ซ่อนรักชายาลับ
ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ เล่ม 3 บทที่ 63 – 64
จ้าวเฉวียนถูกทำลายศักดิ์ศรี เดิมค่อนข้างหงุดหงิด แต่พอมองใบหน้าอมชมพูของหลิ่วเหมียนถัง โดยเฉพาะดวงตาสุกใสคู่นั้นก็ยังคงเอ่ยอย่างไม่ยอมตัดใจ “ข้ารู้ว่าเจ้าถูกชุยจิ่วทำร้ายหนักหนาสาหัสเกินไป ไม่ขอให้คุณหนูยอมรับข้าได้ในทันที อย่างไรก็ตามคุณหนูเกิดมาบอบบาง เดิมควรจะเป็นเหมือนดอกบัวดอกโบตั๋นถูกคนประคบประหงมเลี้ยงดู แต่ทุกวันนี้เจ้าอาศัยอยู่กับบ้านท่านตา แม่สื่อที่วันๆ มาหาล้วนเป็นคนธรรมดาทั่วไป จะหาการแต่งงานดีๆ อะไรให้เจ้าได้”
หลิ่วเหมียนถังคลี่ยิ้ม “คนที่พวกนางพูดเหล่านั้นถึงจะเหมาะสมต่อฐานะข้า ท่านโหวสายตาสูงส่ง ฐานะสูงศักดิ์ เดิมก็มองไม่เห็นคนเหล่านี้ในสายตา ในเมื่อท่านต้องการหาภรรยาใหม่ก็ควรจะหาที่ฐานะเหมาะสมกัน…จากหน้าตาและความสามารถของท่านโหว หาองค์หญิงสักพระองค์ก็คู่ควร…”
จ้าวเฉวียนกลับโบกไม้โบกมือเอ่ย “คุณหนูหลิ่วอย่าได้แช่งข้า หากถูกองค์หญิงผู้หนึ่งต้องตาเข้าจริงๆ ก็ไม่รอดแล้ว ข้าไม่อยากถูกขังอยู่โยวโจว กลายเป็นคนขาพิการอย่างชุยจิ่ว…”
พูดไปได้ครึ่งทางจ้าวเฉวียนก็รีบหยุดปากลงทันควัน
หนนี้เขาไม่ทันระวังพลั้งปากออกไปจริงๆ แม้จะหยุดลงทันควัน แต่หลิ่วเหมียนถังกลับมองเขาอย่างสงสัยและถามอย่างไม่แน่ใจแล้ว “ท่านพูดอะไร เขา…ถูกขังอยู่ที่โยวโจว? ขาพิการ?”
จ้าวเฉวียนผงกศีรษะอย่างจนใจ ในเมื่อไม่ทันระวังพลั้งพูดไปแล้วก็ได้แต่บอกตามตรง “เดิมไม่อยากพูดเรื่องเขาต่อหน้าคุณหนู กลัวจะทำให้คุณหนูหมดอารมณ์…”
หลิ่วเหมียนถังกลับเอ่ยอย่างใจเย็น “ไม่เป็นไร เล่าให้ละเอียดสักหน่อย บางทีวันนี้ข้าอาจจะกินข้าวลงมากขึ้นก็ได้…”
จ้าวเฉวียนรู้สึกว่าแม้หลิ่วเหมียนถังจะพูดจาใจดำก็ยังเข้าใจได้ ในเมื่ออย่างไรเสียหลิ่วเหมียนถังก็ถูกชุยสิงโจวทอดทิ้ง ในใจย่อมรู้สึกแค้นเคืองตัดพ้ออย่างห้ามไม่ได้
ดังนั้นเขาจึงเล่าสถานการณ์ในปัจจุบันของชุยสิงโจวออกไปตามตรง
ที่แท้หลังราชสำนักได้รับคำร้องของธิดากษัตริย์เฒ่าที่ขอให้ช่วยยุติความวุ่นวาย กำจัดคนทรยศ ก็มีใจจะเชื่อมสัมพันธ์กับเผ่าต่างๆ ของชาวหมาน ล้มราชวงศ์ของอากู่ซั่น ยุติสงครามบริเวณชายแดนในเร็ววัน
มิหนำซ้ำชุยสิงโจวยังเป็นคนเสนอให้ยุติสงครามก่อนเอง เรื่องนี้ชวนให้คนคาดไม่ถึงจริงๆ
ภายในราชสำนักมีคนวิพากษ์วิจารณ์ว่าไหวหยางอ๋องจงใจขยายขอบเขตสงครามเพื่อเสริมความแข็งแกร่งให้ปีกตนเองมาโดยตลอด แต่ว่าการเจรจาสงบศึกกับธิดากษัตริย์เฒ่าในครั้งนี้ ชุยสิงโจวเป็นคนเขียนฎีกาส่งมาด้วยตนเอง มากพอให้เห็นถึงความภักดีต่อราชสำนักของเขา ทำให้คนที่ด่าว่าเขากระหายสงครามพูดอะไรไม่ออก
ส่วนอู๋ไทเฮาก็เกิดความคิดพระราชทานองค์หญิงให้ชุยสิงโจวในที่สุด ตั้งใจจะดึงตัวเขามาเป็นพวกของตนเอง
เพียงแต่องค์หญิงผู้นั้นของอู๋ไทเฮามีนิสัยเอาแต่ใจอย่างมาก การแต่งงานของนางไม่ใช่ว่าพระราชโองการสักฉบับจะสั่งการได้
ราชสำนักจึงออกคำสั่งให้กรมทหารส่งคนไปรับช่วงต่อดูแลกองทัพซีเป่ยและร่วมมือกับธิดากษัตริย์เฒ่าเจรจาสงบศึกกับชนเผ่าต่างๆ โดยเร็ว จากนั้นค่อยเรียกตัวชุยสิงโจวเข้าเมืองหลวงให้องค์หญิงได้เห็นกับตา แล้วออกพระราชโองการลงมาอีกที
ผู้ใดจะคาดว่าทูตของราชสำนักจะเจอกับการลอบโจมตีที่โยวโจว ไหวหยางอ๋องนำทัพเข้าช่วยด้วยตนเอง เพื่อช่วยเหลือทูตพิเศษจึงโดนธนูยิงตกหลังม้า ได้ยินว่าขาจะต้องพิการถาวร…
หลิ่วเหมียนถังรับฟังเงียบๆ ขณะที่มือขยำชายกระโปรงตนเองแน่น นางไม่กล้าจินตนาการว่าบุรุษที่ทะนงตนผู้นั้น นับจากนี้จะกลายมาเป็น…คนพิการ!
“ท่านไม่ใช่หมอเทวดาหรอกหรือ ไม่ใช่ว่ามอบยาที่สามารถเชื่อมเอ็นกระดูกให้ข้าหรือ เหตุใดจึงไม่มอบให้เขา กลับมาเสียเวลากับข้าที่นี่!” หลังได้ฟังเรื่องราวจากจ้าวเฉวียน หลิ่วเหมียนถังนิ่งเงียบไปสักพักแล้วเอ่ยตำหนิออกมากะทันหัน
จ้าวเฉวียนถูกหลิ่วเหมียนถังตวาดใส่ก็รู้สึกว่าตนเองเป็นผู้บริสุทธิ์อย่างมาก ท้ายที่สุดจึงบอกความจริงออกไปอย่างช่วยไม่ได้ “ดอกอิงกู่ที่ใช้เชื่อมเอ็นกระดูกนี้…เป็นสิ่งที่งอกบนภูเขาหิมะนอกด่าน หนึ่งร้อยปีถึงจะบานสักครั้ง ซ้ำช่วงเวลาบานยังสั้นมาก ไม่ใช่สิ่งที่แค่มีเงินก็ซื้อหามาได้ ยาตัวนี้…เฮ้อ ข้าบอกกับเจ้าเลยแล้วกัน! ความจริง…ความจริงชุยจิ่วเป็นคนให้ข้า รวมถึงให้ข้าช่วยปรุงออกมา เขาเองก็หามาได้ด้วยความบังเอิญ ปริมาณมีอยู่เพียงเท่านี้ ให้ข้าเอามาให้เจ้าทั้งหมดแล้ว ข้าเองก็เกลี้ยกล่อมให้เขาเก็บไว้บ้าง แต่เขาไม่ยอม ข้าได้แต่รีบนำมามอบให้เจ้าจะได้ไม่เสียฤทธิ์ยาไป…”
หลิ่วเหมียนถังเม้มปากแน่น นางนึกไม่ถึงว่ายาที่ทาแล้วเห็นผลทันทีนี้จะเป็นชุยสิงโจวฝากฝังจ้าวเฉวียนมามอบให้ ยิ่งคาดไม่ถึงว่าเขาจะมอบยาทั้งหมดให้แก่นางทั้งที่รู้ว่าตนเองจะขาพิการ
“เขาจะพิการจริงๆ หรือ ท่านไม่ได้หลอกข้าอีกใช่หรือไม่” หลิ่วเหมียนถังถามเสียงเย็น
ไม่รู้เหตุใดจ้าวเฉวียนที่ถูกนางมองก็รู้สึกหนาวสะท้านขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ จากนั้นยกนิ้วสาบานว่าครั้งนี้ไม่ได้โกหกจริงๆ เขากับทูตพิเศษเห็นบาดแผลที่ขาของชุยสิงโจวด้วยกันกับตา ร้ายแรงอย่างมาก
ชุยสิงโจวถึงขั้นเป็นไข้สูงติดต่อกันหลายวัน หลังจ้าวเฉวียนฝังเข็มให้ถึงค่อยๆ กลับมามีสติ
หลิ่วเหมียนถังหลุบตาลง เพียงบอกว่าตนเหนื่อยแล้ว ให้สาวใช้จ่ายเงินก่อนเดินจากไปทันที
จ้าวเฉวียนไม่คาดคิดว่าหลิ่วเหมียนถังจะมีท่าทีเหมือนไม่มีเรื่องอะไรเช่นนี้ แม้การที่ชุยสิงโจวโกหกนางจะน่าชิงชัง แต่สถานการณ์ในทุกวันนี้ของอีกฝ่ายเองก็น่าสงสารมาก
บัดนี้เพราะขาได้รับบาดเจ็บ ชุยสิงโจวจึงไม่อาจเข้าวังไปไกล่เกลี่ยความสัมพันธ์กับไทเฮา ซ้ำยังต้องพิการถาวร แต่ก็ยังตัดใจจากยารักษาแผลดีๆ มอบให้หลิ่วเหมียนถังได้ ต่อให้เป็นความแค้นยิ่งใหญ่กว่านี้ก็ควรบรรเทาลงบ้างแล้ว
แต่ท่าทีของหลิ่วเหมียนถังกลับเย็นชา ไร้ความเห็นอกเห็นใจปานนั้น
เรื่องนี้ทำให้จ้าวเฉวียนดับสลายความคาดหวังที่มีต่อสตรีบนโลกใบนี้ลงไปอีก
แต่ก็ไม่อาจโทษที่หลิ่วเหมียนถังจะแล้งน้ำใจ นางถูกเจ้าชุยสิงโจวหลอกลวงหนักหนาเกินไป ดูสภาพแล้วจะไม่มีทางยกโทษให้
ในช่วงเวลานั้นจ้าวเฉวียนรู้สึกลิงโลดขึ้นมาอีกครั้ง พอเห็นว่าชุยสิงโจวแพ้ราบคาบ ตนเองก็มีความหวังอย่างยิ่ง!
วันรุ่งขึ้นภายใต้การปรนนิบัติจากบ่าวรับใช้ จ้าวเฉวียนแต่งตัวเรียบร้อยเหมาะสม เตรียมจะไปเยือนบ้านสกุลลู่ ปรึกษาเรื่องรับหลิ่วเหมียนถังมาเป็นอนุสูงศักดิ์อย่างเป็นทางการกับนายท่านรองลู่
แต่ยังไม่ทันถึงบ้านสกุลลู่ก็เห็นที่ประตูบ้านสกุลลู่วุ่นวายยุ่งเหยิง นายท่านใหญ่ลู่ดูเหมือนกำลังรีบขึ้นม้าควบตะบึงไปทางท่าเรือ
เขาเห็นลู่มู่ยืนอยู่ตรงประตูจึงถามหยั่งเชิงดู ลู่มู่ผู้นั้นกลับตอบด้วยสีหน้าไม่เป็นธรรมชาติ “เหมียนถังป่วย ไม่อาจพบแขกได้”
จ้าวเฉวียนได้ยินก็ยิ่งอยากเข้าไปเยี่ยมหลิ่วเหมียนถังมากกว่าเก่า เดิมเขาก็เป็นหมอ จะยังมีใครเหมาะสมไปกว่าเขาอีก
ลู่มู่เห็นเขาดึงดันจะเข้าไปก็จนปัญญา เดิมทีท่านโหวผู้นี้ตั้งใจจะมารับหลิ่วเหมียนถังเป็นอนุ เขายังแอบรู้สึกยินดี มองว่าหากหลิ่วเหมียนถังปีนป่ายสูงถึงขั้นนี้ได้เองก็นับเป็นโชคดี
แต่เขากลับลืมไปว่าหลานสาวผู้นี้ของเขาเป็นตัวปัญหาโดยแท้จริง
แทนที่จะรอให้ท่านโหวจ้าวได้ยินจากปากผู้อื่นแล้วแย่กว่าเดิม มิสู้เขาบอกความจริงออกไปอย่างเหมาะสม ป้องกันไม่ให้งานมงคลนี้ล้มเหลวในวันหน้า ดังนั้นเขาจึงถูมือแล้วเอ่ย “เฮ้อ ท่านโหว หลานสาวคนนี้ของข้าพยศจนเคยตัว ได้ยินว่าทางสำนักคุ้มภัยเกิดปัญหากับเรือคุ้มภัยลำหนึ่งที่มุ่งหน้าไปอี้โจว เมื่อวานนางไม่บอกกล่าวต่อใครทั้งนั้นก็เก็บสัมภาระแล้วพาสาวใช้สองคนของนางออกเดินทางทั้งคืนไปอี้โจวแล้ว! ท่านดูสิ นางมีความสามารถเช่นนี้นี่ล่ะ ยังดีที่พาสาวใช้กับบ่าวหญิงไปด้วย น่าจะกลับมาในเร็ววัน…”
จ้าวเฉวียนได้ยินแล้วอึ้งไป หากเขาจำไม่ผิดล่ะก็…อี้โจวอยู่ห่างจากโยวโจวไปเพียงไม่กี่ลี้เท่านั้น…