ซ่อนรักชายาลับ
ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 10-บทที่ 12
บทที่ 10
ความแค้นเคืองของมารดาส่งอำนาจโดยอ้อมถึงเหลียนปิ่งหลัน ดังนั้นระหว่างญาติผู้พี่สองคนอย่างชุยสิงโจวกับจ้าวเฉวียน เหลียนปิ่งหลันจึงเลือกคนแรกอย่างไม่ลังเล เหตุผลไม่มีอื่น นิสัยของจ้าวเฉวียนคล้ายกับเหลียนหานซานบิดานางมากเกินไป ใช้ชีวิตผ่านไปวันๆ ปราศจากความทะเยอทะยาน เป็นพวกไม่มีความสามารถใดทั้งนั้น
นางไม่อยากเป็นเหมือนมารดาที่มองดูเกียรติยศของผู้อื่น วันๆ เอาแต่ตัดพ้อฟ้าตัดพ้อคน
ดังนั้นนางจึงทำความเข้าใจนิสัยกับความชอบของญาติผู้พี่แต่เนิ่นๆ รู้ว่าเขาชอบหญิงสาวที่อ่อนโยนว่าง่าย กตัญญูต่อมารดา ดังนั้นนางจึงคล้อยตามท่านป้าไปเสียทุกเรื่องจนได้รับความเอ็นดูจากฉู่ไท่เฟย ในที่สุดก็จะได้แต่งเข้าจวนอ๋อง นับว่าชดเชยความเสียใจทั้งชีวิตของมารดา
ขอเพียงควบคุมท่านป้าไท่เฟยได้ ต่อให้ดอกไม้ข้างนอกจะสีสันจัดจ้านกว่านี้ก็ไม่มีทางสั่นคลอนตำแหน่งของนาง
คิดมาถึงตรงนี้เหลียนปิ่งหลันก็วางใจลงได้ รู้สึกว่าก่อนหน้านี้ตนไม่ควรหวั่นไหวไปตามมารดา ใช้ลูกไม้ชั้นต่ำ ตอนนี้มืดแล้วนางควรรีบนอนเสียที วันพรุ่งนี้จะได้สดชื่นแจ่มใสรับมือกับแม่สามีในอนาคต แล้วก็จะให้ญาติผู้พี่เห็นความดีของตนด้วย…
เพราะว่างานวันคล้ายวันเกิดของฉู่ไท่เฟยกำลังจะมาถึง พี่สาวที่แต่งงานไปไกลของชุยสิงโจว ชุยฝูจึงพาจิ่นเอ๋อร์บุตรชายวัยสองขวบของตนกลับมาบ้านเดิมด้วย
สามีของนางคือบุตรชายคนโตของชิ่งกั๋วกง จวนก็ตั้งอยู่ที่ฉงโจวซึ่งอยู่ต่างมณฑล กว่าจะได้กลับมาสักครั้งนั้นไม่ง่าย
อาศัยโอกาสก่อนหน้างานเลี้ยง ชุยฝูต้อนรับชุยสิงโจวที่มาเยี่ยมหลานชายจิ่นเอ๋อร์โดยเฉพาะพลางยิ้มถาม “เมื่อไม่กี่วันก่อนเจ้าไปทำงานที่เจิ้นหนาน แป้งชาดหอหานเซียงที่ข้าฝากเจ้าซื้อกลับมาได้ซื้อแล้วหรือไม่”
ชุยสิงโจวเขย่ากลองป๋องแป๋งหยอกล้อหลานชาย หยุดคิดก่อนตอบ “ซื้อมา…แต่ให้คนอื่นไปแล้ว ไว้ค่อยซื้อให้ท่านใหม่”
ชุยฝูถลึงตาใส่น้องชาย “แป้งชาดของหอหานเซียงจะต้องสั่งจองล่วงหน้าทุกครั้ง เพราะว่าผงดอกไม้ทำมาจากน้ำดอกเบญจมาศของชวนเป่ย* ก่อนน้ำค้างลง ปีนี้จองไม่ทันก็ต้องรอไปถึงฤดูใบไม้ร่วงปีหน้า…เป็นโฉมงามคนใดกันที่ทำให้น้องชายผู้รอบคอบของข้าหลงใหล ถึงกับยกแป้งชาดที่ข้าจองไว้อย่างยากเย็นให้ไป!”
ชุยสิงโจวคาดไม่ถึงว่าแป้งชาดที่ยกให้หลิ่วเหมียนถังส่งๆ จะมีความเป็นมาเพียงนี้ ตอนนั้นหลิ่วเหมียนถังขยันขันแข็งเย็บเสื้อนวมให้เขา เขาเองก็แค่ทำตามมารยาทถึงได้มอบแป้งชาดที่มีให้นางเป็นการตอบแทน
ตอนนี้พี่สาวยกเรื่องนี้มากล่าวหยอกเขา เขาเองก็ไม่พูดอะไร แค่เล่นกับจิ่นเอ๋อร์หลานชายไปเงียบๆ
ชุยฝูมีนิสัยตรงไปตรงมา ไม่มีทางหงุดหงิดน้องชายเพราะแป้งชาดตลับเดียว ส่วนที่ว่าน้องชายไปรู้จักหญิงสาวข้างนอกคนใดนั้น คิดว่าก็คงเป็นคนอ่อนหวานว่าง่ายเขาถึงได้ชอบ
ชุยฝูไม่เหมือนกับมารดา ตั้งแต่เด็กก็ไม่ชอบท่านน้าเหลียนฉู่ซื่อกับบุตรสาวที่ชอบมาเอาเปรียบผู้อื่น
ตอนที่มารดาโดนอนุสูงศักดิ์ในจวนเบียดเบียน จำเป็นต้องคลอดบุตรชาย บรรดาน้าๆ สกุลฉู่ชอบมาเยี่ยมมารดาบ่อยๆ ทว่าทุกครั้งที่ท่านน้าผู้นั้นมากลับมาดูมารดาขายหน้า คำพูดคำจาล้วนพูดว่าบิดาเป็นคนไม่ดี ชีวิตของพี่สาวช่างอาภัพนักจำพวกนี้
เป็นเช่นนี้เสียทุกครั้ง คำพูดของท่านน้าล้วนทำให้มารดาหลั่งน้ำตา
และตอนนี้ในที่สุดมารดาก็ทนผ่านมาได้ น้องชายได้สืบทอดบรรดาศักดิ์ไหวหยางอ๋อง ท่านน้าผู้นั้นกลับมาร่วมวงด้วยเหมือนเปลี่ยนเป็นคนละคน ยกยอว่ามารดาเกิดมาโชคดี หมดทุกข์มาเจอความสุขแล้ว สรรหาวิธียัดเยียดบุตรสาวของนางเข้ามาในจวนอ๋อง
เป็นเพราะชุยฝูแต่งงานไปอยู่ไกล จึงไม่อาจดูแลเรื่องทางบ้านสกุลเดิมได้ หากยังอยู่บ้านล่ะก็ นางย่อมไม่มีทางให้สิงโจวแต่งกับบุตรสาวของท่านน้าอย่างแน่นอน
ดังนั้นเรื่องที่ชุยสิงโจวมีหญิงสาวคนอื่น ชุยฝูกลับรู้สึกยินดีให้เป็นไปเช่นนั้น
ถึงอย่างนั้นสองพี่น้องก็ได้แต่พูดคุยกันอย่างเร่งรีบ ไม่มีเวลาสอบถามเรื่องราวโดยละเอียด ชุยสิงโจวก็ต้องไปรับรองแขกที่เรือนหน้าแล้ว
งานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดของจวนอ๋องคึกคักอย่างมาก ต้องการจะจัดต่อเนื่องยาวนานถึงห้าวัน ในห้องโถงจัดงานก็เชิญคณะงิ้วที่มีชื่อเสียงจากที่ต่างๆ มาแสดง
ทว่าเทียบกับปีก่อนแขกเหรื่อที่มาอวยพรวันคล้ายวันเกิดที่จวนอ๋องในครั้งนี้ยังคงน้อยลงบ้าง
ชุยสิงโจวเข้าใจ เรื่องนี้เกี่ยวข้องอย่างมากกับการที่มีคนในราชสำนักทัดทานเรื่องเขามีทหารในครอบครองมากเกินไป
ฮ่องเต้องค์ปัจจุบันรู้สึกหวาดระแวงอ๋องต่างสกุลที่ฮ่องเต้องค์ก่อนแต่งตั้งมาโดยตลอด ทุกวันนี้สถานการณ์โจรผู้ร้ายในเจินโจวดีขึ้นมากแล้วในหนึ่งปีที่ผ่านมา ฮ่องเต้ย่อมต้องการฆ่าลาเมื่อเสร็จงานโม่แป้ง* จนแทบทนไม่ไหว
ในราชสำนักให้ความสำคัญกับทิศทางลมมากที่สุด ตอนนี้สายลมฤดูใบไม้ผลิพัดมาไม่ถึงเจินโจว แน่นอนว่าต้องมีพวกฉลาดเฉลียวเข้าใจพระราชดำริของฮ่องเต้ หลีกเลี่ยงไม่ยอมมา
เดินอยู่บนเส้นทางขุนนาง บางครั้งคือการลอยคออยู่ในมหาสมุทร แม้ในสวนดอกไม้ที่เรือนหน้าจะมีเสียงเครื่องดนตรีไผ่บรรเลงไม่ขาดสาย แต่ใครจะรู้ว่าช่วงเวลาต่อไปจะเหยียบพลาดตกหุบเขา โดนฆ่าล้างทั้งครอบครัวหรือไม่
ภายในงานเลี้ยงพูดคุยสรวลเสดื่มสุรากัน คนที่นั่งร่วมโต๊ะกับชุยสิงโจวล้วนมีรอยยิ้มประดับบนใบหน้า ทว่าในคำพูดต่างแฝงไปด้วยความนัย คล้ายมีเจตนาหยั่งเชิง
ส่วนคนอื่นๆ ก็มีแต่คำพูดประจบประแจง หวังจะได้รับประโยชน์จากงานเลี้ยงของจวนอ๋องในครั้งนี้ ขอตำแหน่งหน้าที่การงานจากปากไหวหยางอ๋อง
หากจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ขึ้นเรื่องพวกนี้ย่อมหลีกเลี่ยงไม่ได้ ชุยสิงโจวคุ้นชินนานแล้ว
อาศัยโอกาสช่วงหลังกินเลี้ยงเสร็จสิ้นและงานดื่มชาชมสวนเริ่มขึ้น ชุยสิงโจวจึงอ้างว่าเมาก่อนขอตัวไปพักผ่อนที่เรือนหนังสือ