กระบวนการทดสอบอรกานต์เริ่มต้นขึ้นในเช้าวันถัดมา เมื่อหล่อนได้รับคำเชิญให้ไปพบคุณวิรัช ผู้จัดการทั่วไปตั้งแต่มาถึง
“ฉันยังไม่ได้เดินตรวจความเรียบร้อยรอบๆ โรงแรมเลย ต้องเดี๋ยวนี้เชียวหรือคะคุณนก”
“ท่านสั่งมาว่าให้คุณไปพบทันที ไปก่อนเถอะค่ะ”
อรกานต์รับคำงงๆ ยอมปฏิบัติตามแต่โดยดี และทันทีที่ถึงห้องผู้จัดการ ผู้สูงวัยกว่าก็เปิดฉากทันทีโดยไม่มีคำทักทาย
“นิตยสารสมาร์ตแคนเซิลห้องสัมมนาทั้งหมดที่จองไว้สำหรับโครงการอบรมนักเขียนหน้าใหม่ที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า”
“คะ!” หล่อนอุทานออกมาได้แค่นั้น เพราะยังตั้งตัวไม่ติด
“เราจะเสียรายได้ค่าห้องสัมมนาสัปดาห์ละสามวัน เป็นเวลาสามเดือน รวมไปถึงค่าอาหารว่างและค่าอาหารกลางวันด้วย”
“คะ!?”
“แล้วยังจะงานเลี้ยงใหญ่ฉลองครบรอบห้าปีของทางนิตยสารอีก เค้าแคนเซิลทีเดียวสองงานเลย”
“คะ!?!”
ท่านรองผู้จัดการสาวได้แต่งง อึ้ง พูดอะไรไม่ออก
“ผมอยากให้คุณช่วยตรวจสอบหาสาเหตุให้หน่อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น นิตยสารสมาร์ตจัดอบรมโครงการนี้ที่โรงแรมเรามาทุกรุ่น แล้วปีนี้มันเกิดอะไรขึ้น”
“ฉะ…ฉันไม่ทราบค่ะ”
“ยังไงคุณช่วยลองคุยกับคุณทินกรให้หน่อย ถามดูทีว่าฝ่ายขายหรือฝ่ายต้อนรับของเราทำอะไรผิดหรือไปขัดใจอะไรกับทีมดำเนินการของเขาเข้า ถ้ามีอะไรผิดพลาดก็ให้ขอโทษเขาซะ แล้วบอกว่าทางเราจะรีบแก้ไขโดยด่วนที่สุด ช่วยเจรจาให้ผมทีนะครับ”
“จะดีหรือคะ คุณวิรัช”
“ดีแล้ว คุยกับคุณทินกรให้ผู้หญิงคุยจะง่ายกว่า อีกอย่าง…ผมจะฝึกคุณด้วย อีกหน่อยถ้าคุณเลื่อนมาเป็นผู้จัดการ ปัญหาพวกนี้คุณต้องเป็นคนแก้”
“ฉัน…” หญิงสาวอับจนด้วยถ้อยคำ ไม่รู้จะหาเหตุผลอะไรมาปฏิเสธหน้าที่นี้
“ค่ะ” ลงท้ายอรกานต์รับคำด้วยอาการคอตก ก่อนจะเดินกลับไปทำงาน
ภาคบ่ายของหล่อนก็เริ่มต้นอย่างไม่ดีนักเช่นกัน
ตั้งท่าจะโทรศัพท์มาห้าชั่วโมงแล้ว ป่านนี้ยังไม่กล้ายกหูโทรศัพท์เลย ถ้าบรรณาธิการของนิตยสารฉบับนั้นคือทินกร หล่อนก็พอจะทราบแล้วว่าเรื่องมันมีสาเหตุมาจากอะไร นี่อาจจะเป็นการเริ่มต้นของการทำให้หล่อน ‘วิ่งแจ้น’ ไปหากฤตินถึงที่ก็ได้ เรื่องอะไรจะไปตกหลุม
แต่ถ้าไม่ใช่ล่ะ ถ้ามันเป็นความผิดพลาดของการดำเนินงานและการประสานงานจริงๆ ล่ะ
คิดจนหัวแทบแตกแล้วยังไม่รู้เลยว่าจะเริ่มต้นคุยกับทินกรอย่างไรดี ไอ้วาทศิลป์ของหล่อนนี่มันก็ดันดีเฉพาะการเจรจาท้าตีท้าต่อยซะด้วย
ขณะที่ยังจดๆ จ้องๆ กับโทรศัพท์อยู่นั้น อรกานต์ก็สะดุ้งกับเสียงแผดร้องของมัน
“ฮัลโหล”
“ไทร่า เชิญที่ห้องผมหน่อยครับ”
พูดจบก็วางสายโทรศัพท์ดังกริ๊ก นี่ถ้าเป็นไทร่าตัวจริง คุณวิรัชมีหวัง ‘โดน’ แน่ๆ แต่ในเมื่อผู้หญิงคนนี้มีวิญญาณของอรกานต์ คุณวิรัชจึงได้พบหล่อนที่ห้องทำงานภายในเวลาไม่กี่นาที
“เชิญนั่งครับ” หนุ่มใหญ่วัยกลางคนมีสีหน้าไม่สู้ดี ทำเอาอรกานต์ใจเต้นตึกๆ ด้วยความหวั่นวิตกไปด้วย
“มีอะไรหรือคะ”
“คุณคุยกับคุณทินกรรึยัง”
“ยังเลยค่ะ”
อีกฝ่ายถอนใจยาวก่อนกล่าว “ผมเพิ่งได้รับโทรศัพท์จากเชียงใหม่ โครงการฝึกภาษาอังกฤษภาคฤดูร้อนของโรงเรียนสอนภาษาแห่งหนึ่ง ขอแคนเซิลห้องพักที่จองไว้ทั้งหมดทั้งเดือนเลย”
“หา!?”
“ตามด้วยโทรศัพท์จากภูเก็ต บริษัท…ที่จองที่พักไว้สิบห้าห้อง สองคืนสำหรับยกพลเที่ยวกันทั้งบริษัทก็ขอแคนเซิลเหมือนกัน”
“อะไรกันคะนี่”
“ใช่ ผมก็สงสัยเหมือนกันว่ามันเป็นยังไงมายังไงกันแน่ ฟอร์มแย่อย่างนี้อาจต้องเรียนท่าน”
“ต้องเรียนคุณอาเชียวหรือคะ ฉันตายแน่”
“เกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ”
“ไม่บอกได้มั้ยคะ เอาเป็นว่าคุณจะเรียนท่านก็ได้ แต่อย่าเพิ่งให้ท่านมาเฉ่งฉัน ฉันจะพยายามแก้ไขสถานการณ์อย่างเต็มความสามารถ”
“จริงๆ เรื่องที่เชียงใหม่กับภูเก็ตนี่ไม่เกี่ยวกับเรานะ มันเป็นเรื่องที่เขาจะต้องแก้กันเอง เพียงแต่ผมแปลกใจ คิดว่ามันอาจจะเกี่ยวข้องกัน คุณมีอะไรที่พอจะบอกผมได้บ้างสักนิดไหม”
“สงสัยฉันจะก่อศัตรูกับผู้มีอิทธิพลน่ะค่ะ ขอเวลาสักวันสองวัน แล้วฉันจะรีบเคลียร์ให้นะคะ”