บทที่ 3
เฉินจิ้งจงเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าหวาหยาง ด้วยความสูงที่แตกต่างกันทำให้ใบหน้าของนางอยู่ระดับเดียวกับอกร้อนผ่าวของเขา
ต่อให้ร่างกายกำยำงดงามนี้เป็นของผู้เป็นสามี หวาหยางก็ยังคงไม่ถึงขั้นจับจ้องมองดูมันได้อย่างเปิดเผยตรงไปตรงมา ก็เหมือนกับองครักษ์ในจวนท่านอาหญิงของนางที่ต้องแขวนม่านโปร่งบางบังขวางไว้ชั้นหนึ่ง
นางเบนสายตาหลบ มือข้างหนึ่งกุมผ้าห่มผืนบางบนตัวไว้
ผ้าห่มสีขาวปักลายดอกโบตั๋นอย่างประณีตงดงามถูกนางหยิบขึ้นมาห่มห่อร่างกายไว้อย่างไม่ใส่ใจ แต่กลับดูงดงามราวกับเทพธิดาลงมาจากสวรรค์
ทว่าใบหน้าของนางกลับแดงระเรื่อ เส้นผมเปียกชื้นไปด้วยเหงื่อขดม้วนแนบอยู่ข้างแก้ม
เฉินจิ้งจงคิด นี่คือช่วงเวลาที่นางงดงามอ่อนโยนน่าพิสมัยที่สุด คล้ายสตรีทั่วไปนางหนึ่ง มิใช่องค์หญิงที่มักวางท่าใหญ่โตอยู่เป็นนิจ
“วิ่งลงจากเตียงมาเช่นนี้ องค์หญิงไม่หนาวหรือ”
สายตาของเขากวาดมองฝ่าเท้าเล็กขาวเนียนดั่งหยกของนาง เฉินจิ้งจงจู่ๆ ก็ค้อมเอวช้อนร่างของนางขึ้น อุ้มไว้ในอ้อมแขน
ถึงจะเป็นสามีภรรยากัน ทว่าเฉินจิ้งจงทำสิ่งใดล้วนดูสีหน้านาง หากนางไม่ชอบเขาย่อมไม่เข้าใกล้ ทว่าหากนางมอบรอยยิ้มให้เพียงน้อย เขาก็พร้อมจะกดคนลงบนเตียง ถึงจะไม่ใช่พวกบีบบังคับฝืนใจให้อีกฝ่ายยอมมีอะไรกับเขา แต่หากโอกาสมาถึง เขาไหนเลยจะสะกดกลั้นอยู่
เขาเป็นมนุษย์ปุถุชน มิใช่ภิกษุ
เมื่อคืนก่อนเข้านอนนางโมโหเพราะพบเจอลูกงูตัวหนึ่งเข้า เฉินจิ้งจงย่อมรู้ตัวว่าตนเองต้องลงไปนอนอยู่บนพื้นกระดาน
ทว่าพอตกค่ำนางกลับเป็นฝ่ายมอบกายเข้าสู่อ้อมแขนของเขา ลูบไล้ใบหน้าของเขา ยอมให้ความร่วมมือแต่โดยดี เฉินจิ้งจงที่สุขสบายทั้งกายใจ ไหนเลยจะตัดใจปล่อยให้คู่เรียงเคียงหมอนของตนนอนหนาวเพียงลำพังได้
หวาหยางจิตใจสับสน ครั้นตระหนักได้ว่าเฉินจิ้งจงกำลังอุ้มตนเองกลับเตียง นางก็ขัดขืนเบาๆ มือข้างหนึ่งยันอกเขาไว้ มืออีกข้างชี้ไปที่หน้าต่าง
“ฟ้าสว่างแล้ว”
เฉินจิ้งจงผินหน้า ใบหน้าหล่อเหลางดงามสว่างกระจ่างอยู่ใต้แสงตะวัน
เขาเข้าใจความหมายของนางผิด ยิ้มกล่าวว่า “ข้าก็แค่อุ้มองค์หญิงกลับไปเท่านั้น ไม่ได้คิดจะเริ่มใหม่อีกครั้ง”
หวาหยางพยายามควบคุมความคิดอ่านไม่ให้ถูกอีกฝ่ายชักใบให้เรือเสีย นางสังเกตดูบุรุษตรงหน้า “ท่านไม่กลัวหรือ”
“กลัวอะไร”
ขณะที่หวาหยางกำลังคิดจะเปิดโปงฐานะ ‘ภูตผี’ ของอีกฝ่าย จู่ๆ ก็มีเสียง ‘ฮัดเช่ย’ ดังมาจากในลาน นางชะโงกหน้ามองไป เห็นเจินเอ๋อร์สาวใช้ตัวน้อยยืนปิดปากท่าทางตื่นตระหนกอยู่ที่นอกครัว เฉาเยวี่ยสาวใช้รุ่นใหญ่หันหลังให้นาง คล้ายกำลังสั่งสอนเจินเอ๋อร์อยู่
อาศัยจังหวะที่พวกนางยังไม่ทันมองมาทางนี้ หวาหยางยกเท้าขวาขึ้นอย่างรวดเร็ว ปลายเท้าเขี่ยปิดหน้าต่าง จะได้ไม่มีใครเห็นพฤติกรรมไม่งามระหว่างนางกับเฉินจิ้งจง
น่องเรียวงามขาวสล้างปรากฏต่อสายตา แววตาของเฉินจิ้งจงหม่นหมองลงอีกครั้ง
น่าเสียดายที่ไม่อาจทำอะไรได้อีก