บทที่ 4
ขณะที่นางเจ็บปวดจนแทบจะหมดสติไป มือใหญ่คู่หนึ่งพลันยื่นลงมาในน้ำ ช้อนอุ้มนางขึ้นทั้งตัว หญิงสาวออกแรงไอสำลัก เขาโอบเอวนางไว้ ระวังไม่ให้ถูกแผล ช่วยให้นางก้มตัวสำลักน้ำออกมา
น้ำโคลนไหลลงจากร่างกายนาง นางช้อนตาขึ้น มองเห็นชายผู้นั้นท่ามกลางสายฝน
เขาเลิกคิ้วให้นาง นางถลึงตาใส่เขา
ชั่วอึดใจต่อมานางกลั้นไม่อยู่จึงสำลักอย่างรุนแรง ครั้งนี้มีเลือดออกมาด้วย นางรีบยกมือขึ้นอุดปากไว้ ไม่กล้าปล่อยให้เลือดหยดลงบนพื้น กลัวว่ากลิ่นจะกระจายออกไป
แม้ฝนจะกำลังตกหนัก นางยังคงกลัวว่าเจ้าพวกนั้นจะตามกลิ่นมา
เขามองเห็นจึงหยิบผ้าจากอกเสื้อยื่นให้ นางคว้าไว้โดยไม่คิดและอุดปากของตัวเอง
เขาให้นางนั่งพิงคันนา หยิบต้นไผ่ที่ตัดมาจากข้างทางเมื่อครู่นี้ออกมาจากข้างหลัง ใช้มีดสั้นผ่าออกเป็นซีก จากนั้นลอกเปลือกไผ่ออกมาทำเป็นเชือก ดันกระดูกซี่โครงของนางที่หักและเคลื่อนกลับไปที่เดิม นางร้องครางเบาๆ แต่ไม่ได้หมดสติไป เพียงมองเขาใช้เชือกไผ่ผูกซีกไม้ไผ่อย่างรวดเร็ว ยึดไว้ตรงหน้าอกนาง ช่วยนางพยุงตัวไว้
เขาลงมืออย่างคล่องแคล่วว่องไว ตั้งแต่ต้นจนจบใช้เวลาเพียงไม่กี่อึดใจเท่านั้น
ฝนกระหน่ำเทลงมาไม่หยุด ซ่งอิ้งเทียนช้อนอุ้มแม่นางที่เดิมทีเหมือนมนุษย์โคลน แต่บัดนี้เปียกปอนไปทั้งตัวขึ้นมาอย่างระมัดระวังโดยไม่เอ่ยอะไรสักคำ
นางไม่ได้ขัดขืน แม้แต่จะอ้าปากประท้วงยังไม่มีเรี่ยวแรงด้วยซ้ำ คนพิงซบอยู่บนตัวเขาอย่างว่าง่าย มีเพียงน้ำตาร้อนระอุที่หยดลงบนไหล่เขาไม่หยุดอย่างควบคุมไม่อยู่
นางเกลียดที่ตัวเองต้องการความช่วยเหลือจากเขา
เขารู้ เขาสามารถรู้สึกได้
ซ่งอิ้งเทียนอุ้มหญิงสาวเดินไปบนคันนาท่ามกลางสายฝนกระหน่ำ เดินกลับไปยังบ้านชาวนาที่เขาขอพักอาศัยชั่วคราว
ฟ้ามืดแล้ว
ซ่งอิ้งเทียนอาศัยแสงจากเทียนทำความสะอาดบาดแผลให้นาง จากนั้นใส่ยาและพันแผล เช็ดตัวนางให้แห้ง
ร่างกายนางมีแผลใหม่ที่น่ากลัวหลายจุด แต่ก็มีแผลเก่าบางส่วนที่สมานแล้ว รอยแผลเป็นบนหน้านางดีขึ้นมาก ไม่ขรุขระเหมือนก่อนหน้านี้อีก เหลือเพียงรอยแผลเป็นจางๆ เท่านั้น
ส่วนแขนของนางที่ขาดไปก็งอกขึ้นมาใหม่อย่างน่าอัศจรรย์
ก่อนหน้านี้แขนขวาของนางถูกฉีกกระชากจนขาดไปแทบทั้งท่อน แต่ตอนนี้บริเวณนั้นไม่เพียงเรียบลื่น เนื้อยังเติมเต็มมาถึงข้อมือแล้ว แทบจะเหมือนงอกขึ้นมาใหม่อย่างไรอย่างนั้น…
นางพยายามหดมือกลับ เขาเงยหน้าขึ้น มองเห็นดวงตาที่เปี่ยมด้วยโทสะของนาง
หญิงผู้นี้ยังคงอ่อนแอมาก ถ้าเขาไม่ปล่อย นางไม่มีทางดึงกลับไปได้ แต่เขาไม่ได้จับแขนข้างที่ขาดของนางต่อ เพียงอุ่นน้ำแกงลำไยพุทราแดงที่ใช้เตาดินเผาที่ยืมมาก่อนหน้านี้ต้มให้ร้อนอีกครั้ง จากนั้นให้นางนั่งพิงอกเขา ป้อนนางดื่มน้ำแกงหวาน
ครานี้นางไม่ได้แกล้งหลับ ทั้งยังไม่ปฏิเสธ แต่ดื่มด้วยสีหน้าไร้อารมณ์
เขาหลุบตามองใบหน้าเย็นชาของนาง ป้อนนางพลางบ่นในใจ
อาจารย์ปู่บอกแล้วว่ามีเพียงสตรีกับคนพาลยากจะบ่มเพาะ ข้าจะสนใจนางไปไย ใช่ว่าข้าไม่เคยเจอ…คน…ที่เป็นอย่างนางสักหน่อย