“ท่านอ๋อง ท่านเข้ามาได้อย่างไร โอย ดื่มเยอะขนาดนี้เชียว! ไหนท่านบอกว่าวันนี้จะมาอวยพรบ่าวสาวและคุยกับคนอื่นแก้เบื่อ แต่จะไม่แตะสุราเด็ดขาดมิใช่หรือ เหตุใดถึงดื่มจนกลายเป็นเช่นนี้ได้ ท่าน…ว้าย!” ร่างบางถูกสะบัดจนล้มลงกับพื้นอย่างแรง
“หนวกหู! เดี๋ยวจะโดน…” หลีอ๋องยกขาหมายจะเตะชายาที่ล้มอยู่บนพื้น
บรรดาแขกสตรีตกใจ พากันส่งเสียงกรีดร้อง แต่ก่อนที่ชายาหลีอ๋องจะโดนเตะเข้าจริงๆ กลับมีเงาร่างสีแดงสายหนึ่งพุ่งเข้าไปขวาง ขาของหลีอ๋องจึงถูกกระบี่ที่อยู่ในมือเงาร่างสีแดงสกัดเอาไว้!
หลีอ๋องชะงักค้างไปในบัดดล แต่เพราะความเมาทำให้เขาทรงตัวไว้ไม่อยู่ ร่างอ้วนฉุจึงล้มหงายไปด้านหลังจนก้นกระแทกพื้นจ้ำเบ้า
ภาพนี้ทำให้เหล่าแขกสตรีส่งเสียงร้องลั่นกว่าเดิม แต่พอเห็นถนัดว่าในมือของเจ้าสาวที่พุ่งตัวออกไปมีกระบี่เล่มยาว เสียงพวกนั้นกลับติดขัดอยู่แค่ในคอ เหลือเพียงอาการปากอ้าตาค้างเท่านั้น
นี่มันกระบี่ประจำตำแหน่งของหน่วยประตูหกบานมิใช่หรือ
เหตุการณ์ทั้งหมดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วจนตาลาย หลีอ๋องอับอายจนกลายเป็นคลุ้มคลั่งเพราะฤทธิ์สุรา เขาตะกายตัวขึ้นมาจากพื้นและพุ่งเข้าใส่เงาร่างสีแดง พร้อมกับส่งเสียงคำรามลั่นและยื่นนิ้วทั้งสิบที่กางออกเป็นกรงเล็บ
มู่ไคเวยไม่ได้ชักกระบี่ออกจากฝักแต่ยืนปักหลักรอรับการโจมตีอยู่ที่เดิม
ป๊าบๆๆๆ…ป๊าบๆๆ…ป๊าบๆ…ป๊าบ!
กระบี่ของหญิงสาวสะบัดว่องไวปานสายฟ้าที่ฟาดลงมาจนปิดหูกั้นเสียงไม่ทัน แรงฟาดแต่ละครั้งล้วนหนักหน่วง และฟาดเต็มๆ ลงไปบนร่างของหลีอ๋อง ทั้งแขนขา ข้างเอว แผ่นหลัง พุงป่อง ก่อนจะปิดท้ายด้วยการเสยปลายคางจังๆ จนเหนียงสองชั้นสั่นระรัว ดวงตาเหลือกลาน ตัวอ่อนยวบก่อนจะล้มลงหมดสติไป
เงียบ
เงียบเหมือนทุกคนที่อยู่ ณ ที่นั้นกลายเป็นก้อนหิน
ทันใดนั้น
“ฆ่าคน! ช่วยด้วย! ท่านอ๋องๆ…อย่าเป็นอะไรนะเพคะ ท่านห้ามทิ้งข้าเอาไว้คนเดียวเด็ดขาด! ฆ่าคน ชายาคังอ๋องใช้อาวุธสังหารราชนิกุลต่อหน้าธารกำนัล! ฮือๆๆ” ทันทีที่ชายาหลีอ๋องผู้เกือบถูกสามีเตะได้สติก็รีบโผเข้าไปหาหลีอ๋องเหมือนแม่ไก่ที่พยายามกางปีกปกป้องลูกจากพญาเหยี่ยวอย่างมู่ไคเวย