ซ่อนรักชายาลับ
ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ บทที่ 13-บทที่ 15
บทที่ 15
เพียงแต่หลี่มามาเป็นบ่าวรับใช้ผู้ซื่อสัตย์ของท่านอ๋อง ต่อให้จะรู้สึกเห็นใจหลิ่วเหมียนถังมากกว่านี้ก็ยังต้องนำทุกเรื่องที่นางทำ รวมถึงว่าได้เจอกับผู้ใดและพูดอะไรไปบ้างในชีวิตประจำวันไปรายงานอย่างละเอียดต่อชุยสิงโจวอยู่ดี
ชุยสิงโจวได้ยินเรื่องกิจการเงียบเหงา ไม่มีใครมาแสดงตัวว่ารู้จักหลิ่วเหมียนถังก็ไม่ได้พูดอะไร
ในเมื่อคิดอยากตกปลาใหญ่ก็ต้องมีความอดทนมากพอ เพื่อโจรกบฏอย่างลู่เหวิน เขาเต็มใจจะเปลืองกำลังไปบ้าง
เขารู้ประวัติของลู่เหวินไม่มากนัก แต่ตอนที่บุกไปทลายรังโจร ในใจเขาพลันเกิดความรู้สึกเสียดายขึ้นมา เป็นความเสียดายที่ ‘เหตุใดวิญญูชนจึงกลายเป็นโจร’
แม้โจรกบฏผู้นั้นจะไม่เดินบนทางที่ถูกต้อง แต่ก็เป็นอัจฉริยะในด้านการวางแผนจัดทัพ เคยบีบคั้นแม่ทัพใต้บังคับบัญชาเขาตกสู่ทางตันมาแล้วหลายต่อหลายครั้ง ชำนาญกลยุทธ์ส่งเสียงบูรพาฝ่าตีประจิม* พวกกลยุทธ์ลอบกัดโดยเฉพาะ
เดิมทีเขาไม่เห็นกลุ่มที่เหมือนอีกามารวมตัวกันอยู่ในสายตาสักนิด แต่พอได้เห็นผู้ใต้บังคับบัญชาเสียเปรียบอย่างหมดรูปก็กระตุ้นความอยากเอาชนะของเขาขึ้นมา จึงเข้าร่วมศึกด้วยตนเอง บัญชาการกองทัพลงมือโจมตีกะทันหันจากระยะไกลใส่โจรอวดดีกลุ่มนั้น ชิงรังโจรมาได้ ทำลายความเหิมเกริมของโจรกบฏลู่เหวินลงอย่างโหดร้าย
พอโจรกบฏผู้นั้นกับลูกน้องเสียรังเก่าไปก็เป็นเหมือนสุนัขเสียบ้าน ในตอนที่หลบหนีการไล่ล่าถึงได้ทิ้งหลิ่วเหมียนถังที่บาดเจ็บหนักไว้
แม้โจรกบฏนั่นจะหนีการไล่ล่าไปได้ จากนั้นรวบรวมกำลังคนกลับมาเอาคืนอย่างเสียสติ แต่ไม่รู้ว่าโดนทำให้ตกใจจนขี้ขลาดเข้าหรือไร ช่วงหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ถึงมักลงมืออย่างสะเพร่า ตกเป็นรองมากขึ้นเรื่อยๆ
ทุกวันนี้โจรกระจอกพวกนั้นไม่อาจก่อความวุ่นวายให้เจินโจวได้เท่าไรนัก แต่ชุยสิงโจวกลับอยากจับเป็นลู่เหวินให้ได้มาโดยตลอด เพื่อดูว่าโจรที่ต่อสู้พอฟัดพอเหวี่ยงกับตนเองผู้นี้เป็นคนอย่างไรกันแน่
เพื่อสิ่งนี้เขาถึงได้จัดเตรียมเบี้ยอย่างหลิ่วเหมียนถังโดยไม่นึกรำคาญใจ
ครั้งแรกที่พบหลิ่วเหมียนถังซึ่งถูกโยนทิ้งลงแม่น้ำ หากไม่ใช่เพราะตอนนั้นชุยสิงโจวเข้าเมืองหลวงไปรับตำแหน่ง บังเอิญช่วยนางขึ้นมาได้พอดี หญิงสาวผู้นี้คงจมลงแม่น้ำเป็นอาหารปลาไปแล้ว
ภายหลังมีลูกน้องของลู่เหวินที่ยอมศิโรราบจำได้ว่าหญิงสาวผู้นี้คือภรรยารักของลู่เหวิน ชุยสิงโจวถึงได้สนใจดูแล ช่วยชีวิตนางเอาไว้ ทั้งยังพานางมาที่ตำบลหลิงเฉวียนหลังนางมีเรี่ยวแรงเดินทางไหว
หญิงสาวงดงามเช่นนี้ หากไม่ได้กำลังหลบหนี ลู่เหวินก็น่าจะตัดใจทิ้งนางไม่ลง
ชุยสิงโจวโอบกอดความคิดเช่นนี้ไว้ ด้วยรู้สึกว่าเบี้ยอย่างหลิ่วเหมียนถังยังต้องเก็บไว้อีกสักระยะหนึ่ง งิ้วสามีภรรยาบนถนนสายเหนือเองก็ต้องรักษาเอาไว้ต่อ
ดังนั้นหลังผ่านไปห้าวัน เมื่อเห็นว่าไม่อาจอ้างเหตุผลศึกษาศาสตร์การเดินหมากล้อมมาใช้เพื่อไม่กลับบ้านได้อีก ชุยสิงโจวถึงได้ให้โม่หรูเตรียมชุดลำลองมาผลัดเปลี่ยนแล้วออกจากค่ายทหารไป
อากาศค่อยๆ อบอุ่นขึ้นบ้างแล้ว ลมกลางคืนพัดปะทะใบหน้าพาให้รู้สึกเย็นสบาย ดังนั้นยังกลับไปไม่ถึงถนนสายเหนือชุยสิงโจวก็ให้คนบังคับจอดรถม้า เขาจะลงไปเดิน อาศัยสายลมกลางคืนช่วยผ่อนคลายจิตใจเสียหน่อย
เพราะคำนวณเวลาไว้อย่างแม่นยำ ตอนที่ชุยสิงโจวกลับถึงบ้านบนถนนสายเหนือจึงเป็นเวลาดึกมากตามเดิม บรรดาเพื่อนบ้านที่นั่งพูดคุยกันอยู่หน้าประตูก็เก็บเก้าอี้แยกย้ายกันกลับไปนอนแล้ว
เขามาเงียบๆ แล้วค่อยจากไปแต่เช้าอีกครั้ง จะได้ไม่เป็นปัญหาอะไร
เพียงแต่ครั้งนี้ถนนสายเหนือที่ควรจะเงียบเหงาไร้ผู้คนกลับมีเงาคนขยับไหวอยู่
ชุยสิงโจวหูดี เมื่อได้ยินเสียงความเคลื่อนไหวจึงส่งสัญญาณมือให้โม่หรูที่อยู่ข้างหลัง จากนั้นหลบไปซ่อนตัวตรงหัวมุมอย่างรวดเร็ว ฟังเสียงคนพูดคุยกันที่ด้านหน้า
“มารดามันเถอะ ทั่วทั้งตำบลหลิงเฉวียนไม่มีหญิงสาวคนใดที่ข้าจะจัดการไม่ได้! ดูนางวางท่าทางใหญ่โตเพียงนั้น ทั้งยังพอเป็นวรยุทธ์อยู่บ้าง ยังหลงคิดว่าเป็นคนในครอบครัวทหารประจำการเจินโจวเสียอีก! นึกไม่ถึงว่าจะเป็นเพียงภรรยาพ่อค้าขายเครื่องเคลือบดินเผาคนหนึ่ง! หากข้าไม่ได้นอนกับนาง มิใช่ว่าเสียชื่อหมดหรือ”
คนที่พูดประโยคนี้เป็นหลานชายหัวหน้าหน่วยรักษาการณ์ที่เมื่อไม่กี่วันก่อนแทะโลมหลิ่วเหมียนถังกลางถนนผู้นั้น
นับตั้งแต่เขาโดนหลิ่วเหมียนถังใช้ปิ่นแทงคอก็พักรักษาตัวอยู่ที่บ้าน ทำตัวดีๆ อยู่ระยะหนึ่ง
เมื่อครอบครัวถามว่าเขาบาดเจ็บได้อย่างไร เขาก็ไม่กล้าตอบว่ามาจากเรื่องแทะโลมหญิงสาว แค่เชิญหมอมาห้ามเลือดพันแผล ตอบอย่างคลุมเครือไปว่าเดินไม่ทันระวังถูกไม้ไผ่ข้างทางบาดเป็นแผลถึงได้ปิดบังจนผ่านพ้นไป
แต่รอหลังบาดแผลหายดีออกจากบ้านก็ได้มาเจอร้านค้าแห่งใหม่ในตำบลพอดี เขาจึงนำคนของตนไปร่วมชมความครึกครื้นด้วย
นึกไม่ถึงว่าจะได้เห็นหลิ่วเหมียนถังที่กำลังดีดลูกคิดอยู่ด้านหลังโต๊ะเก็บเงิน
โฉมงามหน้าตาแฉล้มกว่าเมื่อวันนั้น แต่หลานชายหัวหน้าหน่วยรักษาการณ์กลับตกใจจนไม่กล้าเดินเข้าใกล้
บนเรือนผมดั่งเมฆายังเสียบปิ่นไว้อยู่ ถ้าเกิดถูกนางลงมืออำมหิตอีกครั้งก็แย่แล้ว!
เพียงแต่เมื่อรู้ว่าสามีนางทำงานอะไร ในใจคุณชายผู้นี้ก็มีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น
ก็แค่พ่อค้าต่างถิ่นที่ไร้อำนาจสนับสนุน ไม่มีอันใดน่ากลัวแม้แต่น้อย! มิหนำซ้ำยังได้ยินว่าสามีของหญิงสาวผู้นี้ไม่ทำงานทำการ มักจะไม่อยู่บ้าน ภายในบ้านเองก็ไร้บุรุษ
นี่เป็นเนื้อโอชาที่ไร้เจ้าของโดยแท้ หากเขาไม่ได้กินก็จะน่าเสียดายเกินไปแล้ว!
ตอนที่ยังไม่ได้ครอบครอง พวกหญิงสาวก็มักจะยึดมั่นในเรื่องความบริสุทธิ์ รอให้นางได้สัมผัสความรู้สึกนั้นเมื่อใด เพียงได้นอนด้วยกันสักครั้งก็จะติดใจรสชาติและตามตอแยขึ้นมาเอง
สำหรับการลักลอบคบชู้แอบนอนกับภรรยาผู้อื่น คุณชายเสเพลผู้นี้ชำนาญเป็นอย่างยิ่ง
เขาแค่ต้องเตรียมบันไดดีๆ ปีนข้ามกำแพงไป คลำหาเตียงให้เจอก็พอ! ขอเพียงเป็นหญิงสาวที่แต่งงานแล้วสามียังไม่อยู่บ้าน ต่อให้โดนเอาเปรียบก็ไม่กล้าโวยวาย ได้แต่กล้ำกลืนน้ำตายอมรับ ไม่อย่างนั้นหากร้องเรียกคนกลางดึกชื่อเสียงของนางก็ไม่มีเหลือเช่นกัน
เมื่อคิดว่าหญิงสาวผู้นี้เหมือนจะเป็นวรยุทธ์อยู่บ้าง ลูกน้องสองคนของเขาจึงเตรียมควันยาสลบให้อย่างใส่ใจ รอประเดี๋ยวเข้าไปในบ้าน เป่าควันเข้าไปผ่านกระดาษหน้าต่าง นางก็จะเรียกฟ้าฟ้าไม่ขาน เรียกดินดินไม่ตอบ* แล้ว!