แต่เอาเข้าจริงๆ แล้ว ทั้งสองก็ไม่ได้ดูภาพยนตร์ดังที่ตั้งใจไว้แต่แรก เนื่องจากเวลาฉายของภาพยนตร์ที่อรกานต์ตัดสินว่ามัน ‘ดึกเกินไป’
สองทุ่มเนี่ยนะ!? กฤตินโวยวายอยู่ในใจ
“กว่าหนังจะจบคงสี่ทุ่มนะคะ แล้วกว่าฉันจะกลับถึงบ้านล่ะ แล้วคุณจะยิ่งกลับดึกไปกว่านั้นอีก ไม่เอาล่ะค่ะ เกรงใจ” หล่อนว่าอย่างนั้น
ดังนั้นทั้งคู่จึงทานอาหารเย็นด้วยกัน ตามด้วยการเดินเล่นในห้างสรรพสินค้า
อรกานต์ไม่พูดพร่ำทำเพลง เมื่อจู่ๆ ก็ตัดสินใจเดินดุ่มๆ เข้าร้านหนังสือการ์ตูน กฤตินอึ้งเล็กน้อยแต่ก็ยอมเดินตามเข้าไปในร้านแต่โดยดี
หล่อนเลือกหนังสืออย่างเพลิดเพลิน ท่าทางชำนิชำนาญประหนึ่งผู้ที่อยู่ในยุทธจักรมานาน ส่วนเขาก็เพลิดเพลินกับการยืนดูหล่อนเพลิดเพลินนั่นแหละ
เพียงไม่นาน หญิงสาวผู้ที่ทำหน้าบึ้งหน้าตึงเพราะอดดูหนังก็ได้ยิ้มร่าพร้อมการ์ตูนญี่ปุ่นสามเล่มในมือ ขณะเดินออกจากร้าน
เดินไปอีกนิดก็เจอร้านหนังสือขนาดใหญ่ อรกานต์หยุดกึกทันที “คุณกริชคะ ฉันขอแวะซื้อหนังสือหน่อยนะคะ”
กฤตินพยักหน้ารับง่ายๆ เดินตามเข้าไปในร้าน
“ฉันเลือกนานนะคะ ถ้าคุณเบื่อ…”
“ผมเดินเล่นรออยู่ในร้านนี่แหละ เชิญคุณตามสบาย”
แล้วหล่อนก็ตามสบายจริงๆ เดินเปิดเล่มนั้นปิดเล่มนี้ อ่านหน้าปกหลังปกเล่มนั้นเล่มนี้ไปทั่ว ทำราวกับว่าร้านนี้คือสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอย่างไรก็อย่างนั้น
อรกานต์ยืนเลือกยืนอ่านอย่างสบายอารมณ์ ปล่อยตัวตามสบายไม่รีบร้อน ทุกทีเคยใช้เวลาอยู่ในร้านหนังสือนานเท่าใด วันนี้ก็อยากจะใช้ให้นานเท่านั้น ไม่จำเป็นต้องรีบ เพราะนี่คือตัวตนของหล่อน หากเขาคิดจะจริงจังกับหล่อน เขาก็ควรจะรับทราบเอาไว้ และหากเขาคิดจะเล่นๆ กับหล่อน ก็สมควรแล้วนี่ ที่จะปล่อยให้คอยซะให้เข็ด บางทีนี่อาจจะทำให้เขาถอนตัวจากหล่อนไปเลยก็ได้
เวลาร่วมชั่วโมงผ่านไป กฤตินไม่ได้มีอาการเมื่อยหรือเบื่ออย่างที่หล่อนคิดไว้เลย ตรงข้าม เขากลับยืนอ่านหนังสือเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ต่อไปอย่างใจเย็น
“ฉันเลือกได้แล้วค่ะ” เสียงของอรกานต์เรียกให้กฤตินละสายตาจากหนังสือตรงหน้า
มือใหญ่ยาวสีเข้มยื่นออกมาโดยไม่มีคำพูด
“ไม่เป็นไรค่ะคุณกริช ฉันจ่ายเอง”
“ไม่เป็นไรครับ ผมเต็มใจ”
อรกานต์จึงส่งหนังสือในมือให้เขาไปสี่เล่ม กฤตินรับมาดูคร่าวๆ เป็นหนังสือกลอนเล่มบางเล่มหนึ่ง พ็อกเก็ตบุ๊กเบาสมองเล่มหนึ่ง และนวนิยายอีกเล่มหนึ่ง หนังสือคลายเครียดทั้งนั้น…แต่ก็บอกรสนิยมคนอ่านด้วย…อ่านได้หลายประเภทเหมือนนักอ่านตัวยงมากกว่าคนบ้าแฟชั่น
เขาหยิบนิตยสารเกี่ยวกับรถยนต์และคอมพิวเตอร์สมทบลงไปอีกสองเล่ม พลางพยักพเยิดไปทางหนังสือเล่มใหญ่หนาปกแข็งที่ยังเหลืออยู่ในมือหล่อนอีกเล่ม
“แล้วเล่มนั้นจะเอามั้ยครับ”
“เล่มนี้ไม่รบกวนคุณดีกว่าค่ะ มันแพง”
“ไม่เป็นไรครับ” ชายหนุ่มตอบง่ายๆ สีหน้าราบเรียบเมื่อดึงหนังสือเล่มใหญ่ยักษ์นั้นออกจากมือหล่อนอย่างสบายๆ ก่อนจะเดินไปชำระเงิน
อรกานต์ยักไหล่ รู้แล้วน่าว่ารวย! เชอะ!