เดิมทีหลิ่วจือหว่านนึกว่าในกล่องนี้คงจะเป็นของจำพวกเศษเงินเศษทอง แต่เมื่อเปิดออกดูถึงพบว่าด้านในเป็นตั๋วเงินปึกหนาๆ หนึ่งปึก แต่ละใบล้วนมีมูลค่าหนึ่งร้อยตำลึง
คราวนี้นางกลับไม่ต้องแสร้งแสดงละครแล้ว ได้แต่เอ่ยเสียงเบาด้วยความตื่นตะลึงว่า “เยอะเพียงนี้เชียว…”
ต้องกล่าวก่อนว่าสำหรับสกุลเยวี่ยแล้ว หลิ่วจือหว่านก็เป็นเพียงอนุนอกเรือนของนายอำเภอตัวเล็กๆ คนหนึ่งเท่านั้น
แต่สกุลเยวี่ยกลับทุ่มเงินก้อนโตกับอิฐเคาะประตูอย่างอนุภรรยาหรืออนุนอกเรือนของนายอำเภอคนหนึ่งถึงขั้นนี้
ขอถามว่าถ้าคนที่มารับตำแหน่งก้งเซิงเป็นคนยากจนที่ลำบากพากเพียรเรียนหนังสือจนสอบได้เป็นขุนนาง เมื่อพบเจอความยั่วยวนใจจากภูเขาทองทะเลเงินเช่นนี้จะยึดมั่นในความตั้งใจดั้งเดิม ต้านทานแรงเย้ายวนได้อย่างไร
หลิ่วจือหว่านมองดูตั๋วเงินปึกนั้นนิ่งๆ อยู่เนิ่นนาน ครั้นแล้วก็คว้าตั๋วเงินปึกนั้นขึ้นมาต่อหน้าหรงซื่อ ทั้งยังเริ่มนับเสียงดังฟึ่บฟั่บอย่างคล่องแคล่วรวดเร็ว
หลังจากนับซ้ำไปซ้ำมาสองรอบ นางก็ใส่กลับลงไปในกล่องไม้ ต่อมาอนุนอกเรือนนายอำเภอผู้นี้ก็แย้มยิ้มบางๆ ให้หรงซื่อ “ทั้งหมดสี่ร้อยใบ เช่นนั้น…ข้าก็ไม่เกรงใจท่านแล้วนะ”
หรงซื่อยังไม่หายเหม่อลอยจากการเคลื่อนไหวนับตั๋วเงินอย่างคล่องแคล่วของอีกฝ่าย แม่นางสกุลเฉียนก็แย้มยิ้มเรียกสาวใช้ร่างอ้วนดำคนหนึ่งให้ยกกล่องไม้ใบนั้นเข้าไปในห้องชั้นใน
พอเห็นแม่นางสกุลเฉียนผู้นี้รับตั๋วเงินเอาไว้หรงซื่อก็วางใจได้อย่างสมบูรณ์ หลังจากจูงมือแม่นางสกุลเฉียนคุยเล่นสัพเพเหระกันอยู่พักหนึ่งนางก็กลับไป
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ทุกสามวันห้าวันหรงซื่อก็จะต้องแวะมารอบหนึ่ง ประดุจเป็นพี่สาวน้องสาวต่างแซ่กับแม่นางน้อยสกุลเฉียนก็ไม่ปาน
ส่วนทางด้านสกุลเยวี่ย พอถึงต้นเดือนก็ตีฆ้องป่าวประกาศเริ่มกลั่นน้ำเค็มมาต้มเกลืออย่างเป็นทางการ หัวหน้าสมาคมเยวี่ยขุยก็ยังเชิญเฉิงเทียนฟู่มาร่วมชมกระบวนการด้วย
เฉิงเทียนฟู่เห็นเพียงน้ำเค็มซึ่งถูกสูบออกมาจากบ่อเกลือไหลคดเคี้ยวตามท่อซึ่งทำจากไม้ไผ่กลวงๆ มาต่อเข้าด้วยกัน จากนั้นก็มีหัวจ่ายตรงหัวมุมแบ่งให้ไหลแยกไปตามหม้อใบใหญ่สำหรับต้มเกลือ
ในที่สุดบ่อเกลือน้อยใหญ่ในอำเภอก้งเซี่ยนก็เริ่มทำงาน สิ่งที่เคี่ยวอยู่ในหม้อต้มเกลือเหล่านี้ก็คือเกลือสำหรับทั่วทั้งใต้หล้า เป็นสีเงินขาวๆ แวววาว
หลายวันมานี้ประตูเรือนหลังเล็กของนายอำเภอเฉิงผู้นั้นมักจะปิดไม่สนิท สะใภ้สกุลเยวี่ยทยอยมอบสิ่งของต่างๆ ให้ไม่น้อย
เยวี่ยขุยใช้ทั้งไม้อ่อนและไม้แข็ง ใช้พระเดชและพระคุณพร้อมๆ กัน คิดเอาเองว่าสามารถสยบนายอำเภอที่มาจากเมืองหลวงผู้นี้ได้แล้ว จึงแย้มยิ้มพลางพูดกับเฉิงเทียนฟู่ว่า “นายอำเภอเฉิง ก่อนหน้านี้ผู้เฒ่าอย่างข้าพูดจาไม่ระมัดระวัง หากมีตรงที่ใดเผลอล่วงเกินเข้า ขอโปรดอภัยด้วย!”
เฉิงเทียนฟู่นั่งพิงอยู่บนเก้าอี้ มองดูภาพความสาละวนวุ่นวายใต้เรือนไม้ไผ่ เอ่ยอย่างไม่ค่อยจริงใจนักว่า “ที่ใดกัน ข้ายังต้องขอบคุณหัวหน้าเยวี่ยด้วยซ้ำที่ไม่ถือสากับเรื่องก่อนหน้านี้ ยอมถ่ายทอดคำสั่งให้เปิดบ่อเกลือน้อยใหญ่เหล่านี้อีกครั้ง หาไม่แล้วหากปล่อยไปอีกสองสามวัน คงจะมีพระราชโองการของฝ่าบาทลงมาถึงอำเภอก้งเซี่ยน ตรัสถามท่านและข้าว่าเหตุใดชาวบ้านถึงไม่มีเกลือกิน”
เยวี่ยขุยยิ้มออกมา “ท่านเองก็ทราบดีว่าเกิดอุบัติเหตุขึ้นในบ่อเกลือ ทำให้เสียเวลาไปช่วงหนึ่ง ข้าสั่งให้คนรีบเร่งจัดการทั้งวันทั้งคืนโดยไม่มีหยุด รีบผลิตเกลือออกมาให้ได้เร็วที่สุด จะกล้ารบกวนให้ฝ่าบาทใส่พระทัยกับเรื่องเล็กน้อยพรรค์นี้ได้อย่างไรกัน แต่ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการผลิตเกลือพอดี อีกไม่นานเรือของกลุ่มค้าเกลือน้อยใหญ่ในอำเภอก้งเซี่ยนก็จะเริ่มขนส่งเกลือแล้ว พอเริ่มขนส่งก็ต้องรีบเร่งทำงานตลอดทั้งวันทั้งคืน จะชักช้าเสียเวลามิได้ ขอใต้เท้านายอำเภอช่วยอนุโลมสักเล็กน้อย ลดความยุ่งยากจากการตั้งด่านตรวจด้วยเถิด จะได้ให้ชาวบ้านในอำเภอก้งเซี่ยนผลิตเกลือได้เยอะขึ้น หาเงินมาจับจ่ายใช้สอยในบ้านได้มากๆ”
วาจานี้เขาเอ่ยอย่างกำกวมยิ่ง แต่ความหมายทั้งทางตรงทางอ้อมก็คือให้เฉิงเทียนฟู่รับเงินไปจัดการธุระให้ ยกเลิกด่านตรวจตามรายทางน้อยใหญ่ทั้งนอกและในอำเภอก้งเซี่ยนไปเสีย
แน่นอนว่านี่หาใช่การอำนวยความสะดวกให้แก่กิจการค้าเกลือหลวงไม่ แต่เป็นการอำนวยความสะดวกให้การค้าขายเกลือเถื่อนต่างหาก อีกฝ่ายบอกเป็นนัยให้เฉิงเทียนฟู่ลืมตาข้างปิดตาข้าง
นี่ก็อธิบายได้อย่างสมเหตุสมผลว่าเหตุใดช่วงก่อนหน้านี้หรงซื่อผู้นั้นถึงยัดเงินใส่เรือนหลังน้อยไม่หยุดหย่อนราวกับสายน้ำไหล
หลังจากปั่นราคาเกลือให้สูงขึ้นได้แล้วเยวี่ยขุยก็อยากจะขายเกลือเถื่อนของตนเองออกไปอย่างราบรื่น ขั้นตอนนี้จะต้องให้นายอำเภอในท้องที่พยักหน้าตกลง ยอมยื่นมือเข้าช่วยเหลือ
ตอนนี้เยวี่ยขุยคิดว่าตนเองสอนเจ้าเด็กจากเมืองหลวงให้รู้จักประพฤติตนเป็นแล้ว ย่อมวางใจกล้าพูดสิ่งที่ต้องการกับเขาเป็นธรรมดา
เฉิงเทียนฟู่ยกมุมปากขึ้นอย่างช้าๆ มองดูอีกฝ่ายพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัย “หัวหน้าเยวี่ยพูดถูกเป็นที่สุด ข้าอยากคิดหาวิธีช่วยให้ชาวบ้านในพื้นที่มีช่องทางทำมาหากินเพิ่มขึ้นแน่นอน…”
ทันใดนั้นเยวี่ยขุยก็คิดว่าตนเองตกลงกับนายอำเภอเฉิงผู้นี้ได้แล้ว จึงเตรียมการวางแผนอย่างสบายอกสบายใจเป็นธรรมดา รอแค่ปล่อยเกลือเถื่อนที่กองพะเนินเป็นภูเขาออกไปเท่านั้น