“ข้อสองก็คือ เมื่อตอนที่คุณมาถึง เลขาฯ ของผมได้ช่วยล็อกประตูห้องนี้ไว้เรียบร้อยและยังรับหน้าที่ช่วยขจัดสิ่งกีดขวางทุกประการที่จะมารบกวน โทรศัพท์ทุกสายจะได้รับการบอกให้ฝากข้อความไว้ แม้พี่สาวผมจะมาหาถึงที่ก็จะได้รับคำบอกกล่าวอย่างสุภาพว่าอย่ารบกวน”
ความปั่นป่วนในช่องท้องเริ่มก่อตัวขึ้น เมื่อหล่อนเริ่มตระหนักถึงสิ่งที่เขากำลังชี้แจง
ชายหนุ่มยังคงกล่าวต่อด้วยน้ำเสียงโทนเดิม “ดังนั้น…ข้อสาม กรุณาอย่าทำให้ผมโมโหจัดหรือบังคับตัวเองไม่อยู่ เพราะผมสามารถจัดการกับคุณได้อย่างสบายๆ ไม่ว่าจะเป็นบนโต๊ะนี่ บนพื้น หรือจะที่โซฟานั่น”
อรกานต์กลืนน้ำลายเอื้อก
“เข้าใจมั้ยครับ”
หล่อนรีบพยักหน้า หากนัยน์ตายังหลุกหลิก สอดส่ายหาจังหวะหนี
“จะลองดูก็ได้นะ ไทร่า”
เมื่อได้ยินน้ำเสียงเบาทว่าเด็ดขาดดังมาพร้อมแววตาท้าทายแล้ว คนเคยกล้าเคยเก่งก็ชักหวาดขึ้นมาจริงๆ เหมือนกัน หญิงสาวหันมายิ้มสั่นๆ ทำใจดีสู้เสือ “คุณช่วยขยับหน่อยได้มั้ยคะ กดลงมาทั้งตัวแบบนี้ ฉันเจ็บหลัง”
กฤตินถอนหายใจยาว ปรับเปลี่ยนท่าให้หล่อนได้กลับมายืนตรง และครั้งนี้ ร่างระหงยืนสงบนิ่งอยู่ในวงแขน ไม่กล้าแผลงฤทธิ์ใดๆ อีกต่อไป
จัดว่าคำขู่ได้ผลชะงัด ดวงตาคมปลาบมองสำรวจไปทั่วใบหน้าเนียนเกลี้ยงเกลาซึ่งกำลังก้มนิ่งจนคางติดลำคอ จมูกสูดกลิ่นหอมรวยรินจากเรือนผม ก่อนจะจรดสันจมูกลงที่โหนกแก้ม
เป็นความบังเอิญที่โชคดี วันนี้ใบหน้านวลมีเพียงแป้งฝุ่นหอมเคลือบอยู่บางเบา ไม่มีกลิ่นเครื่องสำอางใดๆ มาทำให้ระคายเคือง
หล่อนเอียงคอเล็กน้อยทำท่าจะหลบ แต่ก็หยุดชะงัก ไม่กล้าขยับ เมื่อเขาส่งเสียงกระแอมเตือน
ตอนนี้ผิวแก้มผ่องกลายเป็นสีแดงสุก เจ้าตัวรู้สึกร้อนผะผ่าวไปทั่วใบหน้า พยายามควบคุมเสียงไม่ให้สั่นเมื่อกล่าว “พะ…พอแล้วค่ะ คุณกริช มะ…มีธุระอะไร ก็…พูดมาสิคะ”
“แล้วคุณจะคุยกับผมดีๆ นะ”
“ค่ะ”
“ไม่ชวนทะเลาะนะ”
“ค่ะ”
เจ้าของสถานที่อารมณ์ดีขึ้นผิดหูผิดตา รั้งร่างบางเข้าแนบลำตัว บังคับให้เดินเคียงคู่กันไปก่อนจะทรุดลงนั่งที่โซฟาอ่อนนุ่มตัวใหญ่
ฝ่ายหญิงนั่งตัวเกร็งจะแกะมือใหญ่ที่เกาะกุมอยู่ที่สะโพกออกก็ไม่กล้า ท้องไส้เหมือนมีทอร์นาโดก่อตัวปั่นป่วน หัวใจเต้นระรัวยิ่งกว่ากลองมโหระทึก สันจมูกของเขาแตะอยู่ข้างขมับแต่หล่อนร้อนวาบไปถึงลำคอราวกับอยู่ในเตาอบ จะเอียงหน้าหลบก็ไม่กล้าอีก
เกิดเขาบ้าทำจริงตามคำขู่ขึ้นมา หล่อนก็แย่ ซี้แหงพอดีสิ
กฤตินรู้สึกดีจนบอกไม่ถูก ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าธีร์วรา ภคภัทราจะมีท่าทีเอียงอายไร้เดียงสาได้น่ารักน่าชังขนาดนี้
“คุณกริช” หล่อนเรียกเสียงเบา “มีธุระอะไรก็พูดมาสิคะ ฉันต้องรีบกลับไปทำงานนะ”
กฤตินยิ้มขำที่เสียงของหล่อนยังหอบสั่น และยังมีการถอนใจเบาๆ อย่างโล่งอกเมื่อเขาเลื่อนใบหน้าออกห่างด้วย เสียงทุ้มนุ่มจึงเอ่ยถามอย่างอ่อนโยน “วันนี้คุณมาหาผมทำไม ฮึ จะมาอาละวาดเรื่องอะไร”
“เรื่องคอมพิวเตอร์ สงสัยจะโดนไวรัส พอดีตอนเช้าฉันเพิ่งส่งไฟล์ไปให้คุณวิรัชกับคุณรัชนกด้วย เลยทำงานไม่ได้กันหมด”
“คุณเลยโมโหผม กะจะมาถล่มผมถึงที่”
หญิงสาวพยักหน้า
“ผมไม่ได้ทำนะไทร่า เรื่องคอมพิวเตอร์นี่ผมไม่รู้เรื่อง”
“ก็ฉันไม่รู้ เรื่องไหนๆ ก็ฝีมือคุณทั้งนั้น ฉันก็เลยคิดว่าคุณแกล้งฉันอีก เมื่อคืนฉันก็แทบไม่ได้นอน ทั้งเหนื่อยทั้งเพลีย อารมณ์ก็เลยเสียง่าย ถ้าคุณไม่ได้ทำจริงๆ ก็ขอโทษด้วยที่มากล่าวหา ฉันกลับล่ะ”
จบคำก็ขยับตัวลุกขึ้น ทำให้ข้อแข็งๆ ต้องรีบออกแรงตวัดร่างบางให้กลับลงนั่งอิงแอบอกกว้างอีกครั้ง