“คุณหนูสามใช่รังเกียจข้ามากเป็นพิเศษหรือไม่”
หลีซูซูคิดไม่ถึงว่าถานไถจิ้นกลับมีความกล้าที่จะย้อนถามตนเช่นนี้ นางไม่จำเป็นต้องโกหก “ใช่แล้วอย่างไร”
“เพราะเหตุใด” ถานไถจิ้นถามนางต่อ
เขารู้สึกถึงความแตกต่างได้รางๆ เยี่ยซีอู้ในอดีตรังเกียจฐานะของตน แต่เยี่ยซีอู้ในตอนนี้ เขาเห็นนางยิ้มให้กับพวกชุนเถาและสี่สี่
“รังเกียจก็คือรังเกียจ ไหนเลยต้องมีเหตุผลมากมายถึงเพียงนั้น” ถึงอย่างไรนางคงมิอาจบอกเขาได้ว่าอนาคตเขาจะเป็นอย่างไรกระมัง
ถานไถจิ้นมองนางแวบหนึ่ง ไม่เอ่ยอะไรอีก
หากเป็นเยี่ยซีอู้ในอดีต ไม่มีทางตอบคำถามของเขาแน่นอน แค่คุยกับเขายังรังเกียจว่าเขาต้อยต่ำ
หลีซูซูมองเห็นความงุนงงจางๆ จากสีหน้าเขา เด็กหนุ่มตรงหน้ายังมิใช่จอมมารในอีกหลายปีให้หลังที่ผู้คนแค่ได้ยินชื่อก็ขยาดกลัว เขางดงามและอ่อนแอ ไม่มีพลังในการจู่โจมแม้แต่น้อยนิด
แม้แต่ศิษย์น้องเล็กฝูหยาในสำนักเซียนก็ยังแข็งแกร่งกว่าเขา
ถานไถจิ้นแผ่กลิ่นอายของคนป่วยออกมาหลายส่วน การทรมานเมื่อสองวันก่อนเอาชีวิตเขาไปครึ่งหนึ่งแล้ว
หลีซูซูคิดในใจ หากถานไถจิ้นยังจะตามนางเข้าวัง เดาว่าครึ่งชีวิตที่เหลือต้องจบสิ้นแน่นอน
พอคิดถึงการบรรเทาอาการเจ็บป่วยให้เขาอย่างเร่งด่วนเมื่อคืน นางก็เหนื่อยใจแล้ว จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่หาย
“เจ้ากลับไปเถอะ อย่าตามข้ามา”
ถานไถจิ้นเองก็มิได้มีความคิดอยากจะรับโทษแทนเยี่ยซีอู้อยู่แล้ว
ทว่าเรื่องนี้เยี่ยซีอู้ไม่ควรเป็นฝ่ายเอ่ยออกมา
สตรีผู้นี้โอหังเผด็จการ แต่กลับรักหน้าตาและกลัวตายเป็นที่สุด ตามหลักนางควรรู้สึกโชคดีที่ตนไปเผชิญหน้ากับไทเฮาแทนนางมิใช่หรือ
หลีซูซูเห็นเขาไม่ยอมจากไป คิดว่าเขาไม่อยากขัดคำสั่งเยี่ยเซี่ยว จึงได้แต่พูดจายั่วยุเขา “เจ้าเป็นจื้อจื่อที่ในอดีตแม้แต่นางกำนัลขันทียังรังแกได้ตามใจชอบ เข้าวังมีแต่จะทำให้ข้าขายหน้า ไสหัวกลับจวนไปเสีย อย่ามาขัดขวางการพบองค์ชายหกของข้า”
พอถ้อยคำนี้เอ่ยออกมา หลีซูซูมองเห็นโทสะเยียบเย็นเสี้ยวหนึ่งในดวงตาเขาที่พบเห็นได้น้อยครั้ง
ถานไถจิ้นพูดเน้นย้ำทีละคำ “ฐานะข้าต่ำต้อย สร้างความอัปยศให้คุณหนูสามแล้ว”
ครั้งนี้เขาไม่ลังเลและไม่มองนางอีก หันหลังเดินกลับเข้าไปในจวน สีหน้างุนงงก่อนหน้านี้หายไปโดยสิ้นเชิง
หลีซูซูยังไม่ถึงวังบรรทมของไทเฮา ก็ถูกคนขวางไว้เสียก่อน
เด็กสาวผู้หนึ่งที่สวมชุดเข้ารูป มือถือแส้ กางแขนขวางหน้าหลีซูซูไว้
“เยี่ยซีอู้ หลายวันก่อนเจ้าผลักท่านพี่สะใภ้ของข้าตกน้ำ วันนี้ยังกล้ามาวังหลวงอีกรึ”
คิ้วทรงใบหลิวของเด็กสาวชี้ขึ้นด้วยความโมโห มองหลีซูซูด้วยท่าทางดุดันน่ายำเกรง
หลีซูซูเกิดความฉงนในใจ ท่านนี้เป็นใครกันอีกเล่า ดูแล้วไม่เหมือนพี่สาวสายรองผู้อ่อนโยนในตำนานของร่างนี้
ชุนเถารู้ว่าคุณหนูศีรษะถูกกระแทก จำคนไม่ค่อยจะได้ จึงรีบเตือนสตินางเบาๆ “นี่คือองค์หญิงเก้า น้องสาวขององค์ชายหกเจ้าค่ะ”
พอชุนเถาพูดเช่นนี้ หลีซูซูพลันกระจ่างในพริบตา
คนที่ชิงชังเจ้าของร่างเดิมไม่รู้มีมากมายเพียงใด แต่องค์หญิงเก้าผู้นี้จะต้องอยู่ในลำดับต้นๆ อย่างแน่นอน
องค์หญิงเก้าเป็นที่รักใคร่ นิสัยจึงไม่ดีนัก ไม่ถูกชะตากับเจ้าของร่างเดิมแต่กำเนิด
แต่ก่อนเจ้าของร่างเดิมอยากแต่งให้พี่ชายนาง ยังถึงกับเคยลดศักดิ์ศรีไปประจบนาง
กระนั้นองค์หญิงเก้ากลับไม่เหลียวแลสักนิด ทุกครั้งล้วนแค่นหัวเราะ ราวกับมองแค่ปราดเดียวก็ตระหนักถึงความคิดในใจของเจ้าของร่างเดิม
เจ้าของร่างเดิมถูกปฏิเสธหลายครั้ง รักษาหน้าไว้ไม่อยู่ จึงไม่เสนอหน้าไปข้างกายองค์หญิงเก้าอีก
แต่องค์หญิงเก้ากลับชอบเยี่ยปิงฉางเป็นพิเศษ
ก่อนหน้านี้ตอนเยี่ยปิงฉางแต่งให้องค์ชายหก องค์หญิงเก้ายังตั้งใจแล่นมาดูหมิ่นเจ้าของร่างเดิมรอบหนึ่ง ทำเอาเจ้าของร่างเดิมโมโหจนร้องไห้
ครั้งนี้องค์หญิงเก้าก็มาทวงความเป็นธรรมแทนเยี่ยปิงฉางเช่นกัน