หรูเสี่ยวนันเดินวนอยู่ในสวนอย่างช้าๆ ทันใดนั้นนางก็ได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเสียงหนึ่ง
“ท่านตุลาการใหญ่ คืนนี้เป็นวันที่รองตุลาการจะพิษกำเริบแล้ว ถ้าเขายังไม่กลับมาอีก…คงอันตราย…”
หรูเสี่ยวนันสะดุ้ง เกือบจะตกลงมาจากบนกำแพง
คืนนี้เป็นวันที่ชิงโม่เหยียนพิษกำเริบหรือ
นางขยับอุ้งเท้าของตัวเอง ทำอย่างไรก็นับอุ้งเท้าได้ไม่ครบสิบนิ้ว สวรรค์ นางลืมเรื่องนี้ไปได้อย่างไร
หรูเสี่ยวนันเดินตามเสียงนั้นไปก็เห็นฉางเฮิ่นท่านหมอประจำศาลต้าหลี่นั่งหันหลังให้หน้าต่าง กำลังพูดคุยกับตุลาการใหญ่
“พวกชิงโม่เหยียนยังไม่มีข่าวอีกหรือ” ตุลาการใหญ่สีหน้าไม่น่าดูอย่างยิ่ง กำลังเอ่ยถามทังเซียนเซิงที่อยู่ข้างๆ
เสมียนศาลทังเซียนเซิงส่ายหน้ากล่าว “ส่งคนไปหลายครั้ง ล้วนไม่มีข่าวกลับมา ไม่เพียงพวกเราทางนี้ แม้แต่คนของที่ว่าการซุ่นเทียนก็ไม่มีข่าวคราวเช่นกันขอรับ”
“ก็แค่ร้านหุ่นไม้เล็กๆ จัดการได้ยากเช่นนี้เชียวหรือ” ตุลาการใหญ่ตบโต๊ะอย่างฉุนเฉียว “ฮ่องเต้ทรงให้กำหนดเวลาพวกเราเพียงห้าวัน…ส่งคนไปอีก ติดต่อกับคนของที่ว่าการซุ่นเทียน ถ้าไม่ได้ก็ไปขอคนที่ผู้บัญชาการทหารเก้าประตูแม้จะต้องพังร้านนั้นให้ราบก็ต้องจับคนกลับมาให้ได้!”
ทังเซียนเซิงไปเตรียมการตามคำสั่ง ตอนเดินออกจากประตูก็เห็นเงาสีดำแวบผ่านหลังต้นไม้ ดูท่าทางแล้วเหมือนจะเป็นแมวป่าตัวหนึ่ง แต่เขาไม่ได้คิดอะไรมาก รีบเดินจากไปทำตามคำสั่งทันที
หรูเสี่ยวนันเห็นทังเซียนเซิงเดินไปแล้วก็รีบวิ่งมาที่ห้องทำงานของชิงโม่เหยียน พลิกหาของในห้องพักใหญ่ สุดท้ายก็หาผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งที่ชิงโม่เหยียนเคยใช้พบ
เอาสิ่งนี้ล่ะ! หรูเสี่ยวนันคาบผ้าเช็ดหน้าแล้วปีนข้ามกำแพงศาลต้าหลี่
เจ้าหมาโง่นั่งนอนนิ่งอยู่ใต้ต้นไม้ หรูเสี่ยวนันกระโดดพรวดลงบนหลังของมัน “เจ้าหมาโง่รีบลุกขึ้น! เกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”
เจ้าหมาโง่ถูกปลุกตกใจตื่น ลืมตาขึ้นอย่างงุนงง
หรูเสี่ยวนันเอาผ้าเช็ดหน้าวางลงบนพื้น “รีบดมกลิ่น จากนั้นตามกลิ่นนี้ไปหาชิงโม่เหยียนกัน”
เจ้าหมาโง่จ้องผ้าเช็ดหน้าบนพื้นแล้วดมกลิ่น
“เป็นอย่างไร จำกลิ่นนี้ได้แล้วใช่หรือไม่”
เจ้าหมาโง่ยืนขึ้นราวกับละเมอ หรูเสี่ยวนันก็รีบกระโดดขึ้นหลังของมัน
จากนั้นเจ้าหมาโง่ออกเดินทางจากศาลต้าหลี่ เดินไปตามถนน
ดีเหลือเกิน ขอเพียงตามกลิ่นของชิงโม่เหยียนไปก็สามารถหาตัวเขาเจอแล้วกระมัง
นางเงยหน้าขึ้นมองดวงตะวัน ยามนี้ยังห่างจากเวลาอาทิตย์ตกดินอีกพักใหญ่
เวลาน่าจะเพียงพอ
ระหว่างที่หรูเสี่ยวนันครุ่นคิดก็ได้กลิ่นหอมกรุ่นของซาลาเปา
จากนั้นก็มีเสียงตะคอกอย่างโมโหของคนแปลกหน้าดังขึ้นเหนือหัว
“สัตว์พวกนี้มาจากที่ใดกัน รีบไสหัวไป!”
เจ้าหมาโง่ร้องครางและรีบวิ่งเพราะถูกคนไล่ หรูเสี่ยวนันจับขนมันเอาไว้แน่น จึงทำให้ไม่ถูกสะบัดตกลงมา
“ข้าให้เจ้าไปตามหาชิงโม่เหยียน ไม่ใช่ให้เจ้าไปกินซาลาเปา” หรูเสี่ยวนันโกรธจนใช้อุ้งเท้าตบไปบนจมูกของเจ้าหมาโง่
เจ้าหมาโง่ถูกตบแล้วก็ก้มหน้าดมกลิ่นบนพื้นอย่างดีต่อไปอีกครั้ง