ทดลองอ่าน ซ่อนกลิ่น บทที่ 51.1-51.3 – หน้า 2 – Jamsai
Connect with us

Jamsai

ซ่อนกลิ่น

ทดลองอ่าน ซ่อนกลิ่น บทที่ 51.1-51.3

คราวนี้หลิ่วจือหว่านก็ได้เห็นใบหน้าของบุรุษที่หันกายมาผู้นั้นอย่างชัดเจน…คิ้วเข้ม ดวงตาใสกระจ่าง จมูกตั้งโด่ง ริมฝีปากบางเฉียบนั่นชวนให้คนเห็นแล้วมิอาจตัดใจเบนสายตาหนีไปได้จริงๆ…

แต่ว่าในขณะนี้เองสตรีอีกสองคนก็เข้ามาเกาะแกะรบเร้าเขาอย่างไม่ยอมเลิกรา ปากก็พร่ำบ่นว่า “ท่านกล้าเสียมารยาทกับพี่สาวข้ารึ! ถ้าไม่จ่ายค่ายารักษามาก็อย่าคิดหนี! ใครก็ได้ มีบุรุษทำร้ายสตรี!”

คำโบราณกล่าวไว้ว่าบุรุษยากจะต่อกรกับสตรีปากร้าย เวลาเพียงไม่นานบุรุษผู้หล่อเหลาดุจหยกก็ถูกสตรีที่ผัดแป้งทาชาดราคาถูกกลิ่นฉุนจมูกกลุ่มหนึ่งห้อมล้อมเอาไว้อย่างแน่นหนา

หนิงเยียนที่เพิ่งจะมุดออกมาจากกระโจมยังไม่ทันจะหาวเสร็จก็เห็นคุณหนูของนางสาวเท้าไปทางถนนด้วยสีหน้าเหี้ยมเกรียมอย่างฉับพลัน ตอนที่เดินผ่านหม้อหุงอาหารยังถือโอกาสหยิบมีดทำครัวข้างๆ กองไฟที่เมื่อวานใช้หั่นผักขึ้นมา พุ่งตรงไปยังกลุ่มหญิงคณิกาอย่างขาดสติ

“ปล่อยมือเสีย! ใครกล้าแตะต้องเขาก็ลองดู!”

เมื่อมาถึงด้านข้างกลุ่มคน หลิ่วจือหว่านก็ตะคอกเสียงดังลั่น กวัดแกว่งมีดทำครัวแล้วพุ่งเข้าใส่ทันที

สตรีเหล่านั้นหันหน้ามาเห็นมีดทำครัวที่น่าครั่นคร้ามก็ตื่นตกใจจนกรีดร้อง ถอยหนีแตกฮือกันไปหมด

บุรุษรูปโฉมหล่อเหลาซึ่งเดิมทีบริเวณหว่างคิ้วเต็มไปด้วยความรำคาญใจ หลังจากเห็นสีหน้าที่กำลังเดือดดาลของหลิ่วจือหว่านชัดเต็มสองตาก็อึ้งงันไปเช่นกัน

“หวานหว่าน…เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร”

หลิ่วจือหว่านมองแผ่นอกของเขาอย่างเยียบเย็น…แม้จะมองผ่านเสื้อผ้าขวางกั้นก็ยังดูกำยำน่าลูบคลำยิ่ง หากเมื่อครู่นางมองไม่ผิด สตรีคนนั้นได้ลูบแผงอกของเขาไปไม่น้อย!

ในเวลานี้สตรีที่เป็นผู้นำคนนั้นก็ปัดฝุ่นบนร่างกายออกแล้วเดินเข้ามา นางอาศัยว่าตนเองมีคนมากกว่า ไม่เห็นสตรีที่กำลังถือมีดทำครัวผู้นี้อยู่ในสายตาแม้แต่น้อย เพียงเลิกคิ้วพร้อมกับหัวเราะเสียงแหลมเอ่ยขึ้น

“โอ้ ที่แท้ก็พาสตรีคนรักมาด้วยนี่เอง ใบหน้าเล็กๆ นี่งดงามไม่เลว แต่ว่าปรนนิบัติบุรุษเก่งเท่าข้าหรือไม่ ว่าอย่างไร ทำร้ายคนแล้วก็คิดจะหนีรึ ข้าจะบอกเจ้าให้ เมื่อครู่นี้เขาแตะต้องตัวข้า! ถ้าไม่จ่ายเงินมาก็อย่าคิดที่จะหนี!”

เฉิงเทียนฟู่คิดไม่ถึงว่าจะได้พบหลิ่วจือหว่านที่นี่ มิหนำซ้ำนางยังเห็นภาพเหตุการณ์ตอนที่ตนเองถูกหญิงคณิกาข้างถนนกลุ่มนี้ตามตอแยอีก ขณะที่เขากำลังจะอธิบายกลับถูกหลิ่วจือหว่านผลักไปอยู่ข้างหลังอย่างแรง จากนั้นก็เห็นญาติผู้น้องซึ่งยามปกติถือว่าเป็นคนสุภาพนุ่มนวลของเขาใช้สันมีดทำครัวตบๆ แก้มสตรีคนนั้นพร้อมเอ่ยด้วยท่าทีเย็นชา

“เขาเป็นสามีแต่งเข้าของข้า ข้าใช้เงินทองซื้อตัวเขามา เจ้าเป็นตัวอันใดถึงได้มาลูบคลำเขาโดยไม่แม้แต่จะถามสักคำเดียว”

สตรีคนนั้นอึ้งงันไปพักหนึ่ง ไม่คาดคิดสักนิดว่าบุรุษที่ดูผึ่งผายองอาจเช่นนี้จะเป็นเขยแต่งเข้าของผู้อื่น นางพูดอันใดไม่ออกไปชั่วขณะ หลังจากนั้นก็ส่งเสียงร้องแหลมราวกับแม่ไก่ออกมา

“แล้วอย่างไรเล่า ชายหญิงชั่วช้าอย่างพวกเจ้าวางแผนกันหลอกข้า ข้ายังต้องจ่ายเงินให้พวกเจ้าด้วยรึ”

หลิ่วจือหว่านพูดต่อไปอย่างเย็นเยียบ “อยู่ให้ห่างๆ จากเขาเสีย หาไม่แล้วถ้ามือข้างใดของพวกเจ้าแตะต้องเขา ข้าก็จะสับมือข้างนั้น!”

สตรีที่มาจากแหล่งเริงรมย์เหล่านี้ล้วนเป็นมือฉมังในการทะเลาะตบตีทั้งสิ้น แต่ละคนต่างก็ฝึกปรือฝีมือมาจากบ่าวรับใช้ชายในหอคณิการวมไปถึงลูกค้าที่มาใช้บริการ ไฉนเลยจะตกใจกลัวเด็กสาวตัวเล็กๆ ผู้หนึ่งได้

พอพวกนางเปิดปากด่าทอก็สกปรกหยาบคายจนคนทนฟังเข้าหูไม่ได้

เฉิงเทียนฟู่ทนไม่ไหวอีกต่อไป เขาดึงร่างหลิ่วจือหว่านไว้ ในขณะที่เตรียมจะปกป้องนางเอาไว้ข้างหลัง จิ้นเป่าก็ปรี่ถลาเข้ามา กระชากสตรีที่เป็นตัวตั้งตัวตีเอาไว้แล้วถลึงตาเอ่ยขึ้น

“กล้าด่าทอคุณหนูของข้ารึ นางชั้นต่ำ!”

พอจิ้นเป่าโมโหขึ้นมานางก็เอาภาษาสำหรับด่าคนที่เรียนรู้จากอำเภอก้งเซี่ยนออกมาใช้จนหมด ต่อมาก็กระชากผมของสตรีคนนั้นแล้วกดร่างลงกับพื้น

คราวนี้กลายเป็นเรื่องวุ่นวายขึ้นมาแล้ว ชายฉกรรจ์ร่างใหญ่กำยำที่บังคับรถม้าให้หญิงคณิกาเหล่านี้ซึ่งอยู่ว่างๆ กำลังดื่มสุรามองดูเหตุการณ์อยู่อีกด้านหนึ่งก็ค่อยๆ พากันลุกขึ้นแล้วเดินเข้ามา

จิ้นเป่ารู้ว่าด้วยฐานะของแม่ทัพเฉิงกับคุณหนูแล้ว ไม่ว่าใครก้าวออกมาทะเลาะเบาะแว้งกับสตรีต่ำทรามเหล่านี้ก็ไม่เหมาะสมทั้งสิ้น

ดังนั้นนางจึงขึ้นคร่อมร่างสตรีคนนั้นพร้อมตบตีอีกฝ่ายไปพลางหันหน้าเอ่ยกับหลิ่วจือหว่านไปพลางว่า “คุณหนู พวกท่านกลับไปกินอาหารเช้าก่อนเถิดเจ้าค่ะ ประเดี๋ยวข้าก็ตบเสร็จแล้ว”

ตอนนี้เองพวกนายท่านรองสกุลเฉินก็เดินเข้ามา พอเห็นเฉิงเทียนฟู่ก็มีสีหน้ายินดีเช่นเดียวกัน

พวกนายท่านรองสกุลเฉินเป็นคนมีประสบการณ์มาก เหตุโกลาหลวุ่นวายตรงหน้าก็สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย หลังจากไกล่เกลี่ยระคนข่มขู่ไปหนึ่งยก พร้อมทั้งให้เงินสตรีที่ถูกทำร้ายไปสองสามตำลึง ในที่สุดก็หยุดเหตุทะเลาะวิวาทลงได้

เฉิงเทียนฟู่เองก็ไม่สนใจเหตุการณ์ยุ่งเหยิงที่อยู่ด้านหลังเช่นกัน เขาเพียงแต่จูงมือของหลิ่วจือหว่านเอาไว้ เดินกลับไปที่จุดตั้งกระโจมพลางถาม

“เจ้ามาได้อย่างไรกัน”

หลิ่วจือหว่านล้วงผ้าเช็ดหน้าออกมาปัดเศษฝุ่นที่มองไม่เห็นตรงอกของเขาเล็กน้อย เอ่ยด้วยสีหน้ามึนตึงว่า “ปกติไม่เห็นท่านจะยิ้มให้ใคร แต่พออยู่ข้างนอกกลับทำตัวดึงดูดคนเช่นนี้ อีกนิดเดียวสตรีคนนั้นจะจ่ายเงินเลี้ยงดูท่านแล้ว”

ที่ผ่านมาเฉิงเทียนฟู่ไม่เคยเห็นหลิ่วจือหว่านหึงหวงเช่นนี้มาก่อน

เมื่อก่อนตอนอยู่ที่อำเภอก้งเซี่ยน ถึงแม้นางจะดีกับเขาเช่นกัน แต่ท่าทีดูเหมือนเป็นเพราะไมตรีจิตล้นพ้นยากจะปฏิเสธและอยากจะตอบแทนบุญคุณมากกว่า ทำให้เขาไม่อาจแน่ใจได้ในทันทีว่านางรักใคร่เขาจริงๆ หรือว่าเป็นเพราะความผูกพันฉันพี่น้องที่เติบโตมาด้วยกันตั้งแต่เยาว์วัยถึงได้อยู่กับเขาด้วยความเคยชิน

ในช่วงที่อารมณ์สิเน่หาคุกรุ่น เขาก็ได้รับรู้ว่านางกำลังยับยั้งตนเองอยู่เช่นกัน

แต่ว่าในยามนี้เด็กสาวที่สีหน้าแววตามีแต่ความหึงหวงช่างชวนให้คนรู้สึกอบอุ่นหัวใจเหลือเกิน

หลิ่วจือหว่านกำลังพูดอย่างโมโห แต่พอเงยหน้าขึ้นมากลับเห็นญาติผู้พี่สกุลเฉิงของนางยิ้มอย่างเบิกบานไปแล้ว ภาพที่เขาสุขสันต์เปรมปรีดิ์แย้มยิ้มระรื่นเช่นนี้ หากสตรีเหล่านั้นเห็นเข้าเกรงว่าคงจะโยนเงินใส่หน้าเขาแน่นอน!

นางโมโหจนคำพูดติดอยู่ในลำคอ ได้แต่ถลึงตาใส่เขา เฉิงเทียนฟู่อุ้มนางขึ้นมาทันใด หมุนตัวหนึ่งรอบอย่างอดไม่อยู่ ก่อนจะจุมพิตลงบนพวงแก้มงามของนางหนึ่งครา

กลิ่นหอมชื่นใจลอยเข้ามาแตะจมูก เฉิงเทียนฟู่รู้สึกว่าทั่วทั้งสรรพางค์กายล้วนรู้สึกร้อนรุ่มอย่างมิอาจบรรยายเป็นคำพูดได้

ในยามเช้าตรู่ที่แสงแรกอรุณค่อยๆ โผล่พ้นขอบนภานี้ หวานหว่านของเขาคือน้ำค้างหวานล้ำที่เจิดจ้าสะดุดตาที่สุดในใต้หล้านี้ เขาอยากจะอมเอาไว้ที่ปลายลิ้น หลอมละลายเอาไว้ในก้นบึ้งหัวใจจนใจจะขาดอยู่แล้ว

หลิ่วจือหว่านออกแรงดิ้นอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุด พอถูกเขาจับแกว่งไปมา สุดท้ายก็ระเบิดเสียงหัวเราะออกมา

ทว่าจู่ๆ นางก็นึกถึงเรื่องสำคัญขึ้นมาได้ ไม่รู้ว่าเหตุใดเขาถึงมาปรากฏตัวที่นี่ ดังนั้นจึงเอ่ยถามเสียงแผ่วเบา “ท่านได้รับจดหมายนกพิราบจากรัชทายาทถึงได้มาที่นี่หรือ”

เฉิงเทียนฟู่ส่ายหน้า “ข้าปฏิบัติงานอยู่ข้างนอกมาตลอด ไม่ได้กลับไปที่ด่านเหยียนสุ่ย ทางเมืองหลวงมีเรื่องเร่งด่วนอันใดหรือ”

เขาผ่านมาที่นี่ระหว่างที่กำลังปฏิบัติงานอยู่ พอเห็นสตรีที่แต่งตัวงดงามเพริศพริ้งกลุ่มใหญ่อยู่ข้างทางก็เกิดความสงสัยขึ้นมาในใจถึงได้ลงมาสอบถาม แต่ไม่คิดว่าจะพบกับพวกหลิ่วจือหว่านเข้าพอดี

หลังจากหลิ่วจือหว่านเล่าเหตุการณ์ต่างๆ ในเมืองหลวงให้ฟังอย่างสั้นกระชับแล้ว เฉิงเทียนฟู่ขมวดคิ้วฟัง จากนั้นก็เอ่ยเสียงต่ำเบา

“น่าแปลก…”

หลิ่วจือหว่านเอ่ยถาม “แปลกอันใดหรือ”

เฉิงเทียนฟู่ชี้ไปยังหญิงคณิกาที่วิ่งกลับไปยังจุดตั้งกระโจมของตนเองเรียบร้อยแล้วกลุ่มนั้น เปิดปากพูดว่า “เจ้าเองก็เห็นสตรีกลุ่มนั้นแล้ว เมื่อครู่ข้าถามพวกนาง พวกนางจะมุ่งหน้าไปทางด่านเหยียนสุ่ย ในพื้นที่ที่กำลังเกิดการสู้รบเช่นนี้ยังมีหญิงคณิกามาเรียกลูกค้าหารายได้อีก ไม่แปลกหรือ”

ในตอนนี้เองพวกนายท่านรองสกุลเฉินกับจิ้นเป่าก็กลับมาแล้วเช่นกัน

พอจิ้นเป่าได้ยินก็พูดแทรกว่า “เพราะสถานที่ที่มีค่ายทหารถึงจะมีลูกค้าเจ้าค่ะ! ชายฉกรรจ์กลุ่มใหญ่ที่จากบ้านมา พวกนางไม่ต้องเรียกลูกค้าก็โผล่มาด้วยตนเอง เมื่อก่อนตอนข้าอยู่ที่ท่าเรือ ถ้าที่ใดรับสมัครทหาร ไม่นานก็จะมีมามารวบรวมสตรีกลุ่มหนึ่งนั่งเรือไปตั้งกระโจมที่นั่น ดูท่าทางพวกนางแล้วคงจะไปที่ด่านเหยียนสุ่ยกระมัง”

หลิ่วจือหว่านส่ายหน้า ไม่เห็นด้วยกับคำพูดของจิ้นเป่า เพราะด่านเหยียนสุ่ยในตอนนี้แตกต่างจากเมื่อก่อนที่เพียงรวบรวมระดมกำลังทหารเท่านั้น หากแผ่นดินสงบสุขไร้สงคราม มีหญิงคณิกาไปทำงานเลี้ยงชีพก็ไม่ใช่เรื่องแปลกแต่อย่างใด

ทว่าสถานการณ์ที่ด่านเหยียนสุ่ยในตอนนี้ตึงเครียดรุนแรงถึงเพียงนั้น ปืนใหญ่ดังขึ้นไม่ขาดระยะ แต่กลับยังมีสตรีหลายคันรถมุ่งหน้าไปที่นั่นอย่างไม่กลัวตายเช่นนี้ ช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย

นี่ก็เป็นสาเหตุที่หลิ่วจือหว่านรู้สึกสับสนงุนงงจนเมื่อวานต้องคอยจับตาดูสตรีเหล่านี้เอาไว้ตลอดเวลา

นางรู้ว่ามีคนวางอุบายกับขี้ผึ้งที่พลทหารพกติดกายไว้ อยากจะทำลายชื่อเสียงของขุนพลผู้ปกป้องด่านเหยียนสุ่ย จึงสงสัยว่าเหตุใดถึงมีหญิงคณิกาหลายคันรถเดินทางไปที่ด่านเหยียนสุ่ย เป็นเพราะมีคนจงใจวางแผนเอาไว้เช่นกันใช่หรือไม่

พอเฉิงเทียนฟู่ได้ยินวาจาของนางก็พูดว่าอีกไม่กี่วันผู้สังเกตการณ์กองทัพที่ฝ่าบาทส่งมาก็จะมาตรวจสอบสถานการณ์การศึกที่ด่านเหยียนสุ่ย

ถ้าหากใต้เท้าผู้สังเกตการณ์กองทัพเห็นว่าระหว่างทางมีกระโจมหลังน้อยของหญิงคณิกา มิหนำซ้ำยังมีหญิงคณิกากระจายกันเกาะกลุ่มเต็มไปหมดจะรู้สึกเช่นไรเล่า

เขาย่อมคิดว่าพลทหารของด่านเหยียนสุ่ยมักจะออกจากด่านไปหลับนอนกับสตรีเหล่านี้เป็นประจำ ถึงได้ทำให้สตรีมากมายเช่นนี้มาปักหลักรออยู่ที่นี่โดยไม่กลัวเกรงภัยสงคราม

พอถึงเวลานั้นในกองทัพมีโรคที่ดูคล้ายกับผื่นหยางเหมยปรากฏขึ้นก็จะเป็นการยืนยันว่าแม่ทัพเฉินเสวียนปกครองกองทัพไม่เข้มงวดกวดขันจริงๆ มิใช่หรือ

หลิ่วจือหว่านพูดเสียงต่ำ “ต้องส่งคนไปขับไล่พวกนางหรือไม่”

เฉิงเทียนฟู่มองดูอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็แย้มยิ้มออกมาเล็กน้อย เขามีรูปลักษณ์หล่อเหลาน่ามอง ยามเขายิ้มบางๆ ก็ราวกับมีท่าทีสุภาพงามสง่าแฝงอยู่ในตัว

แต่รอยยิ้มเมื่อครู่นั้นหลิ่วจือหว่านกลับมองออกว่ามีความชั่วร้ายแฝงอยู่หลายส่วน “แม่นางเหล่านี้ล้วนลำบากดั้นด้นตามมาถึงที่นี่ หากปล่อยให้พวกนางกลับไปโดยที่ไม่ได้เงินจะไม่เสียเที่ยวแย่หรือ”

หลังจากนั้นเขาก็โบกมือเรียกนายท่านรองสกุลเฉินเข้ามา กระซิบกับอีกฝ่ายเสียงเบาหนึ่งรอบ

นายท่านรองสกุลเฉินพยักหน้า จากนั้นก็พาลูกน้องสองคนถือสุราขาวที่พกติดกายมาสองกาพร้อมด้วยเนื้อตากแห้งชิ้นหนึ่งเดินไปยังจุดตั้งกระโจมของหญิงคณิกา

Comments

comments

No tags for this post.
Continue Reading

More in ซ่อนกลิ่น

  • ซ่อนกลิ่น

    ทดลองอ่าน ซ่อนกลิ่น บทที่ 50.1-50.3

    By

    บทที่ 50-1 สังหารคนปิดปาก  ในเรือนชั้นในส่วนมากมีแต่สาวใช้อายุน้อย ล้วนแต่ลงนามสัญญาขายตัวชั่วชีวิตทั้งสิ้น เนื่องจากระยะนี้เพิ่งจะตั้งจวน ท...

  • ซ่อนกลิ่น

    ทดลองอ่าน ซ่อนกลิ่น บทที่ 39.1-39.3

    By

    บทที่ 39-1 วางกับดัก ตอนที่ข่าวเรื่องเยวี่ยเต๋อเหวยถูกโบยซ้ำยังโดนจับเข้าคุกแพร่มาถึงสกุลเยวี่ย เยวี่ยขุยเองก็กำลังกินข้าวโดยมีอนุภรรยาสองคน...

  • ซ่อนกลิ่น

    ทดลองอ่าน ซ่อนกลิ่น บทที่ 38.3-38.4

    By

    บทที่ 38-3 ไม้อ่อนไม่ชอบ ชอบไม้แข็ง พอตอนกลางคืนเฉิงเทียนฟู่กลับมาบ้าน เขากำลังล้างหน้าอยู่ใต้โครงไม้เลื้อยในลานบ้าน หลิ่วจือหว่านที่ให้อาหา...

  • ซ่อนกลิ่น

    ทดลองอ่าน ซ่อนกลิ่น บทที่ 38.1-38.2

    By

    บทที่ 38-1 ไม้อ่อนไม่ชอบ ชอบไม้แข็ง หลิ่วจือหว่านเห็นว่านางเหมือนจะไม่อยากพูดมากไปกว่านี้ จึงแย้มยิ้มพร้อมกับจ่ายเงิน แล้วเดินออกมาจากแผงพร้...

  • ซ่อนกลิ่น

    ทดลองอ่าน ซ่อนกลิ่น บทที่ 26.3

    By

    บทที่ 26-3 น้ำแกงบำรุง ในวันนี้หลิ่วจือหว่านกำลังเตรียมจะออกจากจวนไปดูเรือขนสินค้าส่งมอบของที่ท่าเรือ เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูกลับพบว่าญาติผู...

  • ซ่อนกลิ่น

    ทดลองอ่าน ซ่อนกลิ่น บทที่ 26.1-26.2

    By

    บทที่ 26-1 น้ำแกงบำรุง เซิ่งเซียงหลันกลัวเกรงพี่สาวอยู่บ้าง ซ้ำตนเองก็เป็นฝ่ายผิด พอถูกนางตำหนิต่อว่าก็อัดอั้นโทสะเอาไว้เต็มท้อง สุดท้ายก็ระ...

  • ซ่อนกลิ่น

    ทดลองอ่าน ซ่อนกลิ่น บทที่ 25.3-25.5

    By

    บทที่ 25-3 คาดคั้นเอาผิด ในขณะที่เขากำลังสอบสวนอยู่นั้น เฉิงเผยเหนียนก็ไล่ตามมาถึงอย่างกระหืดกระหอบ ทีแรกเฉิงเผยเหนียนเข้ามาในจวนไม่ได้ เขาถ...

บทความยอดนิยม

everY

ทดลองอ่าน เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 Chapter 2.1-2.2 #นิยายวาย

ทดลองอ่าน เรื่อง เขตห้ามรักฉบับเบต้า เล่ม 1 ผู้เขียน : MINTRAN แปลโดย : ทันบี ผลงานเรื่อง : 배타적 연애 금지구역 ถือเป็นลิขสิทธิ์...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 1-2

บทที่ 1 อาจเป็นเพราะสภาพอากาศขมุกขมัวหนาวเย็นยาวนานถึงครึ่งปี ทำให้เครื่องหอมเป็นที่โปรดปรานของชาวต้าเว่ย ได้เติมเครื่อง...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 3-4

บทที่ 3 คนที่เพิ่งเดินเข้ามาผู้นี้คือซูลั่วอวิ๋น บุตรสาวคนโตที่ถูกขับไล่ไสส่งกลับบ้านเดิมนั่นเอง นิ้วชี้ของซูหงเหมิงยื่น...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน หอมเกศา บทที่ 5-7

บทที่ 5 หลังจากเซ่นไหว้บรรพบุรุษที่เรือนหลังเก่าและบรรยากาศวันปีใหม่เพิ่งผ่านพ้นไป เหล่าเจ้านายสกุลซูก็เตรียมเดินทางกลับ...

ทดลองอ่าน

ทดลองอ่าน ม่านฝันคืนวสันต์รัญจวน บทที่ 1-2

บทที่ 1 แม่น้ำฉินไหว นกขมิ้นและดอกไม้ในเดือนสองทำให้ฤดูใบไม้ผลิแลดูงดงาม แม่น้ำฉินไหวในเมืองจินหลิงเป็นสถานที่ซึ่งมีทิวท...

community.jamsai.com