หญิงชาวเอเชีย ผมสีน้ำตาลไหม้พลิกกายปรับเปลี่ยนอิริยาบถอีกครั้ง เปิดดวงตาหวานซึ้งขึ้น เหลือบมองนาฬิกาข้อมือแวบหนึ่งพลางถอนใจ
มัวแต่คิดนั่นคิดนี่สะเปะสะปะไปหมด จนผ่านมาเกือบสองชั่วโมงแล้วยังไม่ได้หลับสักนาทีเลย เฮ้อ! เดี๋ยวก็เปิดหน้าจอโทรทัศน์นั่งเล่นเกมเสียนี่ เล่นมันให้ครบทุกเกม ให้มันตื่น ให้มันส์หฤหรรษ์ในอารมณ์ไปเลยดีมั้ย
กระนั้นก็ทำได้เพียงคิด อรกานต์รู้ตัวดีว่าหล่อนจำเป็นต้องนอนให้หลับ ถ้ายังอยากอยู่ห่างจากหมอจากยา ร่างกายอันงดงามนี้ไม่ได้แข็งแรง แข็งแกร่งอย่างร่างเดิมของหล่อน แต่แรกมาแล้ว เมื่อคราวช็อปปิ้งครั้งมโหฬารถึงสามวันติดต่อกัน หล่อนถึงกับไม่สบาย อ่อนเพลียจนต้องชงน้ำเกลือแร่ดื่ม ซึ่งอรกานต์ไม่ได้เฉลียวใจเลยว่านั่นเป็นแค่อาการขั้นเด็กๆ เท่านั้น ต่อมา เมื่อหล่อนต้องเข้าไปให้น้ำเกลือในโรงพยาบาลถึงสามครั้ง เป็นไข้อีกนับครั้งไม่ถ้วนที่อาจหาญใช้ร่างกายนี้อย่างสมบุกสมบันเหมือนกับที่เคยใช้ร่างเดิม ไม่ว่าจะเป็นการอดนอน การตากแดด ตากลม หรือตากฝน
อรกานต์จึงเรียนรู้ที่จะประนีประนอมกับร่างกายอันมีขีดจำกัดนี้ ดังนั้นแม้หล่อนจะเรียนหนักหรือมีธุระปะปังมากมายขนาดไหนก็ตาม หล่อนจะพยายามเจียดเวลานอนให้ได้อย่างน้อยหกชั่วโมงเสมอ พยายามหลีกเลี่ยงการตากแดดนานๆ และจะไม่พาตัวเองไปอยู่ท่ามกลางสายฝนหรือละอองหิมะเด็ดขาด โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศกำลังเปลี่ยนแปลง ยิ่งต้องคอยดูแลรักษาสุขภาพมากเป็นพิเศษ เป็นไข้จนต้องฉีดยาและให้น้ำเกลือนั้นเป็นเรื่องที่ไม่น่าอภิรมย์เสียเลย
อดีตสาวมาดเซอร์ยิ้มขำ ไม่ใช่แค่ต้องระวังเรื่องปวดหัวตัวร้อนเท่านั้นหรอกนะ คุณไทร่าเธออ่อนแอ บอบบางไปทั้งเนื้อทั้งตัว นึกถึงเมื่อคราวที่หล่อนฝึกการเดินด้วยรองเท้าส้นสูง ขนาดแค่เดินไปเดินมาอยู่ภายในห้อง ไม่ได้ไปตากแดดตากลมที่ไหนเลย หล่อนยังต้องเข้าโรงพยาบาลเพื่อรักษาอาการกล้ามเนื้ออักเสบ! หรืออีกคราวที่หล่อนรับประทานอาหารเสียอิ่มเต็มอัตราในปาร์ตี้วันเกิดของเพื่อนคนหนึ่ง รุ่งขึ้นหล่อนก็ต้องเข้าพบแพทย์ และกลับออกมาด้วยคำวินิจฉัยว่า ทานอาหารมากเกินไป กระเพาะและลำไส้จึงไม่ทำงาน!
จะว่าไป หล่อนก็ต้องปรับตัวมากมายหลายอย่างเหมือนกัน ไม่รู้ว่าถ้าไทร่าไปอยู่ในร่างของหล่อนบ้าง เธอผู้นั้นจะปรับได้มากเท่าหล่อนในเวลานี้หรือเปล่า คิดๆ แล้วหล่อนก็ได้เรียนรู้ และเข้าใจอะไรเกี่ยวกับธีร์วราคนเดิมมากมายหลายอย่างทีเดียว จากเดิมที่มีแต่ความโกรธ ความเกลียดมอบให้ บัดนี้นอกจากความเข้าใจแล้ว บางคราวเธอยังนึกสงสารและเห็นใจอีกด้วย ไม่แปลกหรอกที่ธีร์วราคนเดิมจะเป็นคนเห็นแก่ตัว ไม่มีความจริงใจให้ใครทั้งสิ้น และมีสายตาราวกับจะเย้ยหยันคนทั้งโลก ก็เพราะในโลกรอบกายของเธอผู้นี้ ไม่เคยมีใครหยิบยื่นความจริงใจให้เธอเลย
ตั้งแต่เล็กมาแล้ว พี่เลี้ยงแต่ละคนก็เพียงแค่เลี้ยงดูตามหน้าที่ ทำงานให้สมกับเงินเดือนที่ได้รับเท่านั้น ไม่มีคนไหนที่จะรักใคร่ผูกพันกับเธออย่างแท้จริง กับเพื่อนหรือ ยิ่งไม่ต้องพูดถึง ขนาดหล่อนพยายามหลบหลีกเพื่อนๆ ของไทร่าทุกกลุ่มแล้วนะ หากก็มีบ้างที่เลี่ยงไม่ได้ อรกานต์ยังรู้สึกว่าเพียงแค่เวลาไม่นานที่ได้สนทนากัน หล่อนสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความเสแสร้งและมุ่งแสวงหาผลประโยชน์ของแต่ละคน ไทร่ามีแต่เพื่อนแบบนี้มาทั้งชีวิต…ไม่เหงาแย่หรือ
อรกานต์เคยโทษว่าไทร่าเองนั่นแหละที่ไม่เลือกคบคนที่จริงใจ ดูอย่างหล่อนสิ หล่อนเคยได้พยายามผูกมิตรกับไทร่ามาแล้วแต่ไม่เป็นผล อาจเป็นไปได้ว่าไทร่านั้นมีบทเรียนสาหัสสากรรจ์มาแล้วจากเพื่อนเก่าที่ไว้ใจ เธอจึงไม่กล้าที่จะวางใจใครอีก เลือกคบแต่คนที่รู้แน่ว่าเสแสร้งและรักษาความสัมพันธ์ไว้แค่ผิวเผินตั้งแต่ต้น ดูจะปลอดภัยกว่า…นี่หล่อนก็กำลังจะกลับประเทศไทย คงต้องเตรียมตัวเตรียมใจคอยหลบ คอยระวังมิตรสหาย ‘เพื่อนกิน’ ทั้งหลายของไทร่าให้ดีเหมือนกัน…
อรกานต์รู้สึกตัวตื่น เมื่อแอร์โฮสเตสสาวสะกิดปลุกเพื่อเสิร์ฟอาหารเช้า เหลือบมองนาฬิกาข้อมือแล้วก็นึกดีใจที่ได้หลับบ้าง แม้ว่าจะแค่สองสามชั่วโมงก็ตาม หล่อนเริ่มทานอาหารช้าๆ พลางนึกถึงอนาคตอันใกล้ ลงจากเครื่องไป ก็คงพบนิลยาเป็นคนแรก เนื่องจากหล่อนไม่ได้บอกใครที่บ้านไว้ เมื่อคุณหญิงท่านถาม หล่อนยังตอบไปว่า ‘สัปดาห์หน้าน่ะค่ะ ไปถึงเมื่อไหร่ก็เมื่อนั้น ไทร่านั่งแท็กซี่กลับเองได้ แม่ไม่ต้องเป็นห่วง’
และอีกไม่กี่วันก็คงจะเริ่มงานในโรงแรมพรหมภัทรา สาขากรุงเทพฯ อย่างแน่นอน ไม่แน่ว่าหากทำงานไปสักระยะ หล่อนอาจจะขอย้ายไปประจำที่พรหมภัทรา วิลเลจ จังหวัดเชียงใหม่ หรือพรหมภัทรา ซีไซด์ จังหวัดภูเก็ตก็ได้ อนาคตสดใสกำลังรออยู่
อรกานต์อิ่มเมื่อทานไปได้เพียงครึ่งเดียว จะด้วยความอ่อนเพลียหรือตื่นเต้นก็มิอาจทราบได้ ดังนั้นหล่อนจึงใช้เวลาที่เหลืออีกไม่นานบนเครื่องบิน นั่งเล่นเกมกับจอโทรทัศน์ส่วนตัวจนถึงจุดหมายปลายทาง