ชายาสะท้านแผ่นดิน
ทดลองอ่าน ชายาสะท้านแผ่นดิน บทนำ – บทที่ 8
บทนำ
ท้องฟ้ายามราตรีใสสะอาดดุจสายน้ำ หมู่ดาวส่องประกายระยิบระยับ
รถไฟขบวนหนึ่งพุ่งทะยานสู่เบื้องหน้าท่ามกลางความมืดมิดแห่งรัตติกาล
รถหุ้มเกราะซึ่งผ่านการดัดแปลงแล้วห้าคันกำลังมุ่งหน้าเข้าหาขบวนรถไฟ บนช่องหลังคาที่เปิดอ้าไว้ หากไม่ใช่ปืนยิงลูกระเบิดก็มีปืนกลติดตั้งอยู่ สีหน้าของผู้ที่อยู่ภายในกรุ่นไปด้วยความร้อนใจ
“ยืนยันเป้าหมาย ขีปนาวุธข้ามทวีปสิบเอ็ดลูก” เสียงแจ้งราบเรียบราวกับผิวน้ำ สงบนิ่งและแผ่วเบา
“ไม่มีทางแยกชิ้นส่วนนำกลับมาใช่ไหม” อุปกรณ์สื่อสารเย็นยะเยียบส่งผ่านเสียงทุ้มต่ำของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงความมั่นคงแห่งชาติออกมา
“ไม่มีทางครับ”
“งั้นก็ระเบิดซะ”
“ครับ”
ขณะเดียวกันสุ้มเสียงเยือกเย็นอีกเสียงก็แทรกขึ้น “ข้างหน้ามีรถหุ้มเกราะห้าคัน อีกเจ็ดนาทีสิบเอ็ดวินาทีจะถึงตัวรถไฟ”
“พอ” สายลมพัดโหม ราตรีเงียบสงัด
เวลาผ่านไปหนึ่งนาทีหนึ่งวินาที
ตูม!
ขณะที่เข็มชี้บอกเวลาสี่นาทีสามสิบวินาที ในค่ำคืนอันเงียบสงบอยู่ๆ ก็เกิดเสียงระเบิดกึกก้องกัมปนาทจนหูแทบดับ ตามติดด้วยประกายเพลิงพวยพุ่งขึ้นสู่ฟ้า แหวกฝ่าความมืดทะมึนแห่งรัตติกาลอย่างกราดเกรี้ยว ปลดปล่อยความงามและอานุภาพของเปลวเพลิงแดงฉาน
ท้ายขบวนของรถไฟซึ่งลักลอบลำเลียงขีปนาวุธข้ามทวีปสิบเอ็ดลูกล่วงล้ำอาณาเขตเข้ามาถูกระเบิดปลิวกระจายไปทั้งตู้ จากนั้นโบกี้ถัดๆ มาก็เกิดระเบิดลุกลามตามติด เปลวไฟคลุ้มคลั่งถาโถมไปทางหัวขบวนอย่างรวดเร็ว
ราตรีมืดมิด แสงเพลิงอาบฟ้า
ท่ามกลางพระเพลิงลุกโพลง เงาร่างดำตะคุ่มร่างหนึ่งปรากฏขึ้นหน้าเปลวไฟที่บิดเบี้ยว ค่อยๆ คืบคลานเข้ามาช้าๆ
เสื้อโค้ตสีดำถูกกระแสลมร้อนระอุพุ่งปะทะจนตีสะบัดอยู่กลางอากาศ ผมสีดำสนิทเริงระบำอยู่ท่ามกลางความมืดแห่งรัตติกาลอย่างท้าทาย รูปโฉมที่งดงามราวสวรรค์ปั้นแต่ง ดุจดอกโบตั๋นกลางหมอกควัน เจิดจรัสอย่างหาที่เปรียบมิได้
เบื้องหลังของเธอคือเปลวเพลิงที่ลุกโหมอย่างบ้าคลั่ง พลังรุนแรงมหาศาลเช่นนั้นคล้ายกับทำได้เพียงขับเน้นตัวเธอให้โดดเด่น ต่อให้เป็นสีสันที่จัดจ้ากว่านี้ก็ไม่อาจบดบังสีดำอันท้าทายนั้นได้
‘ไนต์วัน’ เจ้าหน้าที่ระดับสูงประจำกองปฏิบัติการพิเศษ กระทรวงความมั่นคงแห่งชาติ
‘ดาร์กไนต์’ คือหน่วยงานเฉพาะกิจของกองปฏิบัติการพิเศษ กระทรวงความมั่นคงแห่งชาติ จัดเป็นองค์กรลับสุดยอดของประเทศ
บนโลกใบนี้มักมีเรื่องราวมหัศจรรย์พันลึกปรากฏอยู่เสมอ ผู้คนจำนวนมากคิดว่ามันมีอยู่ในนิยายไซไฟเท่านั้น หากแต่ความจริงแล้วพวกมันดำรงอยู่จริง เพียงแต่ทางการได้ปิดบังความลับเหล่านี้ไว้เท่านั้น
ดาร์กไนต์คือหน่วยปฏิบัติการพลังมหัศจรรย์หน่วยงานหนึ่ง ผู้คนในนั้นล้วนมีพลังเหนือมนุษย์ที่คาดไม่ถึงหลายรูปแบบ ทั้งปล่อยกระแสไฟฟ้า มองทะลุวัตถุ ล่วงรู้อนาคต แปลงร่างได้ หรือกระทั่งมีวิทยายุทธ์
พวกเขาเป็นศาสตราวุธที่ทรงอานุภาพที่สุดของประเทศ
ไนต์วันปล่อยกระแสไฟฟ้าไม่ได้ ไม่อาจทำนายอนาคต และไม่มีพลังเหนือมนุษย์ใดๆ
ทว่าเธอรู้วรยุทธ์ ทั้งยังเป็นศิษย์ของสำนักอันดับหนึ่งผู้สืบทอดวิทยายุทธ์จีนโบราณซึ่งเร้นกายจากโลกภายนอก และเพราะเธอมีความสามารถเหาะเหินเดินอากาศได้ จึงได้รับการยกย่องให้เป็นอันดับหนึ่งเหนือบรรดาศิษย์รุ่นหลัง
วรยุทธ์ คือคำเรียกอย่างง่ายๆ ของวิชาต่อสู้แบบจีนโบราณ
ซัดบุปผาคร่าชีวิต ย่ำหิมะไร้ร่องรอย นี่ก็คือวรยุทธ์
เปลวเพลิงโหมกระพือท่ามกลางท้องฟ้ายามราตรี เงาร่างสีดำเยื้องย่างเข้ามาอย่างมาดมั่นโดยไม่แยแสแรงระเบิดสะเทือนเลื่อนลั่นเบื้องหลังแม้แต่น้อย
โบกี้รถไฟตู้แล้วตู้เล่ากลายเป็นผุยผงท่ามกลางแรงระเบิดรุนแรง ส่วนไนต์วันซึ่งเดินอยู่บนหลังคารถกลับเยือกเย็นเช่นเวลาปกติ
ปังๆๆ
เสียงปืนกลกราดยิงอย่างบ้าระห่ำดังขึ้นในความมืดยามค่ำคืน
ภายในโบกี้ที่ยังไม่ถูกระเบิดผลาญทำลาย ผู้ก่อการร้ายนับไม่ถ้วนซึ่งรับหน้าที่ขนส่งขีปนาวุธพากันทุบกระจก ยกปืนกลสาดกระสุนใส่ไนต์วันที่กำลังก้าวฝ่ากองเพลิงเข้ามา
สายลมโชยเอื่อย หางตาของไนต์วันยังไม่ทันกระตุก แค่สะบัดแขนเพียงครั้งเดียว แสงสีเงินสว่างวาบพลันวูบหาย
เสียงปืนสงบลงทันที บนลำคอของเหล่าผู้ร้ายปรากฏรอยเลือดเส้นจางจนแทบมองไม่เห็น ทว่าแต่ละคนกลับร่วงลงไปกองระเนระนาด
อาภรณ์ดำห่มคลุมผืนฟ้า แผ่ขยายอย่างไม่หยุดยั้ง
เปลวเพลิงกวาดม้วนกวดขึ้น กระทั่งโหมเข้าใส่หัวขบวน
เสียงเฮลิคอปเตอร์ดังกระหึ่มขึ้นทางหัวขบวน นั่นคือหน่วยสนับสนุนนั่นเอง
ไนต์วันสะบัดศีรษะน้อยๆ เพียงสะกิดปลายเท้า ร่างทั้งร่างก็เหินขึ้นไปกลางเวหา เธอคว้าบันไดเชือกที่ห้อยตัวลงมา แล้วเฮลิคอปเตอร์ก็บินบึ่งไปทันที
วินาทีที่พวกเขาบินจากไปนั่นเอง เบื้องหลังบังเกิดเสียงตูมดังสนั่นขึ้นทีหนึ่ง รถไฟทั้งขบวนถูกระเบิดจนขาดสะบั้นไม่เหลือชิ้นดี
ขณะเดียวกันในช่วงเวลาเจ็ดนาทีสิบเอ็ดวินาทีนั้น รถหุ้มเกราะทั้งห้าคันเบรกเอี๊ยดเสียงลั่นราวถูกฉีกกระชากดังสะท้อนท่ามกลางความมืดมิด คนที่อยู่ข้างในแทบคลุ้มคลั่ง
หมดสิ้นแล้ว ขีปนาวุธข้ามทวีปสิบเอ็ดลูกถูกทำลายย่อยยับไปทั้งอย่างนี้
สายลมยามราตรีพัดโชย ไนต์วันพิงร่างกับบันไดเชือก จับจ้องไปยังกองเพลิงเบื้องล่างพลางยักคิ้วยิ้มอย่างมีชัย
ไม่ได้มีความท้าทายเอาเสียเลย
ชั่ววินาทีที่ไนต์วันกำลังคลี่ยิ้มบาง จู่ๆ เฮลิคอปเตอร์เหนือศีรษะกลับชะงักค้างกลางอากาศกลางคัน ครั้นแล้วก็ร่วงดิ่งลงสู่เบื้องล่าง
“แย่แล้ว! เฮลิคอปเตอร์เกิดเหตุขัดข้อง”
ราตรีกาลล้ำลึก สายลมพลิ้วแผ่ว
ไนต์วันไม่เคยคาดคิดเลยว่าภารกิจปิดฉากลงอย่างง่ายดายเช่นนี้ หากแต่สุดท้ายกลับต้องมาตกม้าตายบนเฮลิคอปเตอร์ที่ลืมเช็กสภาพจนเกิดเหตุขัดข้องกะทันหันลำนี้
ดอกไม้ไฟสว่างไสว นี่ช่างเป็นโลกที่แปลกประหลาดเหลือเกิน