ฉินชิงไม่นึกสงสัยอะไรอีกจึงยิ้มแล้วกล่าวว่า “อีกสักสองสามวันขอเชิญไปกินด้วยกัน”
เขาว่าแล้วก็ค้อมกายลงเล็กน้อย ยื่นมือข้างขวามาให้ รอยยิ้มประดับมุมปากพลางเอ่ย “พื้นนี่เฉอะแฉะนัก ลุกขึ้นเถอะ”
เนี่ยชิงหลวนส่งมือให้เขาแต่โดยดี ฉินชิงคว้าจับไว้แล้วดึงนางให้ลุกขึ้น
ทว่าไม่มีใครฉุดให้ผีผาลุก จึงจำต้องตะเกียกตะกายลุกขึ้นเอง
ฉินชิงดึงเนี่ยชิงหลวนลุกขึ้นแล้ว แต่ยังจับมือนางไว้ไม่ปล่อย กลับกันเขานิ่วหน้าถาม “เหตุใดมือเจ้าเย็นเฉียบนัก”
เนี่ยชิงหลวนไม่มีทางบอกเขาแน่ว่าที่มือตนเป็นเช่นนี้เพราะใกล้เป็นระดู จึงได้แต่แสร้งพูดเป็นอื่นไป “อ้อ อาจเพราะอีกสักครู่จะได้เข้าเฝ้าฝ่าบาทแล้ว ข้าตื่นเต้น มือก็เลยเย็นน่ะ”
ฉินชิงนิ่งเงียบไปอึดใจหนึ่งก่อนเอ่ยว่า “อีกสักครู่มาอยู่ข้างข้าสิ เจ้าจะได้ไม่ตื่นเต้น”
เนี่ยชิงหลวนแอบล้อเขาอยู่ในใจ พี่ใหญ่ คิดว่าตัวเจ้านิ่งสุขุมดุจผืนทะเลราบเรียบหรือ อยู่ข้างๆ เจ้าแล้วจึงไม่ต้องตื่นเต้น
นางกำลังจะออกปากบอกว่านางขอกลับไปอยู่ข้างๆ บิดามารดาของตน กลับรู้สึกได้ว่ามีคนมากระตุกชายแขนเสื้อหลายที พอนางหันไปมองดู…เป็นผีผานั่นเอง
“คุณหนู” ผีผาเขยิบเข้ามาใกล้ กระซิบบอกว่า “องค์รัชทายาทกับพระชายามาแล้วเจ้าค่ะ”
เนี่ยชิงหลวนหันมองตามสายตาของผีผา พบองค์รัชทายาทหลี่จิ่งหยวนกับเนี่ยหยวนหวากำลังเดินผ่านประตูวงจันทร์เข้ามาในอุทยาน
ผู้คนในอุทยานตงเน่ยพากันคุกเข่าลงทันที ปากร้องถวายความเคารพ “องค์รัชทายาททรงพระเจริญพันปี พระชายาทรงพระเจริญพันปี”
เนี่ยชิงหลวนก็คุกเข่าไปกับทุกคนด้วย
รอจนองค์รัชทายาทตรัสว่าลุกขึ้นยืนได้ นางจึงค่อยลุกขึ้น
เมื่อนางเงยหน้าขึ้นก็สบสายตาเนี่ยหยวนหวาที่มองมาพอดี
สายตาเนี่ยหยวนหวากวาดมองทั่วร่างของนางหลายรอบ จากนั้นหันไปมองฉินชิง เลื่อนสายตาลงจับจ้องที่มือข้างขวาของฉินชิงอยู่นาน มุมปากปรากฏลักษณะคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม แล้วจึงค่อยถอนสายตากลับไป
แม้ฉินชิงจะสวมเสื้อแขนกว้าง แต่ก็ไม่อาจบดบังมือขวาที่ยังกุมมือเนี่ยชิงหลวนได้มิด หากมีคนคิดมากมาเห็นเข้า คงพอจับสังเกตอะไรบางอย่างได้
ในตอนนั้นเองเนี่ยชิงหลวนก็สะบัดมือจากมือของฉินชิง ทำไม้ทำมือบอกลา ก่อนหลบไปหาซิ่นหยางโหวกับมารดาที่ยืนอยู่อีกด้านพร้อมกับผีผา
หลังองค์รัชทายาทกับพระชายาเข้าไปนั่งในที่ของตนแล้ว ผู้คนในอุทยานย่อมพากันเข้าไปห้อมล้อม คราวนี้คนที่เป็นจันทราท่ามกลางหมู่ดาวได้เปลี่ยนเป็นองค์รัชทายาทกับพระชายาแทน
เนี่ยชิงหลวนไม่สนใจจะทำตัวเป็นดาวดวงหนึ่งในหมู่ดาวทั้งหลาย ดังนั้นจึงเลือกสถานที่เงียบสงบเพื่อนั่งหลบผู้คน
แต่นั่งได้ไม่นาน หนึ่งในจันทราสองดวงก็เดินเข้ามาหา