บทที่ 8
วิธีการของหรูเสี่ยวนันสะกดทุกคนได้ในพริบตาจริงๆ แม้แต่สตรีที่เมื่อครู่ยังทำหน้าตารังเกียจอยู่ล้วนพูดชมว่าน่ารักกันทั้งสิ้น
“ซื่อจื่อ มันเป็นสัตว์ที่ท่านเลี้ยงไว้จริงหรือ”
“มันตัวเล็กมาก…ยังไม่หย่านมกระมัง”
หรูเสี่ยวนันเหล่ตามอง เจ้าสิยังไม่หย่านม!
ชิงโม่เหยียนก้มลงมองเจ้าก้อนขนสีดำพลางเอ่ยเรียก “มานี่”
หรูเสี่ยวนันบิดตัวหลบหลีกเล็กน้อยแล้วกระโจนไปหาชิงโม่เหยียนเร็วราวกับบินได้
พอได้กลิ่นคุ้นเคยบนตัวอีกฝ่ายแล้ว หรูเสี่ยวนันก็แอบทอดถอนใจว่า บนโลกนี้อันตรายเกินไป อยู่ข้างกายคนผู้นี้จึงจะปลอดภัยที่สุดจริงๆ
ชิงโม่เหยียนอุ้มมันไว้ในอ้อมอกโดยไม่สนใจใครพลางแค่นเสียงสบถอย่างไม่สบอารมณ์ “เหม็นยิ่ง”
หรูเสี่ยวนันลองดมตัวเอง กลิ่นไม่น่าอภิรมย์จริงๆ ขนบนตัวนางมีแต่น้ำลายของเจ้าหมาโง่นั่น
แต่ถึงแม้ชิงโม่เหยียนปากจะพูดรังเกียจ แต่ไม่ได้โยนนางทิ้ง แต่อุ้มนางไปพูดคุยกับเด็กหนุ่มผู้นั้น
“มันเป็นสัตว์เลี้ยงของพี่ใหญ่จริงหรือ” เขายังคงเอ่ยถามอย่างตกใจ “เมื่อครู่ข้าไม่รู้จึงได้ทำมัน…”
“ไม่เป็นไร เจ้าตัวเล็กซนมาก มักจะวิ่งวุ่นไปทั่ว” ชิงโม่เหยียนพูดเสียงเรียบ
หรูเสี่ยวนันเงยหน้าขึ้นฟังพวกเขาพูดคุยกัน จากท่าทีของชิงโม่เหยียนนางรู้สึกรางๆ ว่าชิงโม่เหยียนไม่ได้รังเกียจน้องชายผู้นี้ และยังมีความเป็นพี่ชายที่ดีพอควร
ทั้งสองคนพูดกันอยู่หลายคำ ก่อนจะมีสาวใช้เข้ามาแจ้งว่า “ท่านโหวให้มาตามซื่อจื่อเจ้าค่ะ”
ชิงโม่เหยียนจึงได้แยกจากคุณชายรอง อุ้มหรูเสี่ยวนันเดินไปทางโต๊ะเจ้าภาพ
หรูเสี่ยวนันเบิกดวงตาสีเขียวมองไปโดยรอบ
ว้าว! อาหารบนโต๊ะเจ้าภาพแตกต่างกันจริงๆ แม้แต่ของว่างก็ยังประณีตมาก…
นางแลบลิ้นเลียริมฝีปากตามสัญชาตญาณ
ชิงโม่เหยียนยื่นนิ้วมาเคาะหัวเล็กของนาง “จอมตะกละ”
หรูเสี่ยวนันเจ็บจนต้องหดคอกลับ
นี่เป็นครั้งแรกที่นางจะได้เห็นหน้าท่านพ่อของชิงโม่เหยียน ท่านโหวอายุราวสี่สิบห้าสิบปี หน้าตาคล้ายกับคุณชายรองผู้นั้นอย่างมาก
เอ๋? ดูเหมือนจะมีอะไรซ่อนอยู่ หรูเสี่ยวนันใช้เท้าลูบปลายคางระหว่างครุ่นคิด