พูดเช่นนี้แสดงว่าเขาถูกขังอยู่ที่นี่มาราวสองวันหนึ่งคืนแล้วสิ
“เจ้าจะเอาอย่างไร” ชิงโม่เหยียนเอ่ยถามด้วยเสียงแหบแห้ง
ชายหนุ่มหัวเราะพลางกล่าว “หัวใจของรองตุลาการเป็นของล้ำค่าหาได้ยาก ถูกหนอนกู่กัดกินมานานหลายปีกลับยังไม่ตาย…ต้องสร้างผลงานที่ข้าพอใจที่สุดได้อย่างแน่นอน”
ชิงโม่เหยียนหรี่ตาลง “หุ่นไม้เหล่านั้น…เจ้าเป็นคนทำอย่างนั้นหรือ”
ท่ามกลางสายตาที่ค่อยๆ ปรับชัด พื้นที่รอบตัวล้วนมีชิ้นส่วนหุ่นไม้ตกกระจัดกระจาย
ชายหนุ่มหยิบหุ่นไม้ตัวหนึ่งขึ้นมาจากโต๊ะ ลูบคลำใบหน้าของหุ่นไม้อยู่นาน ก่อนจะเอ่ยตอบว่า “พวกมันไม่ใช่ของเล่นของเด็กๆ”
ท่ามกลางสายตาตื่นกลัวของชิงโม่เหยียน ชายหนุ่มวางหุ่นไม้ลง แล้วควักของสิ่งหนึ่งที่มีเลือดอาบออกมาจากขวดโหลด้านข้าง
“รองตุลาการรู้หรือไม่ว่านี่คืออะไร”
ชิงโม่เหยียนกัดฟันกรอดๆ กลิ่นคาวเลือดลอยคลุ้งขึ้นถึงหัว เขาย่อมรู้ว่านี่คืออะไร
หัวใจ นี่เป็นหัวใจที่ควักออกมาจากตัวคนเป็นๆ
ชายหนุ่มผู้นั้นไม่สนใจว่าเลือดจะเปื้อนชุดของเขา แลบลิ้นออกมาเลียคราบเลือดบนมือนั้น “เพิ่มชะตาแปดอักษรเข้าไป ลูกที่น่ารักของข้าก็สมบูรณ์แล้ว”
เขาเอาก้อนเนื้อชุ่มเลือดนั้นใส่เข้าไปในตัวหุ่นไม้อย่างระมัดระวัง ชิงโม่เหยียนเห็นเขาวาดมืออย่างประหลาดไปบนตัวหุ่นไม้ จากนั้นก็ปรากฏรอยสีดำบนตัวหุ่นไม้ เพียงชั่วครู่ก็จางหายไป
“ลุกขึ้น” ชายหนุ่มขยับนิ้วมือเบาๆ หุ่นไม้บนโต๊ะก็ลุกพรวดขึ้นนั่ง
ชิงโม่เหยียนเห็นเช่นนั้นก็ตระหนกตกใจ
ชายหนุ่มหัวเราะ เขาขยับนิ้วมือไม่หยุด หุ่นไม้ราวกับถูกใส่ชีวิตให้ มันขยับตัวได้อย่างคล่องแคล่ว
“ไม่แก่ไม่ตาย ไม่มีชีวิตไม่สูญสลาย ชีวิตเช่นนี้ช่างงดงาม ดีกว่าร่างกายของคนเป็นร้อยเท่า” ชายหนุ่มถอนหายใจ “ความงามย่อมมีวันโรยรา อำนาจย่อมมีวันเสื่อมถอย จะหาความสมบูรณ์แบบได้จากที่ใด”
ชิงโม่เหยียนแค่นเสียงสบถ “สมบูรณ์แบบหรือ ก็แค่เครื่องในที่ให้คนคอยชักใย จะพูดถึงความสมบูรณ์แบบได้อย่างไร”
ชิงโม่เหยียนพยายามลองดึงมือให้หลุดจากกุญแจคล้องหลายครั้ง แต่ก็ล้มเหลวทุกครา เขาไม่กล้าใช้กำลังภายใน แต่ในเวลานี้เขารู้อย่างแจ่มชัดว่าหากเขาไม่อาจสะบัดหลุดได้ในทันที รอจนพิษกู่กำเริบ ถึงตอนนั้นเขาคงไม่มีโอกาสหนีได้อีกแล้วจริงๆ
แต่หากใช้กำลังภายใน พิษก็จะกำเริบทันทีเช่นกัน นี่ช่างเป็นเคราะห์ซ้ำกรรมซัดจริงๆ เขาได้แต่ยิ้มเศร้าอยู่ในใจ
สิ่งที่โชคดีเพียงอย่างเดียวคือครั้งนี้เขาไม่ได้พาเจ้าตัวเล็กมาด้วย
ไม่รู้ว่าช่วงที่เขาไม่อยู่นี้มันได้ก่อเรื่องอะไรหรือไม่
เขาคงไม่มีโอกาสได้เห็นเจ้าตัวเล็กอีกแล้ว…ชิงโม่เหยียนเหม่อลอยไปเล็กน้อย
ชายหนุ่มควบคุมหุ่นไม้ให้เดินมาตรงหน้าเขา “หัวใจของรองตุลาการเป็นของล้ำค่าที่หาได้ยาก ท่านวางใจได้ ข้าจะทำหุ่นไม้ที่สมบูรณ์แบบที่สุดมาบรรจุมันแน่นอน”
ชายหนุ่มขยับนิ้วมือ หุ่นไม้หยิบมีดสั้นบนโต๊ะขึ้นมาภายใต้การควบคุมของเขา ก่อนที่เขาจะพูดอย่างใจเย็น “ใกล้จะถึงเวลาแล้วกระมัง”
เพิ่งสิ้นเสียงพูดของเขา ชิงโม่เหยียนก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดที่ส่งมาจากทรวงอก ร่างกายไร้เรี่ยวแรงไปในพริบตา ดวงตาที่ตาดำขาวแยกชัดเจนค่อยๆ ถูกม่านสีเลือดปกคลุม
ชิงโม่เหยียนพยายามควบคุมลมหายใจ ด้วยดวงตาสีเลือด เขาเห็นใบหน้าแข็งทื่อของหุ่นไม้หน้าหยกค่อยๆ ใกล้เข้ามา ทรวงอกส่งผ่านความเจ็บมาไม่หยุด แต่ละครั้งราวกับจะฉีกผิวหนังของเขาให้ขาด และกรีดเฉือนเนื้อของเขา
“อยากได้หัวใจข้าหรือ” ชิงโม่เหยียนเค้นคำพูดออกมาทางไรฟัน
ชายหนุ่มพูดอย่างประหลาดใจ “คิดไม่ถึงว่าท่านจะยังมีแรงพูดอีก”
ชิงโม่เหยียนเผยรอยยิ้มบางๆ เขาไม่เคยกลัวตาย เพราะความตายอยู่ใกล้กับเขามากมาโดยตลอด
ตอนที่หุ่นไม้เดินทื่อเข้ามาใกล้ ชิงโม่เหยียนก็เดินกำลังภายใน กำลังที่ส่งออกมากระแทกกุญแจที่คล้องมือเขาจนแตกออก แม้ว่ามือของเขาจะเป็นอิสระเพียงข้างเดียว แต่เท่านี้ก็เพียงพอให้เขาฉวยโอกาสชั่วพริบตานี้ได้
เท้าของเขาเตะหุ่นไม้ล้มคว่ำ ขณะเดียวกันก็รับมีดสั้นที่ลอยอยู่กลางอากาศไว้
ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นในชั่วพริบตา
ชิงโม่เหยียนตวัดมือขว้างมีดสั้นออกไป และเพราะระยะใกล้มาก มีดสั้นจึงปักเข้าที่ทรวงอกของชายหนุ่มทันที
ปักถูกแล้ว? หรือว่า…ปักไม่ถูก
ม่านเลือดในดวงตาชิงโม่เหยียนเพิ่มมากขึ้น เขามองภาพที่เห็นตรงหน้าไม่ชัดเจน
เพราะใช้กำลังภายใน พิษกู่ของเขาจึงกำเริบหนักกว่าเดิม ความเจ็บปวดเหมือนมีดกรีดร่างของเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้ไม่อยากทนต่อไปอีก
ตายไปเถอะ ตายไปเช่นนี้ก็ดี พอแล้ว…
ร่างของชิงโม่เหยียนอ่อนพับลง เขาลืมตา ม่านตาขยายกว้างขึ้น ความชาที่เกิดจากความเจ็บปวดถึงขีดสุดเริ่มกระจายเป็นวงกว้าง
ความตายเริ่มมาเยือนแล้ว…
(ติดตามต่อได้ใน ‘ข้าเป็นสัตว์เลี้ยงของศาลต้าหลี่’ เล่ม 1-2 ฉบับเต็มเดือน มิถุนายน 64)