บทที่ 39-3 วางกับดัก
คดีที่นายอำเภอผู้นั้นถูกสังหารเมื่อครั้งกระโน้นสุดท้ายสรุปเอาว่าเป็นฝีมือของพวกโจรป่า แล้วแจ้งเรื่องขึ้นสู่ราชสำนัก ซ้ำต่อมาสกุลเยวี่ยยังเป็นหัวหอกบริจาคเงินทองสนับสนุนปฏิบัติการปราบปรามโจรป่าอย่างใหญ่โตเอิกเกริกแล้วก็ปล่อยให้เรื่องจบไปทั้งอย่างนั้น
หากมิใช่เพราะเฉิงเทียนฟู่เตรียมการป้องกันเอาไว้แต่เนิ่นๆ ก็ไม่รู้ว่าพอคนชั่วกลุ่มนี้เข้าเรือนมาได้จะขโมยเพชรนิลจินดาหรือว่าศีรษะบนคอคนกันแน่
เพราะเหตุการณ์ในครั้งนี้จึงแทบไม่มีคนออกมาจากประตูเรือนสกุลเฉิงมาหลายวันแล้ว ดูเหมือนนายอำเภอเฉิงจะออกคำสั่งห้ามไม่ให้คนในครอบครัวออกไปข้างนอก จะได้ไม่ประสบเหตุมิคาดฝันเข้า
แม้แต่ผักและเนื้อสำหรับทำอาหารสามมื้อในแต่ละวันก็ไม่ได้ไปซื้อตามตลาด แต่ให้ข้างนอกนำมาส่งให้แทน ทำตัวเหมือนกับเป็นกระต่ายตื่นตูมก็มิปาน
พอเยวี่ยขุยได้ยินคำรายงานของลูกน้องก็แค่นเสียงฮึอย่างเย็นชา ที่นี่สวรรค์สูงฮ่องเต้ห่างไกล ไร้ซึ่งข้อบังคับต่างๆ นานาของกฎหมายบ้านเมือง อาศัยก็แต่เส้นสายกว้างไกล คมดาบเร็วไว เงินทองหนาหนัก
ถึงครั้งนี้เขาจะปล่อยให้เจ้าคนแซ่เฉิงรอดชีวิตไปได้ แต่ก็พอจะทำให้อีกฝ่ายตกใจจนอกสั่นขวัญหายได้แล้ว
ทว่าเจ้าคนแซ่เฉิงไม่มีทางซ่อนตัวอยู่ในกำแพงสูงของเรือนหลังเล็กๆ ไปได้ตลอดชีวิต อย่างไรก็ตาม หากไม่เอาศีรษะของอีกฝ่ายมาแขวนไว้นอกประตูเมือง สกุลเยวี่ยก็คงสร้างความน่ายำเกรงในอาณาเขตอำเภอก้งเซี่ยนไม่ได้อีกต่อไป
เขาส่งคนไปจับตาดูความเคลื่อนไหวในเรือนสกุลเฉิง ในที่สุดช่วงกลางเดือนก็ได้รับรายงานจากสายสืบว่าระยะนี้นายอำเภอเฉิงออกไปทำงานที่ที่ทำการตรงเวลาทุกวัน บางครั้งพอถึงตอนเที่ยงวันก็จะไปเดินเล่นเป็นเพื่อนอนุนอกเรือนของเขา
ดังนั้นในตอนที่นายอำเภอเฉิงไปเดินเที่ยวเล่นกับคนร่วมบ้านของเขาหลังจากกินอาหารเสร็จแล้ว ก็มีชาวยุทธ์ร่างสูงใหญ่กำยำสามคนสวมงอบปิดบังหน้าตา ลอบโจมตีพวกเขาซึ่งๆ หน้าอย่างกะทันหัน
ครั้งนี้คนที่เยวี่ยขุยส่งไปเป็นยอดฝีมือชั้นเลิศสามคน หนึ่งในนั้นยังมีมือสังหารที่คราวก่อนฟันแขนของเฉิงเทียนฟู่จนได้รับบาดเจ็บสาหัสอีกด้วย
การก่อเหตุกลางถนนเช่นนี้จำเป็นต้องกระทำการอย่างรวดเร็วฉับไวไม่ให้ทันได้ตั้งตัว มือสังหารกระโจนพุ่งตรงเข้าไป แทงกริชใส่เฉิงเทียนฟู่อย่างรวดเร็วเพียงไม่กี่ครั้งก็เป็นแผลเปิดขนาดใหญ่โลหิตเจิ่งนองแล้ว ตัวคนยังไม่ทันล้มถึงพื้น พวกเขาก็จะหนีจากไปอย่างรวดเร็ว หายลับไปอย่างไร้ร่องรอย
เดิมทีชาวยุทธ์ผู้นั้นคิดว่าครั้งนี้จะสามารถเอาชีวิตขุนนางสารเลวได้อย่างง่ายดาย ทว่าเพิ่งจะแทงกริชเข้าใส่ ก็ถูกเฉิงเทียนฟู่ใช้ท่ากรงเล็บอินทรีตะปบคว้าไหล่ด้านหลังเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นก็ได้ยินเสียงดังเป๊าะ เฉิงเทียนฟู่หักแขนของคนผู้นั้นจนผิดรูป!
ตอนนั้นเป็นช่วงสายที่ตลาดกำลังคึกคักพอดี เยวี่ยขุยเจตนาจะสร้างความน่าเกรงขาม จึงต้องการจะสังหารคนกลางวันแสกๆ เช่นนี้เพื่อเป็นการเชือดไก่ให้ลิงดู
แต่สุดท้ายกลายเป็นว่าประชาชนชาวอำเภอก้งเซี่ยนเห็นนายอำเภอเฉิงซึ่งปกติดูสุภาพเรียบร้อยกลับยกอาวุธตวัดฟาดฟัน ใช้กระบี่แทงบนร่างมือสังหารผู้นั้นจนทะลุราวกับกำลังหยอกแมวล้อสุนัขก็ไม่ปาน แต่ละกระบี่ล้วนหลีกเลี่ยงจุดสำคัญ แต่กลับเลือกทำให้แขนขาใช้การไม่ได้ ตัดเส้นเอ็นที่ข้อให้ขาดจนหมดสิ้น
ส่วนอนุนอกเรือนรูปโฉมงามแฉล้มเปราะบางของเขาก็ท่าทางเหมือนกับเห็นแล้วคันไม้คันมือ ภายใต้การห้อมล้อมคุ้มกันขององครักษ์ นางปลดธนูคันน้อยออกมาจากข้างเอว ท่วงท่าองอาจห้าวหาญ เล็งเป้าอย่างสงบเยือกเย็น จากนั้นก็ปล่อยลูกธนูออกไปติดๆ กันหลายดอก ปักตรงเข้าใส่ดวงตาของอีกสองคนที่เหลือ
ภาพเหตุการณ์นองเลือดนี้ทำให้พวกสตรีที่อยู่ข้างถนนล้วนรีบปิดตาบุตรหลานของตนเองทันที