ท่านยายชิงบอกอีกว่า “แต่ถ้าพระชายาอยากถามอะไรนางเกรงว่าคงยาก เพราะทุกคนในจวนคังอ๋องต่างเรียกนางว่านางใบ้…นางหูหนวกและเป็นใบ้มาตั้งแต่เกิด ทั้งยังไม่รู้หนังสือ แต่นางทำสวนเก่งมาก ก่อนหน้านี้นางเป็นคนดูแลต้นไม้ใบหญ้าในจวนทั้งหมด ทว่าตอนนี้สุขภาพของนางทรุดโทรมลงเรื่อยๆ ท่านอ๋องเลยย้ายนางให้มาอยู่ที่เรือนด้านหลังเพื่อปลูกสมุนไพรกับพวกบ่าวอาวุโสแทน”
…หูหนวกและเป็นใบ้ตั้งแต่เกิด ทั้งยังไม่รู้หนังสือ? มู่ไคเวยชะงัก
ถึงจะเป็นเช่นนี้ แต่ถ้าจำเป็นก็ต้องลองดู ลองทำไม้ทำมือกับวาดภาพเอา…คงได้กระมัง
“ขอบคุณท่านยายชิงมาก ข้าทราบแล้ว” มู่ไคเวยสูดลมหายใจเข้าปอดลึก พร้อมกับกำหมัดและยกเท้าเตรียมเดินเข้าไปหานางใบ้
แต่บ่าวรับใช้คนหนึ่งกลับรีบวิ่งมาที่สวนสมุนไพรของเรือนด้านหลัง พอเจอมู่ไคเวยก็รีบโค้งกายคารวะแล้วเอ่ยเสียงดัง “เรียนพระชายา หลันกูกูบอกว่าจัดห้องนอนในเรือนหลักตามความต้องการของพระชายาเรียบร้อยแล้ว ขอให้พระชายากรุณากลับไปดูด้วย เผื่อว่ายังมีสิ่งใดขาดตกบกพร่อง”
เท้าที่กำลังจะก้าวออกไปข้างหน้าของมู่ไคเวยจึงหยุดชะงัก และคิดว่าการสอบถามนางใบ้อาจต้องใช้เวลานานมาก ทั้งยังต้องจัดหาพู่กัน หมึก กระดาษสำหรับวาดภาพ ในขณะที่ถามอีก เช่นนี้การทำงานจึงจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น คิดได้ดังนี้ มู่ไคเวยก็ก้าวยาวๆ ออกจากสวนสมุนไพร เพื่อกลับไปที่เรือนหลัก
“แหม…พระชายาของเราเดินไวเหมือนดาวตกจริงๆ” ท่านยายชิงกล่าวชมอย่างจริงใจ ยิ้มตาหยีจนหางตาทั้งสองข้างยับย่น ขณะที่นางใบ้ที่อยู่อีกด้านไม่ได้เงยหน้าขึ้นมา นางเอาแต่พลิกดินต่ออย่างเอาจริงเอาจัง
“ขอร้องล่ะขอรับท่านอ๋อง สิ่งใดควรบอกก็รีบบอกๆ ออกไปเถอะ ท่านถ่วงเวลาไว้เช่นนี้มันสนุกนักหรือ” เหล่าเซวียพร่ำพูดด้วยความหวังดี
สนุกสิ! สนุกจนไม่รู้จะสนุกอย่างไรเลย…แค่กๆ ชายหนุ่มผู้เป็นประมุขของบ้านยกมือขึ้นลูบหน้าแล้วสะบัดศีรษะเพื่อสลัดความคิด ‘ไม่ดีไม่งาม’ ออกจากสมอง “ข้าไม่ได้ถ่วงเวลา แต่กำลังหาโอกาสเหมาะๆ อยู่”
มู่ไคเวยเข้าใจว่าเขาสุขภาพร่างกายอ่อนแอถึงได้ยอมลงให้ และปล่อยให้เขาได้นอนร่วมเตียงเดียวกับนาง เพราะนางมั่นใจว่าแค่ขยับนิ้วก็สามารถกำราบเขาได้แล้ว ดังนั้น ตอนที่ถูกเขาพุ่งเข้ากอดและจับกดลงกับเตียง นางจึงไม่ขัดขืน ทั้งยังอยู่กินข้าวเป็นเพื่อนเขาทุกวัน ฝึกวรยุทธ์ให้เขาดู เดินหมากกับเขา แล้วยังชวนเขาไปเที่ยวอีกด้วย นางตั้งใจฟังสิ่งที่เขาพูดและตอบเขาอย่างจริงจัง
เขาเข้าใจดีว่านางค่อนข้างรักถนอมเขา
แต่เวลานี้ นางยังไม่ได้มีจิตพิศวาสเขา ทั้งหมดเป็นแค่ความรู้สึกเห็นใจ ทว่าหากเขาเปิดเผยทุกสิ่งให้นางรู้แล้ว ความรู้สึกเห็นใจทั้งหมดนี้จะหายไปหรือไม่