แบบนี้มันน่า…นัก
อรกานต์ต่อสู้ดิ้นรนสุดชีวิต พยายามบิดกายออกห่างพร้อมกับแกะมือใหญ่ยาวให้หลุดออกจากลำตัว แต่ยิ่งดิ้นยิ่งถูกลำแขนแข็งปานเหล็กกล้ารัดแน่น ทรวงอกบดเบียดกับแผงอกกำยำ ผลักไสเท่าไหร่ก็เหมือนผลักกำแพงอิฐ ไม่มีทีท่าว่าจะขยับเขยื้อน
ผู้ที่มีพละกำลังเหนือกว่าจึงถือวิสาสะกึ่งอุ้มกึ่งดันจนหญิงสาวมาหยุดยืนอยู่ในจุดที่ต้องการ นั่นคือสะโพกของหล่อนอยู่ชิดกับโต๊ะทำงานของเขาโดยมีต้นขาของเขาเบียดชิดติดหน้าขาของหล่อน แขนของเขาโอบรัดไว้แน่นรอบเอวบาง เรียกได้ว่าโดยกายภาพแล้ว หล่อนหมดทางสู้โดยสิ้นเชิง
อดีตทอมบอยสาวใจเต้นไม่เป็นส่ำ เคยคลุกคลีอยู่กับเพื่อนผู้ชายเป็นฝูง แต่ไม่เคยถูกใครจู่โจมในระยะประชิดแบบนี้ ยิ่งผู้ชายคนนี้ ขนาดยืนคุยกันห่างเป็นวา สายตาของเขาก็สามารถหลอมละลายหล่อนได้แล้ว ไม่ต้องมายืนติดชนิดแนบเนื้อแบบนี้หรอก
ลางแพ้มาเห็นๆ ทั้งจากจุดยุทธศาสตร์และโดยสรีระ ตำแหน่งที่หล่อนยืนอยู่ถูกปิดล้อมแน่นหนา ร่างกายที่สูงโปร่งไม่อาจช่วยอะไรได้เลย ก็เขาสูงกว่าตั้งเยอะ ไซส์ยุโรปเชียวล่ะ สูงใหญ่กำยำสมกับที่เคยเป็นนักกีฬาเสียด้วย
กระนั้น หล่อนก็ยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆ ยังคงดิ้นขลุกขลักอยู่ในวงแขนแข็งแรง และยังคงถลึงตาใส่เขาอย่างเดือดดาล “ปล่อยนะคุณกริช คุณจะมารัดฉันไว้อย่างนี้ไม่ได้นะ ปล่อย!”
“ทำไมจะไม่ได้ ตอนนี้ตำแหน่งของผมเลื่อนขั้นจากเพื่อนธรรมดาๆ มาเป็นว่าที่สามีแล้วนะ”
“บ้า ใครเป็นว่าที่สามีใคร พูดให้มันดีๆ นะคุณ”
“อะไรกันคุณ คิดจะเบี้ยวซึ่งๆ หน้าอย่างนี้เลยเหรอ คุณมายื่นข้อเสนอ พอผมตกลงเซ็นสัญญายอมรับกฎกติกามารยาททุกอย่างเรียบร้อย คุณก็มาเบี้ยวหน้าตาเฉยอย่างนี้ ผมเรียกร้องค่าเสียหายนะจะบอกให้”
“คุณไปเสียหายอะไรตรงไหน ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ ไม่งั้นฉันจะแจ้งความด้วย”
“แจ้งความ? ลืมอะไรไปรึเปล่าไทร่า คุณเป็นฝ่ายมาหาผมถึงที่นี่ ใครๆ เค้าก็คิดว่าคุณเต็มใจทั้งนั้นแหละ ผมว่าคุณหยุดดิ้นดีกว่าน่า”
อรกานต์หยุดกึก เห็นจริงตามคำกล่าวของเขาทุกคำ คิดแล้วมันน่าโมโหจริงๆ หล่อนจนมุมทุกทางเลย อยู่ดีไม่ว่าดี หาเรื่องใส่ตัวแท้ๆ ยิ่งคิดยิ่งโมโหจนน้ำตาคลอ
ชายหนุ่มรู้สึกได้ถึงร่างที่ยืนแข็งทื่ออยู่ในอ้อมแขน ใบหน้าขาวนวลก้มต่ำ ขบริมฝีปากล่างแน่น
“ไม่เอาน่าไทร่า ตกลงเซ็นสัญญากันเรียบร้อยแล้ว คุณก็โอเคตามนั้นก็หมดเรื่อง”
“ปล่อยฉัน ฉันจะกลับ” หล่อนเอ่ยเสียงสั่น พยายามเบี่ยงกายออกห่างจากร่างสูงใหญ่ซึ่งก็ไม่เป็นผลสำเร็จเลยแม้แต่น้อย
“ไม่แน่จริงนี่นา ส่งสารท้ารบมา แล้วก็วิ่งหนี แน่จริงก็อย่าหนีซี่คนเก่ง กลัวอะไรเล่า” น้ำเสียงเย้ยหยันชัดเจนส่งผลให้คนฟังเงยหน้าขวับ ดวงตาวาววาบ ในหัวก้องแต่คำว่า ‘ไม่แน่จริง’
หากนิลยาอยู่ด้วยคงได้ลากคอหล่อนหลบออกจากตรงนี้ทันทีที่มีคำว่า ‘ไม่แน่จริง’ ดังขึ้น เนื่องจากอรกานต์เป็นโรคแพ้คำนี้ หล่อนเคยมีเรื่องชกต่อยกับเด็กนักเรียนชายแถวบ้านมาแล้ว และหวุดหวิดจะตีรันฟันแทงกับชาวบ้านเค้าอีกหลายครั้งก็เพราะไอ้คำว่าไม่แน่จริงนี่แหละ
นี่คือข้อมูลที่กฤตินไม่รู้ ซึ่งส่งผลให้เขาจุดไฟในอารมณ์ของหล่อนได้ตรงจุดพอดี
“ใครว่าฉันไม่แน่จริง คนอย่างฉันรบเป็นรบ ลุยเป็นลุย”
“แล้วแต่งงาน?”
“คุณกล้าแต่ง ฉันก็กล้าแต่ง ไม่เห็นจะต้องกลัวอะไร”
ชายหนุ่มยิ้มกว้าง “งั้นตกลงตามนี้ เย็นนี้ผมจะบอกให้แม่เตรียมตัวไปขอคุณเลย”
อรกานต์ตัวแข็งทื่อ เพิ่งรู้ตัวว่าพลาดอีกแล้ว คราวนี้หล่อนพูดเองเต็มๆ คำเลย ‘คุณกล้าแต่ง ฉันก็กล้าแต่ง’ ตายแน่งานนี้ ชีวิตทั้งชีวิตต้องถูกเอามาเดิมพันเพราะคำพูดพล่อยๆ ของหล่อนประโยคเดียว อารมณ์ชั่ววูบแท้ๆ
หญิงสาวพยายามรวบรวมพละกำลัง ผลักกำแพงอิฐให้ออกห่างจากร่างอีกครั้ง “ปะ…ปล่อยได้แล้วคุณกริช ตกลงกันเรียบร้อยแล้วนี่”
“ก็ผมยังไม่อยากปล่อยนี่”
คนถูกกอดรัดหน้ามุ่ย ออกแรงผลักไสหนักขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งไม่สำเร็จยิ่งโมโห ลงท้ายก็กลายเป็นการดิ้นรนที่ดุเดือด
ฝ่ายชายพยายามละมุนละม่อม แต่เมื่อเจอฤทธิ์เดชนางแมวป่า ทั้งข่วนทั้งตะกุยมากเข้า เขาก็จัดการใช้มาตรการขั้นเด็ดขาด แขนทั้งสองข้างของหล่อนถูกจับไพล่หลัง ลำตัวเอนหงายแนบขนาบไปกับโต๊ะไม้ตัวใหญ่ ตรึงไว้ด้วยน้ำหนักตัวของเขา หมดสิทธิดิ้นรน ไร้หนทางขยับเขยื้อน
“ทุเรศมากคุณกริช คุณใช้กำลังกับผู้หญิงไม่มีทางสู้ ฉวยโอกาส…”
คำถัดไปหยุดอยู่แค่ในลำคอ ห้องทั้งห้องเงียบกริบเมื่อกฤตินโน้มใบหน้าเข้ามาจนใกล้ แนบสันจมูกลงข้างโหนกแก้ม พูดเสียงแผ่วเบาใส่ข้างหู “พูดต่อให้จบสิ”
ริมฝีปากได้รูปปิดสนิท ไม่มีคำใดออกมาแม้เพียงพยางค์เดียว
ขณะนี้มีเพียงเสียงลมหายใจกระท่อนกระแท่นกับสายตาที่จ้องเขม็งมาทางเขาเท่านั้น กฤตินจึงกล่าวต่อไปด้วยเสียงห้าวต่ำ ข่มขู่อยู่ในที “ผมจะบอกอะไรให้นะ ข้อหนึ่ง ห้องนี้เป็นห้องเก็บเสียง เพราะผมเป็นคนชอบความเงียบสงบเวลาทำงาน และบางทีผมก็ใช้ห้องนี้เป็นห้องรับแขกหรือห้องประชุมย่อยด้วย โซฟาชุดใหญ่ที่มุมห้องนั่นเป็นหลักฐานได้ เห็นมั้ย”
อรกานต์เหลือบตามองโซฟาชุดใหญ่ที่พอจะนั่งได้ราวสิบคนแล้วพยักหน้า เขาจึงไม่รอช้ากล่าวต่อทันที