วันนี้จวนเซวียนอ๋องครึกครื้นอย่างยิ่ง
องค์ชายหกเซียวหลิ่นเป็นบุคคลที่เปรียบดังตำนานเล่าขานของแคว้นซย่ามาโดยตลอด
พูดถึงชาติตระกูลก่อน มารดาบังเกิดเกล้าของเขาเป็นฮองเฮา อีกทั้งฮองเฮายังเป็นหลานสาวห่างๆ ของไทเฮา หลังจากฮ่องเต้กับฮองเฮาอภิเษกสมรสกัน ฮองเฮามิอาจมีทายาทมาโดยตลอด
ฮ่องเต้รออยู่หลายปี เห็นตำหนักในมีสมาชิกน้อยนิด จึงจำต้องยกเลิกน้ำแกงเลี่ยงบุตรที่ใช้ในตำหนักใน สนมชายาทั้งหลายเริ่มตั้งครรภ์
ฮองเฮาร้อนใจยิ่งนัก แต่ท้องกลับไม่มีความเคลื่อนไหวใดๆ จนกระทั่งตอนอายุยี่สิบแปด จึงให้กำเนิดโอรสสายตรงเซียวหลิ่น
องค์ชายสายตรงฐานะสูงส่ง มิเพียงได้มาอย่างยากลำบาก ตอนนั้นราชครูคนก่อนยังทำนายและเอ่ยอย่างตื้นตันใจว่า “อนาคตขององค์ชายหกไร้ขีดจำกัด! ชะตาบ้านเมืองของแคว้นซย่าเชื่อมโยงอยู่กับองค์ชายหก”
วาจาเช่นนี้ถูกเอ่ยออกมาแล้ว มิเพียงฮองเฮาเห็นเด็กผู้นี้สำคัญดังชีวิต ฮ่องเต้กับไทเฮาก็อดให้ความสำคัญกับเด็กผู้นี้ไม่ได้
ต่อให้ไม่พูดถึงฐานะ เอาแค่นิสัยกับความสามารถ เซียวหลิ่นก็เพียบพร้อมทั้งบุ๋นและบู๊ เป็นวิญญูชนที่มีความประพฤติเถรตรง รูปโฉมประหนึ่งเทพเซียน
ตอนเขาอายุสิบเจ็ด ฮ่องเต้มีใจอยากทดสอบ ให้เขาประลองฝีมือกับจ้วงหยวนฝ่ายบู๊ในปีนั้น สุดท้ายจ้วงหยวนฝ่ายบู๊มิอาจเอาชนะเขาได้
มีคนเดาว่าบัดนี้องค์ชายหกถึงวัยสวมหมวก* เกรงว่าฝีมือคงสูสีใกล้เคียงกับแม่ทัพใหญ่เยี่ยแล้ว
แน่นอน เยี่ยเซี่ยวไม่มีทางสู้กับเซียวหลิ่นอยู่แล้ว แต่เรื่องนี้หาได้กระทบต่อภาพลักษณ์เก่งกาจทุกด้าน ดุจดังเทพเซียนขององค์ชายหกไม่
หากถามสตรีในเมืองหลวงที่ยังไม่แต่งงานว่าคนที่อยากแต่งงานด้วยมากที่สุดเป็นใคร เก้าสิบเก้าคนในร้อยคนล้วนแจ้งนามองค์ชายหกอย่างขลาดเขิน
ด้วยเหตุนี้เอง ตอนเยี่ยปิงฉางแต่งให้กับเซียวหลิ่น ความฝันของแม่นางเกือบทั้งเมืองหลวงจึงแตกสลายภายในคืนเดียว
ในจำนวนนั้นคนที่ฝันสลายอย่างรุนแรงที่สุด ก็คือเจ้าของร่างเดิมเยี่ยซีอู้ นางโมโหจนแทบคลั่ง
ฮ่องเต้รีรอไม่แต่งตั้งรัชทายาทเสียที ครั้งนี้กลับอวยยศเซียวหลิ่นเป็นเซวียนอ๋อง ทุกคนต่างรู้ดีแก่ใจว่านี่มิได้หมายความว่าฮ่องเต้ไม่ให้ความสำคัญกับองค์ชายหก ตรงกันข้าม นับแต่โบราณมารัชทายาทที่ได้รับการแต่งตั้งเร็วเกินไป มีเพียงไม่กี่คนที่ได้ก้าวขึ้นสู่บัลลังก์
การยกย่องมากเกินไปกลับเป็นการทำลายคนผู้นั้น เหตุผลเป็นเช่นนี้เอง
หมาป่าที่ดุร้ายที่สุดหลายตัวแก่งแย่งชิงดีกัน ตัวที่ร้ายกาจที่สุดจึงจะสามารถนั่งบัลลังก์ฮ่องเต้ได้ ฮ่องเต้ทำเช่นนี้เพราะไม่อยากให้เซียวหลิ่นตกเป็นเป้าโจมตีของทุกคนเร็วเกินไป
เหล่าขุนนางล้วนเป็นคนฉลาด ในใจมีความคิดเช่นนี้ งานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของเซียวหลิ่นผู้เป็นเซวียนอ๋อง ทุกคนจึงให้เกียรติอย่างมาก
หลีซูซูเดินเข้าไป ภายในงานเลี้ยงมีคนนั่งอยู่ไม่น้อย
ในฐานะคนในครอบครัวของแม่ทัพใหญ่เยี่ย หลีซูซูกับถานไถจิ้นจึงนั่งอยู่ข้างหลังแม่ทัพใหญ่เยี่ย
ในสถานการณ์เช่นนี้ บุตรีสายรองของสกุลเยี่ย เยี่ยหลันอินมิอาจมาร่วมงานได้
หลีซูซูอดใจไม่อยู่มองไปยังบุรุษตรงตำแหน่งประธาน ยามนี้เซียวหลิ่นกำลังพูดคุยกับขุนนางผู้หนึ่ง
หลีซูซูเท้าคางครุ่นคิด เซวียนอ๋องที่เป็นคนธรรมดา เทียบกับศิษย์พี่ใหญ่แล้วยังมีข้อแตกต่างกันหลายจุด ศิษย์พี่ใหญ่กงเหยี่ยจี้อู๋ เนตรขนงดูเหนือสามัญยิ่งกว่า กล่าวว่างามปานเทพเซียนก็ไม่เกินไป
ถานไถจิ้นมองตามสายตาของหลีซูซูไปและเห็นเซวียนอ๋อง เขาถอนสายตากลับมาเรียบๆ จ้องมองจอกสุราตรงหน้า ไม่รู้คิดอะไรอยู่
ผ่านไปครู่หนึ่ง ก่อนที่เสียงบรรเลงดนตรีจะดังขึ้น สาวใช้จวนเซวียนอ๋องประคองหญิงสาวผู้หนึ่งเดินเข้ามา
สีหน้าของเซียวหลิ่นที่เดิมเฉยชา พลันเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนยิ่ง “ปิงฉาง มานี่สิ”
หญิงสาววางมือเล็กที่เย็นอยู่บ้างลงบนฝ่ามือของเซียวหลิ่น สองคนสบตากันแล้วยิ้ม
มิต้องให้ใครบอก หลีซูซูก็แยกแยะได้ว่าสตรีที่อยู่ไม่ไกลออกไปนั้นเป็นใคร
คนในภาพวาดเมื่อหลายวันก่อน ดูเหมือนมีชีวิตขึ้นมาในพริบตา นางคลุมกายด้วยเสื้อคลุมขนจิ้งจอกขาวบริสุทธิ์ ผิวพรรณขาวกระจ่าง ยามหลุบตาดูอ่อนโยนเขินอาย บนผมของหญิงสาวผูกแถบแพรสีครามเรียบง่ายเส้นหนึ่ง ทั้งงดงามอ่อนแอและสุภาพเรียบร้อย
รูปโฉมของเยี่ยปิงฉาง มากกว่านี้หนึ่งส่วนฉูดฉาดเกินไป น้อยกว่านี้หนึ่งส่วนจืดชืดเกินไป คู่ควรกับวลีที่ว่า ‘จันทราหลบเร้น บุปผาเหนียมอาย’ อย่างเหมาะเจาะพอดี
ตั้งแต่นางเผยโฉม ผังอี๋จือที่ลิ้นเคลือบด้วยยาพิษ สายตาอย่าว่าแต่แววถากถางเหน็บแนมเลย กระทั่งลูกตายังกลอกไม่เป็นแล้วด้วยซ้ำ เหลือไว้เพียงความเหม่อลอยและความใฝ่ฝันหลายส่วน
สตรีในครอบครัวขุนนางที่มาร่วมงาน มองเยี่ยปิงฉางพลางขบปากบิดผ้าเช็ดหน้าโดยไม่รู้ตัว
พี่สาวสายรองผู้นี้อานุภาพทำลายล้างรุนแรงจริงแท้ หลีซูซูคิดในใจ
ชุนเถาประหม่ายิ่งนักด้วยเกรงว่าคุณหนูสามจะโมโหอีก เทียบกับคุณหนูใหญ่ที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ของสตรี ดวงหน้าของคุณหนูสามยังอวบยุ้ยเหมือนเด็กอยู่หลายส่วน ความน่ารักนั้นมีมาก แต่เสน่ห์เย้ายวนยังไม่เพียงพอ
กระนั้นชุนเถามองคุณหนูสามของตนแล้ว คุณหนูสามกลับกำลังกัดผลเฉ่าเหมย* นัยน์ตาที่ดำขาวตัดกันชัดเจนจ้องคุณหนูใหญ่เขม็ง มีแต่ความฉงนใจล้วนๆ
ชุนเถาคิดในใจ เอ๋? คุณหนูสามสงบถึงเพียงนี้เชียวหรือ
ชุนเถาไหนเลยจะรู้ว่า…