บทที่ 39-1 วางกับดัก
ตอนที่ข่าวเรื่องเยวี่ยเต๋อเหวยถูกโบยซ้ำยังโดนจับเข้าคุกแพร่มาถึงสกุลเยวี่ย เยวี่ยขุยเองก็กำลังกินข้าวโดยมีอนุภรรยาสองคนคอยปรนนิบัติอยู่เช่นกัน
พอเยวี่ยขุยที่นั่งกินข้าวอยู่ในห้องหนังสือได้ยินว่าบุตรชายถูกโบยจนสลบ เขาก็โกรธจัดจนพลิกโต๊ะตรงหน้าอย่างรุนแรง
“เฉิงเทียนฟู่ตัวดี ข้าอุตส่าห์ให้เกียรติแล้วแต่กลับไม่รับไว้!”
ที่ปรึกษาซึ่งอยู่ข้างๆ เร่งรีบเอ่ยโน้มน้าว “นายท่านโปรดระงับโทสะ ข้าได้ส่งคนไปดูแลคุณชายรองในคุกแล้ว แต่ว่าเฉิงเทียนฟู่ไม่มีหัวคิดถึงเพียงนี้ เกรงว่าคงจะอยู่ร่วมกันลำบาก ท่านต้องคิดหาวิธีช่วยคุณชายรองออกมาให้โดยเร็วดีกว่าขอรับ เขาจะได้ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานอยู่ในคุก”
เยวี่ยขุยบรรเทาโทสะลง เอ่ยว่า “ไป ไปที่ทำการเจ้าเมืองชวนจง เชิญตัวเจ้าเมืองเซี่ยมาสักรอบ ตอนนี้รีบช่วยเต๋อเหวยออกมาก่อน ส่วนเฉิงเทียนฟู่ผู้นี้ข้าไม่ปล่อยเขาไว้แน่!”
พอที่ปรึกษาผู้นั้นได้ยินก็รีบเร่งส่งคนขี่ม้าเร็วไปเชิญเจ้าเมืองเซี่ยทันที
เจ้าเมืองเซี่ยผู้นั้นเป็นลูกศิษย์ของเถียนเสียนจง
แต่เดิมเขาเป็นนายอำเภอของอำเภอก้งเซี่ยน ต่อมาได้เลื่อนตำแหน่งเรื่อยมาจนเป็นเจ้าเมืองชวนจง เป็นนายอำเภอเพียงไม่กี่คนที่สามารถรอดออกไปจากอำเภอก้งเซี่ยนได้
ที่เจ้าเมืองเซี่ยเคราะห์ดีถึงเพียงนี้ย่อมมีหลักการปฏิบัติตนในฐานะขุนนางเป็นของตนเอง นั่นก็คือเกาะขาใหญ่ๆ ของสกุลเถียนเอาไว้แน่น รักษาแหล่งขุมทรัพย์อย่างอำเภอก้งเซี่ยนให้กับท่านกั๋วจิ้ว
เขาทำหน้าที่นี้ได้ดีมาตลอด ทว่าตอนนี้อยู่ดีๆ การค้าขายในอำเภอก้งเซี่ยนกลับมีตัวปัญหาผู้หนึ่งเข้ามาร่วมวง เจ้าเมืองเซี่ยเคยได้ยินเรื่องของเฉิงเทียนฟู่ผู้นี้มาก่อน รู้ว่าตอนอยู่ที่เมืองหลวงเขาไม่ค่อยถูกกับสกุลเถียนสักเท่าใด
ในช่วงแรกที่เฉิงเทียนฟู่ถูกลดตำแหน่งให้มาอยู่ที่อำเภอก้งเซี่ยน เถียนกั๋วจิ้วเคยเขียนจดหมายบอกให้เขารู้เป็นนัยๆ ว่าต้องหาโอกาสจับผิดเฉิงเทียนฟู่ ให้นายอำเภอที่มาใหม่ผู้นี้ล่มจมสู่ก้นบึ้งอยู่ที่อำเภอก้งเซี่ยน อย่าให้โงหัวขึ้นมาได้อีก
บัดนี้หลังจากได้ยินเรื่องที่อีกฝ่ายสั่งโบยบุตรชายคนรองของสกุลเยวี่ย เจ้าเมืองเซี่ยก็รีบร้อนลุกขึ้นมาจากตั่งเตียงของอนุภรรยาที่เพิ่งรับเข้าจวนมาใหม่ เตรียมเรียกเฉิงเทียนฟู่มายังที่ทำการเจ้าเมืองเพื่อตำหนิต่อว่าสักหนึ่งยก
จะว่าไปแล้วอนุภรรยาที่กำลังได้รับความโปรดปรานจากเขาในตอนนี้ก็เป็นม้าผอมหยางโจวที่หัวหน้าสมาคมเยวี่ยเลือกสรรให้ด้วยตนเอง ทั้งรูปโฉมและฝีมือในการปรนนิบัติพัดวีคนล้วนเป็นเลิศทั้งสิ้น
เฉิงเทียนฟู่ผู้นี้ไม่รู้จักประพฤติตนเลยจริงๆ ถ้าหากน้อมรับคำสั่งสอนแต่โดยดี ผลประโยชน์ที่สกุลเยวี่ยจะให้ก็มีมากมายไม่หมดไม่สิ้น ตัวอยู่ที่ชวนจง สวรรค์สูงฮ่องเต้ห่างไกลเหตุใดเขาถึงไม่รู้จักใช้ชีวิตให้สุขสบายสักหน่อยเล่า
เจ้าเมืองเซี่ยมีฐานะที่เป็นผู้บัญชาการเบื้องบนของเฉิงเทียนฟู่ ย่อมไม่อาจไม่พบได้
สองวันมานี้เฉิงเทียนฟู่เพิ่งจะตัดไหมที่แขนออก หลังจากฝึกฝนเพลงหมัดมวยไปหนึ่งชุดก็พาหลิ่วจือหว่านไปที่เมืองจิ่นเฉิงของชวนจงเพื่อพบเจ้าเมืองด้วยกัน
สาเหตุที่เขาพาหลิ่วจือหว่านมาด้วยเป็นเพราะตั้งแต่นางมาถึงอำเภอก้งเซี่ยน วันๆ ก็ได้แต่เดินเที่ยวไปตามตลาดไม่กี่แห่งที่อยู่ตามหัวถนนและหลังบ้านเท่านั้น
นานๆ ทีจะมีเวลาว่างได้เข้าเมืองจิ่นเฉิงสักครั้ง ถือเป็นการพาหลิ่วจือหว่านไปเดินเล่นพักผ่อนหย่อนใจพอดี จะได้ให้นางดูวิถีชีวิตความเป็นอยู่อันเป็นเอกลักษณ์ของแถบชวนจงด้วยเช่นกัน
ระหว่างที่เขาไปยังที่ทำการเจ้าเมือง หลิ่วจือหว่านก็ดื่มน้ำชารออยู่ในโรงน้ำชาซึ่งอยู่อีกฟากของถนน
ส่วนเฉิงเทียนฟู่นั้นหลังจากเข้าพบเจ้าเมืองเซี่ย ผู้บัญชาการเบื้องบนของเขาก็ตีหน้าถมึงทึงแล้วสั่งให้เขาปล่อยตัวคนเสีย
เฉิงเทียนฟู่เลิกคิ้วขึ้นพร้อมเอ่ยถาม “เจ้าเมืองเซี่ยไม่ถามต้นสายปลายเหตุ แต่เปิดปากสั่งให้ข้าน้อยปล่อยตัวคนทันที มีเหตุผลอันใดหรือ”