเรื่องส่วนตัวมาไว้ข้างหน้าแบบนี้ไม่ได้ ท่านเป็นชายหนุ่มที่ดี ต้องเห็นการงานเป็นสำคัญนะ!
หรูเสี่ยวนันปากพูดพึมพำ ชิงโม่เหยียนเห็นดังนั้นก็อดไม่ได้ต้องเคาะหัวนางไปหนึ่งที
“คิดอะไรน่ะ อายุน้อยไม่เรียนรู้ใฝ่ดี คิดไม่ถึงเลยว่าชะมดเช็ดอย่างเจ้าจะลามกเช่นนี้”
หรูเสี่ยวนันกุมหัว สีหน้าสิ้นหวัง เห็นทีจะล้างมลทินให้ชื่อเสียงของนางคงยากมากเสียแล้ว
ชิงโม่เหยียนขี่ม้านำนางมาที่หน้าคฤหาสน์แห่งหนึ่ง
หรูเสี่ยวนันเงยหน้าขึ้นก็เห็นด้านบนหน้าคฤหาสน์เขียนว่า ‘จวนสกุลจาง’
นี่ยังคงมาดูตัวจริงๆ สินะ นางคิดเช่นนี้ แต่เมื่อชิงโม่เหยียนนำเสวียนอวี้เข้าไปในจวนสกุลจาง หรูเสี่ยวนันกลับพบว่าบรรยากาศดูผิดปกติไปบ้าง
จวนสกุลจางมีเจ้าหน้าที่ทางการมากมาย ตอนพวกเขาเห็นชิงโม่เหยียนก็ล้วนหยุดทักทาย
“ศพของใต้เท้าจางล่ะ” ชิงโม่เหยียนเอ่ยถามเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง
หรูเสี่ยวนันได้ยินเช่นนั้นก็ตกตะลึงอยู่นานยังดึงสติกลับคืนมาไม่ทัน
ไม่ใช่มาดูตัวหรือ เหตุใด…ยังไม่ทันแต่งงาน ว่าที่พ่อตาของท่านก็กลายเป็นศพไปแล้วล่ะ
ติดตามตอนต่อไปวันที่ 25 มิ.ย. 64 เวลา 12.00 น.