ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 67-68 – หน้า 3 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 67-68

องค์รัชทายาทไม่ว่าเช่นไรก็คือองค์รัชทายาท เขามีทั้งความเอาแต่ใจและความหุนหันตามวัย ขณะเดียวกันก็มีความใส่ใจและครุ่นคิดในราชกิจบ้านเมืองในฐานะองค์รัชทายาทผู้จะสืบทอดบัลลังก์

ในเมื่อทั่วหล้าคือกิจการของครอบครัวที่ต้องรับช่วงต่อในภายภาคหน้า มีองค์รัชทายาทองค์ใดบ้างเล่าที่ไม่อยากรับช่วงต่อแผ่นดินอันมั่งคั่ง มีกองทัพเข้มแข็ง แล้วจะมีองค์รัชทายาทองค์ใดบ้างอยากรับช่วงต่อแผ่นดินที่เต็มไปด้วยขุนนางโกงกินและทหารไร้ระเบียบ

ทุกข์ของราษฎรอาจเป็นเรื่องยากเกินกว่าจะเข้าอกเข้าใจได้ แต่ครั้นได้ยินว่าทหารในกององครักษ์หลิงโจวจำนวนมากร่างกายผ่ายผอมจนเหลือเพียงหนังหุ้มกระดูก อาวุธยุทโธปกรณ์ทั้งหลายล้วนผุผังหมดสิ้น องค์รัชทายาทก็เดือดดาลขึ้นมาทันที

“โชคดีที่ราชบุตรเขยไม่ได้ล่มหัวจมท้ายกับคนโฉดพวกนั้น ไม่อย่างนั้นกององครักษ์หลิงโจวไม่แคล้วต้องตกอยู่ในสภาพย่ำแย่ต่อไปไม่รู้จบรู้สิ้น เบี้ยหวัดเสบียงอาหารยุทโธปกรณ์ที่ราชสำนักส่งไปล้วนตกอยู่ในท้องขุนนางละโมบพวกนั้นหมดไม่มีเหลือ สุดท้ายก็เหลือแต่ต้องส่งทหารอ่อนแอไร้ฝีมือออกไปอวดว่าเป็นกองทัพ!”

หวาหยางตบไหล่ปลอบใจผู้เป็นน้องชาย “เอาล่ะ เหตุการณ์คลี่คลายแล้ว เจ้าก็อย่าได้โมโหอีกเลย จำไว้ว่ากององครักษ์ในท้องที่ต่างๆ บางทีอาจมีปัญหาอะไรซุกซ่อนอยู่ วันหน้าอย่าได้ถูกคำพูดลมปากของขุนนางทหารพวกนั้นหลอกลวงเอาได้ก็เป็นพอ เฮ้อ หลังได้ออกมาดูโลกภายนอกคราวนี้ในที่สุดพี่ก็เข้าใจ ขุนนางบางคนตอนถวายฎีกาต่อเสด็จพ่อท่าทีช่างนอบน้อมเสียเหลือเกิน ทว่าแท้ที่จริงแล้วกลับถือโอกาสที่เสด็จพ่ออยู่ไกลไม่เห็นราชสำนักอยู่ในสายตา ก็เหมือนอย่างเซียงอ๋องผู้นั้น หากวันที่พี่ออกไปท่องเที่ยวไม่ได้พาทหารองครักษ์ไปมากพอ ไม่แน่ว่าอาจถูกเขาฉุดคร่าไปแล้วก็เป็นได้!” พูดถึงตรงนี้นางก็เข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน สีหน้าคลื่นไส้ยามเห็นเซียงอ๋องปรากฏขึ้นอีกครั้ง “บุรุษมักมาก หาดีไม่ได้สักคน!”

ขณะที่องค์รัชทายาทกำลังจะพยักหน้า จู่ๆ เขาก็สะดุ้ง สายตากวาดมองไปรอบๆ ก่อนจะส่งสายตาให้กับผู้เป็นพี่สาว

หวาหยางคล้ายตระหนักขึ้นมาได้ นางขยับศีรษะเข้าไปใกล้น้องชาย ขมวดคิ้วถาม “ตอนพี่ไม่อยู่ในเมืองหลวง เสด็จพ่อยังเป็นเช่นนั้นอยู่หรือไม่”

องค์รัชทายาทเองก็มีสีหน้ากลัดกลุ้ม

กับเขาเสด็จพ่อมีพระทัยกว้างขวาง เพียงแต่พระทัยส่วนใหญ่กลับจดจ่ออยู่บนตัวอิสตรี บางทีแม้แต่ตอนที่กำลังพูดคุยอยู่กับเขานั้น หากมีสนมชายาคนใดแกล้งป่วย เสด็จพ่อล้วนพร้อมจะถูกพวกนางลากไปได้ทันที

แต่เสด็จแม่ไม่ได้เหลวไหลเช่นนั้น นอกจากจะใส่ใจบุตรสาวแล้ว ความคิดอ่านทั้งหมดล้วนอยู่บนตัวเขา เพียงแต่เพราะเข้มงวดเกินไปจึงกวดขันเขาหนักหนาสาหัสเหลือกำลัง

องค์รัชทายาทบอกไม่ถูกว่าตนเองแท้แล้วชอบเสด็จพ่อหรือเสด็จแม่มากกว่ากัน

โชคดีที่เขายังมีพี่สาวร่วมอุทรอยู่อีกคน พี่สาวมีทั้งด้านที่อ่อนโยนของเสด็จพ่อเสด็จแม่ อีกทั้งยังสามารถเล่นเป็นเพื่อนเขาได้ ดังนั้นเขาจึงโปรดพี่สาวผู้นี้ที่สุด

หวาหยางอาศัยจังหวะนี้สั่งสอนผู้เป็นน้องชายเล็กน้อย “ในเมื่อเจ้าเองก็รู้สึกว่าเสด็จพ่อทำเช่นนี้ไม่ดี เมื่อเจ้าเติบใหญ่ก็อย่าได้ปล่อยให้ตนเองถูกสตรีตำหนักในล่อลวงเอาเสียเล่า เรื่องอื่นไม่ต้องพูดถึง ขอแค่เจ้ารู้จักดูแลสุขภาพของตนเองให้ดีก็พอ ชีวิตนี้ของพี่ยังหวังพึ่งพิงเจ้าอยู่ ไว้พี่จากไปแล้ว เจ้ายังพลานามัยแข็งแรง อายุเจ็ดสิบแปดสิบแล้วยังเหมือนคนหนุ่มอายุสามสิบสี่สิบ เพียงเท่านี้พี่ก็ดีใจแล้ว”

องค์รัชทายาทหัวเราะแล้วเอ่ยบอก “จะเป็นไปได้อย่างไร คนเราไม่ว่าเช่นไรก็ต้องมีวันเฒ่าชรา”

“คนธรรมดาแก่เฒ่าไว ทว่าคนที่ฝึกยุทธ์ร่างกายกลับแข็งแรง ดูอย่างหมอหลวงหลี่ที่พี่พบเจอเข้าก็ได้ เขาอายุเกือบหกสิบแล้ว แต่ยังสามารถแบกชะลอมเดินทางเก็บยาสมุนไพรไปตามภูเขาทุ่งหญ้าต่างๆ ได้ พี่อายุยังน้อย ทว่าปีนยอดเขาเทียนจู้กลับต้องให้ราชบุตรเขยช่วยแบก เห็นได้ชัดว่าร่างกายแข็งแรงหรือไม่ ใช่ว่าจะเกี่ยวกับอายุสักเท่าไร”

องค์รัชทายาทถามอย่างประหลาดใจ “ราชบุตรเขยแบกเสด็จพี่แต่ยังสามารถปีนขึ้นยอดเขาเทียนจู้ได้อย่างนั้นหรือ”

หวาหยาแย้มยิ้ม กระซิบบอกกับผู้เป็นน้องชาย “ข้อดีของราชบุตรเขยก็คือร่างกายแข็งแรง มีอยู่ครั้งหนึ่งพวกเราปีนเขาสูงร้อยจั้งขึ้นไปดูพระอาทิตย์ขึ้น ตลอดทางเขาแบกพี่ขึ้นหลังไม่ปล่อย ถึงจะหอบหายใจหนักหน่วง แต่ก็นับว่าเหนือกว่าคนธรรมดาทั่วไปอยู่หลายขุม”

เงาร่างสูงใหญ่กำยำของเฉินจิ้งจงปรากฏอยู่ในหัวสมองขององค์รัชทายาท

องค์รัชทายาทมองดูแขนเรียวเล็กของตนเองอีกคราว เขาเองก็เรียนการต่อสู้เช่นกัน แต่เพราะรู้สึกว่ายากลำบาก จึงไม่ได้ตั้งใจเล่าเรียนอะไร เสด็จพ่อเองก็ไม่ได้เรียกร้องให้เขาต้องฝึกฝน เสด็จแม่หรือก็คล้ายจะชอบให้เขาเรียนหนังสือมากกว่า ไม่ได้ก้าวก่ายเรื่องการฝึกยุทธ์อะไรมากนัก

แต่ในเวลานี้เขานึกสนใจเรื่องฝึกฝนการต่อสู้ขึ้นมาจริงๆ แล้ว ทั้งนี้เพราะเขาต้องการแข็งแกร่งเฉกเช่นเดียวกับราชบุตรเขย ตอนอายุหกสิบกว่ายังสามารถปีนขึ้นเขาอู่ตังได้

“ใช่แล้ว แล้วสุขภาพของเฉินเก๋อเหล่าเล่าเป็นเช่นไร” จู่ๆ องค์รัชทายาทก็ถามขึ้น

หวาหยางคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ตั้งแต่หมอหลวงหลี่รักษาเขาจนหายป่วย ดูเผินๆ ก็ไม่มีปัญหาอะไรแล้ว ทว่าเฉินเก๋อเหล่าเป็นขุนนางฝ่ายบุ๋น ไม่เหมือนกับราชบุตรเขย อย่างคราวที่ต้องหนีน้ำท่วมราชบุตรเขยแบกข้าขึ้นเขาได้ราวกับอยู่บนพื้นราบ ส่วนเฉินเก๋อเหล่ากลับต้องให้พวกบ่าวรับใช้ช่วยพยุงขึ้นไป พี่ชายสองคนของราชบุตรเขยเองก็ดูแลตนเองแทบไม่ไหว ดูทุลักทุเลไม่น้อย เห็นได้ชัดว่าขุนนางบุ๋นบู๊ล้วนมีจุดอ่อนจุดแข็งต่างกันไป บุรุษที่เก่งทั้งบุ๋นบู๊ใต้หล้านี้มีเพียงนับนิ้ว”

องค์รัชทายาทเหยียดยืดหลังไหล่ รอดูเถอะ อีกไม่กี่ปีข้าจะกลายเป็นหนึ่งในบุรุษที่ยอดเยี่ยมทั้งบู๊บุ๋นที่มีเพียงนับนิ้วที่เสด็จพี่พูดถึงให้จงได้

สองพี่น้องไม่ได้พบหน้ากันเนิ่นนาน พอได้พูดคุยกันก็ลืมเวลาไปจนสิ้น ดีที่ยังมีนางกำนัลข้างกายคอยช่วยเตือนว่าได้เวลากลับตำหนักเฟิ่งอี๋แล้ว

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

everY

ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 1 บทที่ 15-16 #นิยายวาย

ทดลองอ่านเรื่อง  ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 1 ผู้เขียน :  ลวี่เหยี่ยเชียนเฮ่อ (绿野千鹤) แปลโดย :  qMondae ผลงานเ...

ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก

ทดลองอ่าน ชาตินี้ข้าจะรักท่านให้มาก บทที่ 67-68

บทที่ 67 ถึงจะเป็นช่วงพักกลางวัน ทว่าหวาหยางกลับไม่อาจข่มตาหลับ นางนอนอยู่บนเตียงร่วมกับชีฮองเฮา ประเดี๋ยวก็พูดจาอิงแอบอ...

everY

ทดลองอ่าน ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 1 บทที่ 13-14 #นิยายวาย

ทดลองอ่านเรื่อง  ตื่นมารับภารกิจพิชิตหัวใจคุณสามี เล่ม 1 ผู้เขียน :  ลวี่เหยี่ยเชียนเฮ่อ (绿野千鹤) แปลโดย :  qMondae ผลงานเ...

community.jamsai.com