บทที่ 5
ทว่านั่นไม่ใช่ปีศาจ เป็นเขา
นางได้กลิ่นคุ้นเคยจากร่างกายเขา
ซ่งอิ้งเทียนเดินมาข้างเตียง สบตากับนาง
เขาคิดว่านางหลับ แต่หาได้เป็นเช่นนั้น เขามองเห็นนางหมอบอยู่บนเตียงและโก่งตัวขึ้น เหงื่อไหลท่วม เห็นเล็บยาวแหลมคมที่ยื่นออกมาขยุ้มลึกลงไปในฟูก เห็นเข็มเงินถูกนางบีบออกจากผิวหนัง สั่นระริกอยู่บนจุดชีพจรคล้ายจะตกลงมา ทั้งยังมองเห็นนัยน์ตาที่เปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำอีกครั้งคู่นั้น
ในนัยน์ตาสีแดงฉานที่เห็นแล้วน่าเศร้ามีความตระหนก ความเคียดแค้น และความหวาดหวั่นที่ปิดไม่มิด
เขามองนางอย่างตะลึงงัน อ้าปากแต่ไร้ซึ่งคำพูด
ชั่วอึดใจต่อมาเข็มเงินพลันหลุดจากจุดชีพจรพุ่งเข้าใส่เขา
มือใหญ่ยื่นออกไปรวบเก็บพวกมันไว้ในมือ นางลุกขึ้นออกแรงตวัดกรงเล็บใส่ ซ่งอิ้งเทียนไม่หลบ แต่กลับโน้มตัวมาข้างหน้า เล็บนางข่วนหน้าเขา เกี่ยวผมยาวข้างหูเขาออกไป แต่เขายื่นมือไปโอบกอดนาง หยุดนางไว้ได้อีกครั้ง
ทว่าครั้งนี้เขาไม่ได้ปักเข็มเงินลงบนจุดชีพจรที่หลังนางอีก เพียงยื่นมือไปโอบกอดนางไว้
ไม่ต้องกลัว เจ้าไม่ต้องกลัว…เขาเอ่ยในใจ
อะไรของเจ้า?! นางหอบหายใจ คิดจะฝังกรงเล็บลงในศีรษะเขา หักกระดูกคอของเขา แต่เสียงของเขาและอารมณ์ความรู้สึกอันรุนแรงพลันโถมทะลักเข้ามาในห้วงความคิด
ข้าไม่มีเจตนาจะทำร้ายเจ้า…ไม่มีทางทำร้ายเจ้า…
เขากำลังพูดอะไร?!
เจ้าไม่จำเป็นต้องกลัว
นี่มันบ้าอะไรกัน…นางน้ำตาคลอขณะคิดด้วยความโมโห แต่เล็บแหลมคมที่ยื่นออกมากลับแค่จิ้มลงไปในผิวของเขาเท่านั้น ไม่ได้แทงลงไปอีก
“ข้าขออภัย…” เขาโอบกอดนาง เอ่ยเสียงแหบพร่า
นางอึ้งไป กลั้นหายใจ ขณะที่มือสั่นระริก
คำพูดนี้ไม่ควรเกิดขึ้น นางเองก็ไม่เคยคาดหวังคำขออภัย เหมือนมีสายน้ำโถมทะลักเข้ามาในหัวใจ ทำให้น้ำตาเอ่อท้นออกมาจากขอบตา
“ข้าขออภัยจริงๆ”
เขาพูดซ้ำ จากนั้นนางก็หมดสติไป
ลำแสงอ่อนจางส่องเข้ามาทางหน้าต่าง
ซ่งอิ้งเทียนโอบร่างที่อ่อนปวกเปียกในอ้อมกอด หัวใจยังคงเต้นรัว
เข็มเงินในมือยังคีบอยู่ระหว่างนิ้วมือ ปักลงบนจุดชีพจรใหญ่หลังคอนางอีกครั้ง