บทที่ 3
นางเห็นแล้วใบหน้าซีดเผือด ถอยไปข้างหลังโดยสัญชาตญาณ ชักมีดที่ซ่อนไว้ที่เอวออกมาในชั่วพริบตา ชายหนุ่มด้านข้างกลับคว้ามือนางไว้และหยุดยั้งนาง
“ไม่เป็นไร ข้าวาดข่ายอาคมไว้ มันมองไม่เห็นหรอก”
คำพูดนี้ทำเอานางอึ้งไป ถึงได้สังเกตเห็นว่าเจ้าสิ่งนั้นไม่ได้พุ่งเข้าใส่นาง แต่เดินเข้ามาและหมอบคลานอยู่บนพื้น ดมทางนี้ทีดมทางนั้นที จากนั้นเงยหน้าขึ้น ขยับจมูกพลางใช้ดวงตาเจ้าเล่ห์คู่นั้นสอดส่องไปทั่ว
นางมองเห็นรูม่านตาสีเขียวกวาดผ่านนางไป ชั่วขณะนั้นนางแทบจะอยากหันหลังวิ่งหนี แต่ตอนกวาดมองนางดวงตาสีเขียวคู่นั้นไม่ได้หยุดเลย เหมือนมองไม่เห็นนางอย่างไรอย่างนั้นและมองเลยไปด้านข้างแทน
หลังตรวจดูจนทั่วแล้ว เจ้าตัวอัปลักษณ์นั่นก็ขมวดคิ้วมุ่น เผยท่าทางฉงนสงสัย มันเดินวนซ้ายวนขวาอย่างไม่ละความพยายาม ไม่ได้จากไปทันที แต่นางเห็นว่าไม่ว่าเจ้าสัตว์ประหลาดนั่นจะเดินอย่างไรล้วนอยู่ห่างออกไปในรัศมีสิบเชียะ
หลังจากนั้นนางก็เห็นเส้นสีดำบนพื้น ชายผู้นั้นใช้ถ่านที่เผาแล้ววาดวงกลมขนาดใหญ่ล้อมพวกเขาสองคนและกองไฟไว้ รวมถึงรถเทียมลาและลาตัวนั้นด้วย
เขาวาดสัญลักษณ์อย่างหนึ่งไว้ตรงตำแหน่งเหนือใต้ออกตกของวงกลม นางรู้ว่านั่นเป็นข่ายอาคมอย่างหนึ่ง เรียบง่ายมาก แต่ใช้ได้ผลยิ่ง
สัตว์ประหลาดที่อัปลักษณ์ตัวนั้นมิอาจเดินเข้ามาได้ ดูเหมือนจะมองไม่เห็นคนและของที่อยู่ในวงกลมด้วย มันเดินวนอยู่นอกวงกลมพักหนึ่งก่อนจะหันหลังจากไป
แม้จะเป็นเช่นนี้ นางยังคงห้ามอาการสั่นเทาไม่ได้ จนกระทั่งชายหนุ่มด้านข้างเอ่ยปาก
“เพราะฉะนั้นเจ้าจะบอกข้าได้หรือไม่ว่านั่นคือตัวอะไร”
หญิงสาวได้สติทันที หันกลับมาจ้องเขา เหมือนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเขายังอยู่ตรงนี้
เขาเลิกคิ้วใส่นาง
“ข้าไม่รู้” นางตอบตาไม่กะพริบ
นางกำลังโกหก เขารู้ นางปกปิดความหวาดหวั่นในดวงตา แต่นิ้วมือของนางยังคงสั่นระริก
เหมือนต้องการปกปิดอาการสั่นที่ห้ามไม่อยู่ นางหันไปคว้าไก่ทั้งตัวมากิน
“เช่นนั้นผู้น้อยขอถามได้หรือไม่ว่าแม่นางชื่ออะไร” เขาถามอีก
“ข้าจำไม่ได้แล้ว” นางแทะไก่ตัวนั้นต่อโดยไม่หันมามองเขา ย้อนว่า “ข้าคิดว่าเจ้าบอกว่าตัวเองเป็นหมอเสียอีก หาใช่นักพรต”
“สิ่งนี้อาจารย์ปู่เป็นคนสอนข้า เดินทางอยู่ข้างนอกย่อมพบเจอของสกปรกอย่างมิอาจหลีกเลี่ยง” เขาบอก “ดังนั้นเขาจึงมอบยันต์ให้ข้าหลายแผ่น สอนข่ายอาคมป้องกันตัวจากสิ่งชั่วร้ายแบบง่ายๆ ให้ข้า”
ได้ยินดังนั้นแล้วนางก็ไม่เอ่ยอะไรอีก แต่กินอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็กินไก่ตัวนั้นจนเกลี้ยง