ทว่านางไม่ได้ทำเช่นนั้น นางเพียงลุกขึ้นยืนและเดินออกไปโดยไม่เหลียวหลัง
เขาไม่ห่วงว่านางจะหนีไป บริเวณรอบนอกเกาะมีค่ายกลลวงวิญญาณอยู่ และเขารู้ว่านางรีบร้อนถึงเพียงนี้จะไปที่ใด
เป็นดังที่คิด ไม่นานหลังจากนั้นเขาก็ได้ยินเสียงประตูห้องส้วมถูกลากเปิด ก่อนจะกระแทกปิดอย่างแรง
ก่อนหน้านี้ตอนอยู่บนรถหรือในโรงเตี๊ยม หากนางอยากปลดทุกข์ล้วนจำเป็นต้องใช้ถังถ่าย หรือไม่ก็เป็นเขาที่อุ้มนางไปห้องส้วมเพื่อทำธุระ พอกลับมาบนเกาะ นางถูกจำกัดการเคลื่อนไหวของขาทั้งสองข้างจึงต้องพึ่งพาไป๋ลู่
วันนี้ไป๋ลู่ติดธุระมาไม่ได้ มิอาจช่วยเหลือนาง นางอดทนจนถึงตอนนี้น่าจะถึงขีดจำกัดแล้ว
คิดดูก็รู้ว่าหญิงผู้นี้ต่อให้ต้องตายก็ไม่อยากพึ่งความช่วยเหลือจากเขาอีก
ซ่งอิ้งเทียนคลี่ยิ้มน้อยๆ กลับไปนั่งข้างโต๊ะเตี้ย หยิบที่หยดน้ำรูปร่างอวบกลมขึ้นมา เติมน้ำลงในแท่นฝนหมึก จากนั้นก็หยิบแท่งหมึกขึ้นมาฝนหมึกสีดำเพิ่ม จับพู่กันเขียนจดหมายต่อ
เขาเดาว่าต่อให้ออกมาจากห้องส้วมแล้ว นางคงยังไม่กลับมาในชั่วเวลาสั้นๆ แน่
เรื่องบางอย่างหากไม่ลองดูด้วยตัวเองย่อมไม่มีทางถอดใจ
หิมะโปรยปราย
นอกประตูบานเลื่อนที่เปิดอยู่ครึ่งหนึ่ง เกล็ดหิมะสีขาวเกล็ดแล้วเกล็ดเล่าโปรยปรายลงมาอย่างแผ่วเบา
หิมะตกๆ หยุดๆ มาหลายวันแล้ว ทำให้พื้นดินเหมือนถูกคลุมด้วยผ้าขาวชั้นหนึ่ง
อาหลิงตื่นขึ้นมาท่ามกลางความพร่าเลือน มองทิวทัศน์สงบเงียบตรงหน้า เป็นเวลาครู่ใหญ่ที่นางนอนอยู่เช่นนี้ มองเกล็ดหิมะนอกประตูหน้าต่างปลิวว่อนช้าๆ อย่างไร้เสียง
พริบตาเดียวก็มาอยู่ที่นี่ได้เดือนกว่าแล้ว
นางได้ยินเสียงขุนนางสุนัขผู้นั้นพูดคุยกับคนแซ่ซ่งอย่างแผ่วเบา
ความโมโหผุดขึ้นในใจอย่างไร้สาเหตุ ทำให้นางขมวดคิ้ว ไม่อยากอยู่ในห้องอีก จึงเลิกผ้าห่มลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก
พอออกจากประตู พ้นจากความอบอุ่นที่ส่งมาจากเตาฝังพื้น ไอเย็นก็ปะทะใบหน้า อากาศนอกห้องหนาวยิ่งนัก หิมะสีขาวทับถมอยู่เต็มพื้น
นางไม่สนใจ
เท้าเปล่าเหยียบย่ำไปบนพื้นหิมะเย็นเฉียบบาดกระดูก พริบตาเดียวก็เข้าไปในป่า
ไม่มีคนมาขวางนาง ไม่มีคนมาห้ามนาง
นางรู้ว่าเป็นเพราะเหตุใด ทว่ายังคงอดลองดูไม่ได้
ป่าไผ่ลึกมาก ออกจากป่าไม้ก็เป็นป่าไม้ แม้แต่บริเวณนี้ยังมีหิมะทับถมอยู่เต็ม นางเดินหน้าไปโดยไม่เหลียวหลัง เดินไปเรื่อยๆ จนกระทั่งตรงหน้าโปร่งโล่งอีกครั้ง นางเดินออกจากป่า เห็นพื้นที่โล่งที่เต็มไปด้วยหิมะสีขาว ตรงกลางพื้นหิมะมีเรือนหลังหนึ่งตั้งอยู่
ทั้งที่นางเดินตรงไปข้างหน้าอย่างเดียวโดยไม่หันหลังกลับ แต่กลับมาโผล่ที่เดิม แม้จะมิใช่ประตูห้องที่เพิ่งก้าวออกมาเมื่อครู่นี้ แต่นี่กลับเป็นอีกด้านของเรือนหลังเดียวกัน
ประตูบานเลื่อนเปิดกว้าง บุรุษสองคนนั่งอยู่ในห้องโดยมีโต๊ะเตี้ยคั่นกลาง พวกเขากำลังเดินหมาก
ห้องทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของเรือนมีควันไฟจากการหุงหาอาหาร กลิ่นหอมของอาหารลอยมา หลังบานหน้าต่างที่ถูกไม้ค้ำยันไว้หญิงโง่คนนั้นกำลังล้างมือต้มน้ำแกงอยู่ในห้องครัว
อาหลิงขึงตามองชายสองคนที่กำลังพูดคุยหัวเราะและเดินหมากกัน รู้สึกแต่ว่าโมโห
มือปราบที่ขัดขวางการหลบหนีของนางแซ่ซู ชื่อเสี่ยวเม่ย เขาบอกว่าเขามาจับผู้ร้ายฆ่าคน เขาคิดว่าซ่งอิ้งเทียนเป็นฆาตกร แต่ไป๋ลู่กลับบอกว่าตนเป็นคนฆ่าเอง
หญิงผู้นั้นโกหก ทุกคนในที่นั้นต่างรู้ดี