“ขอบคุณหลงจู๊ฟางที่สงเคราะห์ หายากที่หลานชายจะได้มีเวลาว่าง ดังนั้นจึงอยากท่องเที่ยวไปทั่ว ถือโอกาสส่งแม่นางที่ป่วยคนนี้กลับบ้านเกิดด้วย เอาไว้วันหน้าหลานชายจะต้องขอให้ไป๋ลู่ส่งยาสมุนไพรชั้นดีมาให้ท่านบำรุงร่างกายแน่นอน”
“คุณชายอย่าได้พูดเช่นนี้เป็นอันขาด ในอดีตหากท่านไม่ยื่นมือเข้าช่วย ป่านนี้ข้าน้อยคงตายไปนานแล้ว ไหนเลยจะมีวันนี้ได้”
“หลงจู๊ฟางเกรงใจแล้ว ท่านอยู่ตรงนี้แหละ ไม่ต้องส่งแล้ว รีบกลับไปพักผ่อนเถอะ”
“ขอรับๆ”
แม้จะกล่าวเช่นนี้ แต่หลงจู๊ฟางยังคงยืนอยู่ที่เดิม ยิ้มมองส่งเขาขึ้นรถ ทั้งยังโบกมือไม่หยุด
หญิงสาวนั่งพิงเบาะนุ่มอยู่ในรถ มองตู้ยาและกล่องไม้ที่มีขนาดและจำนวนเท่าเดิม ไม่น้อยลงแม้แต่ชิ้นเดียว ยังคงตะลึงงันเล็กน้อย
รถเป็นรถคันเดิมจริงๆ ลาก็เป็นลาตัวเดิม
นางจำลาตัวนั้นได้ ยิ่งไม่มีทางจำรถคันนี้ผิด
หลายวันก่อนนางเพิ่งจะกินยาบนรถที่กินได้จนหมด ทั้งยังรื้อแผ่นทองใบ ที่เขาเก็บอยู่ในช่องลับใต้ตู้ยาออกมา แล้วนำกล่องไม้ ตู้ยา มีดหมอ ตลอดจนเสื้อผ้าที่มีราคาทั้งหมดไปแลกเป็นเงินในหมู่บ้านและเมืองต่างๆ รวมถึงลาตัวนั้นกับรถคันนี้ด้วย
แต่ทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าล้วนเหมือนกับก่อนหน้านี้
นางรู้ว่าถ้ามือนางขยับได้และดึงลิ้นชักไม้พวกนั้นออกมา จะต้องเห็นมีดหมออย่างดีที่สั่งทำพิเศษจากร้านมีดและเครื่องเหล็กหนึ่งหทัยเรียงกันอยู่สิบสองเล่มแน่นอน
ไม่อยากจะเชื่อว่าชายผู้นั้นยังคงถือกล่องไม้เรียบง่ายทว่าประณีตใบเดิม กินองุ่นแห้งที่ถูกเติมเข้าไปใหม่
ก่อนหน้านี้นางไม่ได้ตั้งใจสังเกต แต่บัดนี้เมื่อนั่งอยู่บนรถ ฟังบทสนทนาระหว่างเขากับหลงจู๊เมื่อครู่นี้ มองข้าวของตรงหน้าที่ไม่ขาดหายไปแม้แต่ชิ้นเดียว นางจึงเชื่อมโยงเรื่องทุกอย่างเข้าด้วยกัน
ใต้หล้านี้เป็นของฮ่องเต้ แต่หากกล่าวถึงทางใต้ของแม่น้ำฉางเจียง ผู้กุมอำนาจที่แท้จริงกลับเป็นคหบดีใหญ่ที่กระจายอยู่ตามเมืองและมณฑลต่างๆ บริเวณลุ่มแม่น้ำแถบเจียงหนาน คนที่สามารถหาของที่หายไปกลับคืนมาได้จนครบ สามารถทำให้คนอาศัยป้ายสำริดอันเดียวเดินทางท่องไปได้ทั่ว มีเพียงคนเดียวเท่านั้น
ลาลากรถเดินช้าๆ อยู่ใต้ท้องฟ้าสีน้ำเงินและเมฆสีขาว เดินหน้าไปทีละก้าวๆ
“เจ้าของหอหงส์เป็นอะไรกับเจ้า”
ได้ยินคำพูดนี้แล้วเขาก็อึ้งไป หันกลับมามองนาง ไม่ตอบแต่กลับยิ้มถาม
“แม่นางยอมเปิดปากพูดแล้วหรือ ขืนเจ้ายังไม่ส่งเสียง ข้ายังคิดว่าลำคอเจ้าได้รับบาดเจ็บเสียอีก”
สองวันนี้เขาไม่ได้ผนึกเสียงของนางแล้ว แต่พอตื่นมาพบว่าตัวเองถูกควบคุมด้วยเข็มเงิน นางก็ทั้งโกรธและโมโห ไม่ยอมพูดกับเขา แม้แต่กินข้าวยังต้องให้เขาง้างปากนางออกและป้อนอาหารให้
“ข้าควรฆ่าเจ้าตั้งแต่แรกเมื่อมีโอกาส” นางพูดด้วยสีหน้าถมึงทึง
“โชคดีจริงๆ ที่เจ้าไม่ได้ทำเช่นนั้น” เขาฟังแล้วเลิกคิ้ว กินองุ่นแห้งพลางยิ้มตอบว่า “หาไม่แล้วเจ้ายังจะมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้หรือ”