ในตอนนี้เองเสวียนอวี้ก็เร่งรีบเดินเข้ามาจากข้างนอก “ซื่อจื่อ! แย่แล้วขอรับ ทางจวนโหวมีข่าวว่าท่านโหวโมโหโกรธาเพราะเรื่องของใต้เท้าจาง อยากให้ท่านกลับไปเดี๋ยวนี้ขอรับ”
ชิงโม่เหยียนปิดเอกสารในมือ ขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ท่านพ่อโมโหอะไรอีก”
เสวียนอวี้ลอบมองสำรวจสีหน้าของชิงโม่เหยียน แล้วพูดอย่างระวังตัวว่า “ท่านโหวบอกว่า…เพราะท่านไม่ยินดีกับการแต่งงานครั้งนี้ ดังนั้นจึงจงใจ…จงใจทำร้ายครอบครัวใต้เท้าจาง…”
ฟังคำพูดนี้แล้ว หรูเสี่ยวนันก็งงเป็นไก่ตาแตก
ความคิดของท่านโหวประหลาดเกินไปแล้วกระมัง แม้ชิงโม่เหยียนจะไม่อยากแต่งงานจริงๆ ก็ไม่มีทางลงมือฆ่าคนได้
ชิงโม่เหยียนยิ้มเศร้า โยนเอกสารกลับลงบนโต๊ะ “กล่าวหาข้าอีกแล้ว ข้าแปลกใจจริงๆ ท่านพ่อคิดว่าข้ามีความสามารถเหนือมนุษย์หรือว่าเขาอยากให้ข้าลำบากใจกันแน่”
“ซื่อจื่ออย่าคิดมากเลยขอรับ ท่านโหวเข้มงวดกับท่านไปบ้าง แต่อย่างไรท่านก็เป็นบุตรชายของท่านโหวนะขอรับ”
ชิงโม่เหยียนเหยียดมุมปากเอ่ย “บางครั้งข้าก็รู้สึกว่าสำหรับเขาแล้วข้าเหมือนบุตรชายศัตรูคู่แค้นของเขามากกว่า”
หรูเสี่ยวนันจ้องมองชิงโม่เหยียนที่เมื่อครู่ยังมีสีหน้าอ่อนโยนเปลี่ยนเป็นสีหน้าเย็นชาในพริบตา ในใจก็นึกเป็นห่วงตามไปด้วย
ไม่ว่าเป็นใคร อยู่ในฐานะของเขาคิดว่าคงจะทำตัวลำบาก คนเป็นพ่อไม่เพียงไม่ช่วยบุตรชายตนเอง ยังหาเรื่องปัดแข้งปัดขาไปเสียทุกอย่าง นี่เป็นพ่อลูกกันจริงๆ หรือ แม้แต่นางเองก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยเรื่องนี้ขึ้นมาบ้างแล้ว
ราวกับถูกผีผลัก นางยื่นอุ้งเท้าออกไป พาดไปบนแขนของเขาเบาๆ เหมือนเป็นการปลอบใจ
ชิงโม่เหยียนตกใจเล็กน้อย แต่แล้วก็มีรอยยิ้มบางๆ ออกมา
“เจ้าตัวเล็ก เจ้าคิดว่าข้าต้องให้คนอื่นปลอบใจหรือ” เขายิ้มแล้วบีบอุ้งเท้าของนางแผ่วเบา อุ้งเท้านุ่มๆ อุ่นๆ บีบแล้วให้ผิวสัมผัสดีมาก เขาดูเหมือนจะติดใจจึงบีบไม่ยอมหยุดมือ
หรูเสี่ยวนันถูกเขาบีบอุ้งเท้าจนรู้สึกจั๊กจี้ อยากจะชักกลับแต่ถูกเขาจับไว้แน่น เดิมทีนางก็แค่หวังดี คิดไม่ถึงว่าสุดท้ายจะกลายเป็นถูกเขากลั่นแกล้งแทน ทำให้นางโกรธจนส่งเสียงร้องจี๊ดๆ ออกมา
ครั้งต่อไปข้าจะไม่ทำตัวเป็นคนดีกับท่านอีกแล้ว!
จากนั้นชิงโม่เหยียนก็เปลี่ยนชุดขุนนางออกแล้วสวมชุดลำลองปกติ ก่อนจะนำเสวียนอวี้รุดกลับไปที่จวนโหวโดยพร้อมกัน
ท่านโหวพักอยู่ในเรือนหน้า พวกเขาเพิ่งเดินเข้าตัวเรือนก็ได้ยินเสียงท่านโหวตำหนิบ่าวไพร่ดังออกมาจากในห้อง ชิงโม่เหยียนจึงเข้าไปคารวะ
หรูเสี่ยวนันหลบอยู่ในเสื้อของเขา โผล่หัวออกมาเพียงครึ่งเดียว นางไม่มีความรู้สึกดีต่อท่านโหวผู้นี้เลย แม้ว่านี่จะเป็นครั้งที่สองที่นางได้พบกับเขา แต่นางก็ไม่เคยลืมเรื่องครั้งก่อนที่เขาสั่งให้พ่อบ้านโยนนางออกไป ทั้งยังบอกว่าชิงโม่เหยียนเอาแต่หมกมุ่นไม่สนใจความก้าวหน้า…
ถุย! คนแก่อย่างท่านเก็บสาวใช้งดงามเอาไว้ข้างกายมากมายก็ไม่ใช่ไม่สนใจความก้าวหน้าหรือ
เฒ่าลามก! ไร้ยางอาย!
เห็นท่าทางเจ้าตัวเล็กกัดฟันกรอดพร้อมกับพองขนอยู่ในอ้อมอกของเขา ชิงโม่เหยียนก็อดเบิกบานใจไม่ได้
ไม่เสียทีเป็นสัตว์เลี้ยงของเขา คนที่เขาไม่ชอบ นางก็ไม่ชอบเช่นกัน