อันที่จริงหากเอ่ยถึงแม่ทัพแดนพายัพนามว่าจั่วหลิงผู้นี้ จำต้องบอกว่าฮ่องเต้หลงอันตี้กับบิดาของเขาไม่ลงรอยกัน
ฮ่องเต้หลงอันตี้เป็นฮ่องเต้พระองค์ที่สามของราชวงศ์ต้าจิ้น ในตอนนั้นพระอัยกาของพระองค์กับปู่ของจั่วหลิงร่วมมือกันต่อสู้ช่วงชิงแผ่นดินในช่วงกลียุคจนได้ครอบครองต้าจิ้น หลังพระอัยกาของฮ่องเต้หลงอันตี้ได้ขึ้นเป็นฮ่องเต้ จึงอวยยศปู่ของจั่วหลิงขึ้นเป็นจิ้นอ๋องด้วย
การแต่งตั้งให้เป็นอ๋องโดยพระราชทานยศด้วยชื่อของราชวงศ์ ชี้ให้เห็นว่าพระอัยกาของฮ่องเต้หลงอันตี้ให้ความสำคัญกับปู่ของจั่วหลิงมากเพียงใด
ปู่ของจั่วหลิงย่อมซาบซึ้งใจจนแทบจะหลั่งน้ำตาเปียกชุ่มเสื้อผ้า ถึงกับให้สัตย์สาบานอย่างหนักแน่นว่าขอเพียงยังมีราชวงศ์ต้าจิ้นอยู่ พวกเขาเหล่าสมาชิกสกุลจั่วสัญญาจะคอยพิทักษ์รักษาแผ่นดินนี้ไว้เพื่อราชสกุลหลี่ด้วยชีวิต
ตั้งแต่ให้คำสาบานไว้ เขาก็นำสมาชิกสกุลจั่วตั้งแต่เด็กเล็กจนถึงเฒ่าชราเดินทางไปยังแดนพายัพ เฝ้ารักษาการณ์ที่เมืองหล่ง
ตอนนั้นแม้ราชวงศ์ต้าจิ้นจะปกครองดินแดนภายในได้อย่างสงบราบรื่น ทว่านอกเขตเมืองหล่งออกไปกลับมีชาวหูแถบนั้นมาก่อเหตุรุกรานอยู่เนืองๆ
พอปู่ของจั่วหลิงเดินทางมาถึงเมืองหล่งแล้ว ก็เริ่มเปิดศึกผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะกับชาวหูนับแต่นั้นมา
ภายหลังเขาเฒ่าชราและตายจากไป บุตรชายก็เริ่มรับตำแหน่ง ทางฝั่งเมืองหลวง พระอัยกาของฮ่องเต้หลงอันตี้เองก็สวรรคตในไม่ช้า พระบิดาจึงได้เริ่มขึ้นครองราชย์
พระบิดาของฮ่องเต้หลงอันตี้ไม่เหมือนพระอัยกา มิได้มีความผูกพันกับจิ้นอ๋องอย่างผู้ที่ได้ร่วมเป็นร่วมตายในสนามรบด้วยกันมา พระองค์ทรงเห็นว่าการที่มีอ๋องซึ่งได้รับพระราชทานยศด้วยชื่อราชวงศ์ไม่ใช่เรื่องดี ช่างเป็นการทำให้ราชตระกูลเสื่อมเสียเกียรติเสียนี่กระไร ตอนนั้นพระองค์จึงเริ่มเกิดความคิดที่จะถอดยศนี้เสีย
ทว่าทางเมืองหล่ง ประการแรกชายแดนถูกปราบปรามจนราบคาบได้ก็เพราะปู่ของจั่วหลิง ประการถัดมาเพราะบิดาของจั่วหลิงออกรบราทำศึกขับไล่ ชาวหูจึงไม่กล้าลงมืออย่างบุ่มบ่าม มีอยู่ปีหนึ่งชาวหูถึงกับส่งทูตมายังเมืองหลวงเพื่อขอเจรจาทำสัญญาสงบศึกกับพระบิดาของฮ่องเต้หลงอันตี้ ซ้ำยังส่งตัวหนึ่งในองค์หญิงของเผ่าตนเข้ามาเป็นพระสนมเพื่อแสดงถึงความจริงใจ
องค์หญิงพระองค์นั้นมีชื่อเสียงเลื่องลือว่าเป็นดั่งจันทรากระจ่างฟ้าแห่งดินแดนทุ่งหญ้า เป็นหญิงที่มีรูปโฉมงดงามมาก พระบิดาของฮ่องเต้หลงอันตี้ลุ่มหลงในตัวนางทันทีที่ได้พบ กระทั่งไม่ออกว่าราชการยามเช้าอีกเลยนับแต่บัดนั้น
องค์หญิงได้รับความโปรดปราน ย่อมช่วยพูดเพื่อคนร่วมเผ่า ดังนั้นนางจึงเริ่มเล่าว่าปู่และบิดาของจั่วหลิงนั้นโหดร้ายไร้หัวใจเพียงใด พวกเขาสังหารคนร่วมเผ่าของนางไปนับไม่ถ้วน ไม่ลืมบอกพระองค์เมื่ออยู่ด้วยกันในที่รโหฐานว่าทั้งทหารและพลเรือนที่เมืองหล่งรู้จักเพียงจิ้นอ๋อง ไม่รู้แล้วว่ามีฮ่องเต้อยู่ นอกจากนี้ยังป่าวประกาศแก่ภายนอกด้วยว่ากองทัพที่นั่นล้วนเป็นทหารของสกุลจั่วทั้งสิ้น