พอถึงที่นั่น นางรีบร้อนหันมา ครั้นเห็นว่าเป็นเขา ใบหน้าก็ปั้นยิ้มเสแสร้งในชั่วพริบตา ทว่าดวงตาคู่นั้นกลับไม่มองสบเขา
“เจ้าทำอะไรน่ะ” เขาถาม
“ทำอะไรน่ะรึ ข้าหลงทางก็ต้องกำลังถามทางอยู่น่ะสิ” นางตอบ
“ถามทางรึ” เขาเลิกคิ้ว
อาหลิงตอบโดยไม่กะพริบตา ท่าทางว่าง่ายและเชื่อฟัง “ใช่สิ เดิมข้าคิดจะไปตักน้ำข้างทะเลสาบให้ไป๋ลู่ ใครจะนึกว่าไม่ระวังเดินผิดทางเข้า”
เขายิ้มเอามือไพล่หลัง “เช่นนั้นคราวหน้าคราวหลังเจ้าต้องคอยตามให้ดีๆ ล่ะ”
“นั่นสิ คราวหน้าอาหลิงจะตามติดทุกฝีก้าวเลยล่ะ” นางพูดเสียดสี
“นั่นก็ต้องตามให้ถูกคนล่ะนะ” เขาเดินมาตรงหน้านาง หลุบตาจ้องนางและเตือนด้วยความหวังดี “นอกเสียจากว่าเดินตามข้า หาไม่เจ้าก็ออกไปไม่ได้หรอก”
ดวงตาคู่งามของนางกระตุก รอยยิ้มยังคงแขวนอยู่บนใบหน้า ริมฝีปากแดงเผยอออกเล็กน้อย “หากข้าเดินตามท่านจริงๆ ท่านจะนำทางข้าออกไปหรือไม่เล่า”
“นั่นมันก็ต้องลองดู” เขาพูดพลางยื่นมือให้นาง ยิ้มมองนางและพูดเสียงอ่อนโยน “แต่เจ้าต้องให้ข้าจูงถึงจะใช้ได้”
ชั่วขณะนั้นนางเงยหน้าสบตากับเขา
ทันใดนั้นเหมือนเขาได้กลับไปอยู่ในทุ่งหญ้าอีกครั้ง เห็นสายลมโชยมาอีกครา
เขารู้ว่านางเป็นเหมือนเขา คิดถึงช่วงเวลาเมื่อครู่นี้
ชั่วขณะหนึ่งที่นัยน์ตาดำเย็นเยียบของนางอ่อนโยนลง ทว่าอึดใจต่อมานางกลับนึกขึ้นได้ว่าต้องโมโห อาหลิงสะบัดแขนเสื้อยาว เก็บรอยยิ้มและตอบเสียงเย็น
“งั้นก็อย่าดีกว่า”
ซ่งอิ้งเทียนมองมือที่ค้างอยู่กลางอากาศของตัวเองพลางยิ้มหยัน คิดดูก็น่าจะรู้ว่าเรื่องราวไม่ง่ายดายปานนั้นหรอก
เขาหดมือกลับมาและไม่มองนางอีก เพียงเดินตรงไปหาตงตงกับเด็กหนุ่มที่ไม่รู้ชื่อคนนั้น
เด็กหนุ่มเป็นคุณชายโรงกระดาษสกุลอี้ ชื่อว่าอี้หย่วน ไม่ระวังหลงขึ้นมาบนเกาะจึงถูกขังอยู่ในค่ายกลลวงวิญญาณ เขารู้ว่าอาหลิงเฝ้ามองอยู่ตลอด เขาจูงมืออี้หย่วนกับตงตงกำลังจะเดินออกจากป่า อี้หย่วนกลับดึงมือเขาและถามถึงนาง
“นี่ แม่นางคนนั้นล่ะจะทำอย่างไร”
ซ่งอิ้งเทียนหยุดฝีเท้า หันกลับไปมองอี้หย่วนกับตงตง แต่กลับไม่เหลือบแลนางสักนิด เพียงยิ้มตอบว่า “นางอารมณ์ร้าย ต้องหิวถึงจะยอม อีกประเดี๋ยวข้าจะมาพานางไปอีกที”
นางฟังแล้วโมโหจนกระทืบเท้า หันหลังเดินจากไป พริบตาเดียวก็ไม่เห็นเงา หายลับไปในป่าอีกครั้ง
เขาไม่ได้ไปตามหานาง เพียงพาตงตงกับคุณชายสกุลอี้ออกจากเกาะ ส่งทั้งสองขึ้นเรือ
ค่ำคืนอันเลวร้ายไร้จุดสิ้นสุด
อาหลิงดิ้นรนอยู่ท่ามกลางเลือดและเหงื่อ มารปีศาจเป็นพันเป็นหมื่นล้อมรอบนางใต้แสงจันทร์
นางอยากหนี อยากวิ่ง แต่กลับหนีไม่ได้ วิ่งไม่ได้ มือของนางถูกล่ามไว้ เท้าถูกตีตรวน มีเพียงดวงจันทร์สีขาวเงินอยู่เบื้องบน
นางได้กลิ่นเหม็นสาบของมารปีศาจพวกนั้นอย่างชัดเจน รู้สึกได้ถึงความกระเหี้ยนกระหือรือของพวกมัน
นางรู้ว่าต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น นั่นทำให้ความหวาดกลัวเกาะเต็มหัวใจ อัดแน่นไปทั่วแขนขาทั้งสี่ พาให้เหงื่อเย็นไหลโชก หัวใจเต้นถี่
ไม่ ข้าไม่กลัว ไม่กลัวหรอก
อาหลิงจ้องจันทร์เต็มดวงตรงหน้าเขม็ง คิดอย่างโกรธแค้น
ข้าไม่กลัวสักหน่อย!