จันทราอัสดง
ทดลองอ่าน จันทราอัสดง บทที่ 2
แม้ต่างฝ่ายต่างแต่งงานไปแล้วก็ไม่ยอมตัดใจ เจ้าของร่างเดิมทั้งหาเรื่องทั้งปองร้ายพี่สาวสายรอง ไม่ขาดไปสักอย่าง
ส่วนถานไถจิ้นกลับพึงใจพี่สาวสายรองของนาง
ช่างเป็นความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิงเสียนี่กระไร พวกเขาสองสามีภรรยาต่างก็หมายปองสามีภรรยาของผู้อื่น ทว่ามิอาจได้มาครอบครอง
ฮูหยินผู้เฒ่าเห็นนางไม่ส่งเสียงตอบ คิดว่านางยังคิดไม่ตก จึงตีหลังมือนางอย่างไม่ได้ดังใจ “รับปากย่ามาเดี๋ยวนี้”
“เจ้าค่ะ ซีอู้ทราบแล้ว ต่อไปจะอยู่ให้ห่างจากองค์ชายหกแน่นอนเจ้าค่ะ” ต่อให้ฮูหยินผู้เฒ่าไม่พูด หลีซูซูก็ไม่มีทางแย่งชิงองค์ชายหกอะไรนั่นกับพี่สาวสายรองอยู่แล้ว
หลีซูซูรับคำเร็วเกินไป ฮูหยินผู้เฒ่ากลับบังเกิดความเคลือบแคลง ซีอู้ชมชอบองค์ชายหก แทบจะเรียกได้ว่าถึงขั้นจะเป็นจะตาย ไฉนจึงยอมตัดใจง่ายๆ
“เจ้าเด็กคนนี้ คงมิใช่หลอกให้ย่าสบายใจกระมัง”
สองแก้มของหลีซูซูบุ๋มลงเป็นลักยิ้มตื้นๆ “มิใช่เช่นนั้นเจ้าค่ะ”
ฮูหยินผู้เฒ่าพูดต่อ “พิสูจน์ให้ย่าเห็น หยุดลงโทษจื้อจื่อได้แล้ว ย่าได้ยินมาว่าเจ้าให้เขาไปคุกเข่าบนทะเลสาบน้ำแข็ง ข้างนอกหนาวเย็นถึงเพียงนั้น นี่ใช่เรื่องที่แม่นางน้อยคนหนึ่งพึงกระทำอย่างนั้นหรือ หากเรื่องแพร่ออกไปย่อมกระทบต่อชื่อเสียงของเจ้า ฐานะของเขาไม่ดีก็จริง แต่ถึงอย่างไรก็เป็นสามีเจ้า จะทรมานจนถึงตายได้อย่างไร ต่อไปเจ้าจงสำรวมจิตใจ ใช้ชีวิตต่อไปให้ดี จึงจะเป็นเรื่องที่ถูกต้อง”
หลีซูซูเห็นฮูหยินผู้เฒ่ามองตนอย่างยืนกราน ต้องให้นางพยักหน้าให้จงได้
นางจึงถอนหายใจหนึ่งที “เจ้าค่ะ”
เยี่ยหลันอินเดินออกจากเรือนของฮูหยินผู้เฒ่า
สาวใช้ของนางนามว่าเฉี่ยวเอ๋อร์ปรี่เข้ามารับ “คุณหนูรอง วันนี้ไฉนจึงออกมาเร็วปานนี้เจ้าคะ”
“น้องหญิงสามมาน่ะ”
เฉี่ยวเอ๋อร์เข้าใจทันทีพลางเอ่ยอย่างปวดใจ “ฮูหยินผู้เฒ่าลำเอียงเกินไปแล้ว”
พอเห็นเยี่ยหลันอินมิได้ห้ามปราม เฉี่ยวเอ๋อร์จึงพูดต่อ “คุณหนูสามผลักคุณหนูใหญ่ตกน้ำต่อหน้าองค์ชายหก ฮูหยินผู้เฒ่ายังกดเรื่องนี้เอาไว้ แต่ก่อนล้วนคิดว่าคุณหนูสามจะต้องเป็นชายาเอกขององค์ชายหกแน่ ไม่คิดว่าเพียงพริบตาองค์ชายหกจะรับคุณหนูใหญ่เป็นชายารอง”
แววตาของเยี่ยหลันอินวูบไหว นั่นสินะ
ใครๆ ต่างคิดไม่ถึงว่าองค์ชายหกจะมาเจรจาสู่ขอ อีกทั้งบุคคลที่ขอกลับเป็นบุตรีคนโตสายรองของสกุลเยี่ย เยี่ยปิงฉาง
ถึงอย่างไรเยี่ยปิงฉางก็เป็นบุตรีสายรอง มิอาจเป็นชายาเอกขององค์ชายได้ จึงได้แต่เป็นชายารอง
ทว่าตอนนั้นเยี่ยหลันอินมองจากไกลๆ ยังเห็นว่าในดวงตาขององค์ชายหกเต็มไปด้วยความรักที่มีต่อพี่หญิงใหญ่
พอคิดถึงตรงนี้ เยี่ยหลันอินกำผ้าเช็ดหน้าแน่นด้วยความแค้น
ล้วนเป็นบุตรีสายรองเหมือนกัน เยี่ยปิงฉางสามารถเป็นที่รักใคร่ให้เกียรติขององค์ชายได้ ตนกลับได้แต่ประจบเอาใจฮูหยินผู้เฒ่า ฝากความหวังว่านางจะสามารถหาคู่ครองที่ดีสักหน่อยให้กับตนในวันข้างหน้า
เยี่ยหลันอินอัดอั้นใจยิ่งนัก จวบจนเห็นถานไถจิ้นบนพื้นน้ำแข็ง สีหน้านางจึงดีขึ้นเล็กน้อย
แม้แต่บนใบหน้าของเฉี่ยวเอ๋อร์ ยังเผยรอยยิ้มยินดีในคราเคราะห์ของผู้อื่น
คุณหนูสามเป็นบุตรีสายตรงเพียงคนเดียวในจวนแม่ทัพแล้วอย่างไร แต่งให้กับจื้อจื่อที่ต่ำต้อยถึงเพียงนี้ ครึ่งชีวิตที่เหลือยังจะมีลาภยศสรรเสริญใดๆ ให้พูดถึงอีก
ผู้คนต่างรู้ว่าถานไถจิ้นมาเป็นตัวประกันที่แคว้นซย่าตั้งแต่อายุหกขวบ ถูกขังอยู่ในวังมาโดยตลอด ได้ยินว่าเขาเคยล้างเท้าให้ขันที แม้แต่อาหารสุนัขก็เคยกินมาแล้ว
คนต่ำต้อยเช่นนี้ บางทีอาจไม่รู้หนังสือสักตัวด้วยซ้ำ ไหนเลยจะเทียบกับองค์ชายหกที่เพียบพร้อมทั้งด้านบุ๋นและด้านบู๊ได้แม้แต่ครึ่งส่วน
เดือนแรกที่แต่งให้เขา คุณหนูสามฟูมฟายอยู่นาน ทั้งอาละวาดทั้งก่นด่า
สองเดือนมานี้เพิ่งจะดีขึ้นบ้าง แต่ก็ไม่เห็นถานไถจิ้นเป็นคนอยู่ดี
เยี่ยหลันอินใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดปาก บดบังรอยยิ้มมุมปากไว้
แคว้นซย่าส่งเสริมวิชายุทธ์ ได้ยินว่าถานไถจิ้นผู้นั้นแก่นกระดูกถูกทำลายตั้งแต่ตอนเป็นเด็ก บัดนี้มือไม่มีเรี่ยวแรงแม้แต่จะมัดไก่
เด็กหนุ่มที่อ่อนแอต้อยต่ำเช่นนี้ หากเป็นเมื่อก่อน น้องหญิงสามของนางที่ไม่เห็นผู้ใดอยู่ในสายตา เกรงว่าแม้แต่มองยังไม่มองด้วยซ้ำไป
สักวันท่านย่าก็ต้องตายจากไป จื้อจื่อผู้หนึ่งที่ไม่มีแม้กระทั่งวังของตนเอง ถึงเวลาจะให้อะไรกับเยี่ยซีอู้ได้ ชีวิตนี้ของเยี่ยซีอู้ยังมิใช่ต้องถูกผู้อื่นเคี่ยวกรำตามอำเภอใจหรือ
เฉี่ยวเอ๋อร์พูดขึ้น “ได้ยินว่าจื้อจื่อคุกเข่าบนน้ำแข็งมาสองวันแล้ว ดูจากสีหน้าเขา เกรงว่าคงใกล้จะทนไม่ไหวเต็มที คุณหนูรอง จะมอบชุดคลุมกันลมให้เขาสักตัวหรือไม่เจ้าคะ”
ยามปกติ เยี่ยหลันอินชอบแสดงน้ำใจต่อบ่าวไพร่มาก ชื่อเสียงภายในจวนดียิ่ง
นิสัยอ่อนโยนจิตใจงดงาม ย่อมได้ใจจากผู้คนมากกว่าคุณหนูสามเยี่ยซีอู้มากนัก
เยี่ยหลันอินมีใจจะทำเช่นนั้นหลายส่วน นางมองไปยังถานไถจิ้น
ฐานะของจื้อจื่อมิน่าเปิดเผยต่อผู้ใด แต่ใบหน้าเขากลับไม่เลวทีเดียว เทียบกับนางที่เป็นสตรีผู้หนึ่ง ยังประณีตน่ามองยิ่งกว่า
เยี่ยหลันอินผงกศีรษะ อนุญาตให้เฉี่ยวเอ๋อร์ไปจัดการเรื่องนี้อย่างเงียบๆ ตัวนางเองกลับยืนอยู่บนศาลารับลม พยักหน้าให้จื้อจื่ออย่างอ่อนโยน
ถานไถจิ้นมองเห็นคุณหนูรองของจวนเช่นเดียวกัน
เฉี่ยวเอ๋อร์ถือชุดคลุมกันลมสีขาวบริสุทธิ์ตัวหนึ่ง ย่ำไปบนพื้นน้ำแข็งอย่างระวัง เดินตรงไปหาเขา
หลีซูซูกลับจากอยู่เป็นเพื่อนท่านย่าพอดี จึงเห็นภาพนี้เข้า
พี่หญิงรองของนางกำลังแสดงน้ำใจต่อจอมมารในวัยเยาว์
นางย่ำเท้าเดินเข้าไปพลางเอ่ย “พี่หญิงรอง ท่านทำอะไรน่ะ”
เยี่ยหลันอินตกใจสะดุ้ง ไม่คิดว่าหลีซูซูจะออกมาเร็วปานนี้ ตนเองถูกจับได้คาหนังคาเขา
นางรีบเอ่ยว่า “น้องหญิงสาม เจ้าอย่าได้เข้าใจผิด ข้าเห็นว่าอากาศหนาวเย็นถึงเพียงนี้ อีกทั้งหิมะก็เริ่มตกแล้ว จื้อจื่อคุกเข่ากลางอากาศหนาวเหน็บ หากมีอันตรายถึงชีวิตจะไม่ดีนัก ดังนั้นจึงให้เฉี่ยวเอ๋อร์นำชุดคลุมกันลมไปให้เขา”
หลีซูซูถามถานไถจิ้นที่อยู่บนพื้นน้ำแข็ง “ยังทนไหวหรือไม่ ชุดคลุมกันลมที่พี่หญิงรองมอบให้เจ้า เจ้าต้องการหรือไม่”
หลีซูซูในฐานะแสงสว่างแห่งฝ่ายธรรมะ รู้สึกชิงชังสารเลวที่ในอนาคตจะสร้างความโกลาหลให้กับสามพิภพผู้นี้ยิ่งนัก
ถานไถจิ้นชำเลืองมองหลีซูซูแวบหนึ่งพลางตอบเยี่ยหลันอินว่า “ขอบคุณในความปรารถนาดีของคุณหนูรอง ข้าผู้น้อยไม่หนาว”
นี่ก็คือการปฏิเสธ