ซ่อนรักชายาลับ
ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ เล่ม 3 บทที่ 67 – 68
บทที่ 68
ใต้เท้าหลี่ไม่ได้อยู่ที่ห้องโถงหน้า แต่ยืนนับสิ่งของอยู่นอกประตูบ้านสกุลลู่ ชายวัยกลางคนตัวเล็กรูปร่างผอมสวมชุดขุนนางตัวหลวม กำลังใช้นิ้วชี้นับรายการของขวัญที่จวนของสุยอ๋องส่งมาว่าขาดอะไรไปหรือไม่
วันนี้ลู่อู่ต้อนรับผู้สูงศักดิ์มามากเกินไป เหนื่อยล้าแล้วจริงๆ เมื่อมาสนทนากับขุนนางน้ำดีที่เพิ่งรับตำแหน่งใหม่คนนี้ก็รู้สึกรับมือไม่ทันอยู่บ้าง
หลี่กวงไฉเห็นลู่อู่เดินออกมาก็รีบยกชายชุดขุนนางเดินก้าวฉับไวไปต้อนรับ “ท่านผู้เฒ่าลู่ ข้าเป็นผู้ช่วยนายอำเภอคนใหม่ หลี่กวงไฉขอรับ”
ลู่อู่ประสานมือเอ่ย “ไม่ทราบว่าผู้ช่วยนายอำเภอมาที่นี่ด้วยเรื่องใดหรือ”
หลี่กวงไฉพกตำรากฎหมายว่าด้วยการแต่งงานของต้าเยี่ยนมาด้วย หลังหยิบออกมาจากเอวก็พลิกหน้ากระดาษเสียงดังพั่บๆ จากนั้นชี้ไปที่ข้อหนึ่งในนั้นแล้วเอ่ย “กฎหมายต้าเยี่ยนเขียนไว้ชัดเจนว่าการมอบสินสอด จะต้องเกิดขึ้นหลังทั้งสองครอบครัวลงนามในหนังสือหมั้นหมายแล้ว ดั่งคำที่ว่าหนังสือก่อนสินสอดภายหลัง แต่เมื่อครู่นี้ข้าถามนายท่านรองครอบครัวท่าน สุยอ๋องไม่ได้ลงนามในหนังสือหมั้นหมายกับครอบครัวท่าน ทว่าส่งสินสอดมาทันที เรื่องนี้ขัดต่อกฎหมาย! ข้าในฐานะขุนนางท้องถิ่นไม่อาจไม่ข้องเกี่ยว จำเป็นต้องแก้ไขให้ถูกต้องตามกฎ ดังนั้นครอบครัวท่านจำเป็นต้องคืนสินสอดห้าคันรถนี้กลับไปก่อน รอลงนามในหนังสือหมั้นหมายแล้วถึงรับได้”
ลู่มู่ยืนเป็นเพื่อนใต้เท้าผู้ช่วยนายอำเภออยู่ตลอด เดิมทีเห็นว่าใต้เท้าหลี่ขี่ลาตัวเล็กพาผู้ใต้บังคับบัญชามาหยุดหน้าประตูบ้านตนเอง ยังหลงคิดว่าใต้เท้ามาร่วมชมความครึกครื้นด้วยเสียอีก
ดังนั้นลู่มู่เองก็คุมความตื่นเต้นอยากเกาะเกี่ยวคนมีอำนาจไม่ไหว บอกเรื่องสินสอดของสุยอ๋องกับใต้เท้าหลี่ไปตามตรง
ผู้ใดจะคาดว่าใต้เท้าหลี่กินอิ่มแล้วว่าง เพิ่งรับตำแหน่งใหม่ก็มีไฟลุกโชน อีกทั้งไฟกลับลามเผามาถึงงานแต่งงานดีๆ ของหลานสาวตนเองเสียแล้ว
ส่วนลู่อู่รู้สึกว่าผู้ช่วยนายอำเภอคนใหม่ท่านนี้ทำงานได้…ละเอียดรอบคอบนัก! อาจได้ยินสภาพการณ์ใหญ่โตหน้าประตูบ้านสกุลลู่เข้าเลยมาชมความครึกครื้นด้วย ไม่เสียทีที่เป็นขุนนางน้ำดี เชี่ยวชาญกฎหมายต้าเยี่ยน ถึงกับค้นพบช่องโหว่เช่นนี้ได้!
ลู่อู่ได้ยินแล้วก็โล่งอก เอ่ยด้วยความยินดี “ใต้เท้าพูดได้ถูกต้องยิ่ง เรื่องนี้ขัดต่อกฎหมายจริงๆ…เพียงแต่สุยอ๋องท่านนั้นพำนักอยู่ที่ใด ข้าก็ยังไม่ทราบ…”
หลี่กวงไฉโบกมือ แสดงออกว่าเรื่องนี้ไม่สำคัญ “ในเมื่อท่านเห็นด้วยกับการคืนสินสอด ถ้าอย่างนั้นเรื่องที่เหลือก็มอบให้ข้าจัดการเอง ท่านผู้เฒ่ากลับไปพักผ่อนก่อนเถอะ”
หลังเอ่ยจบหลี่กวงไฉสั่งให้คนของตนจูงม้าเทียมเกวียนเดินมา แล้วลากสินสอดทั้งห้าคันรถออกไปจากตรอก
“ใต้เท้าหลี่โปรดรอก่อน!” ในตอนที่หลี่กวงไฉกำลังจะจากไป มีเสียงเอ่ยเรียกเขาดังขึ้นจากด้านหลัง
เมื่อเขาหันกลับไปมองก็เห็นหญิงสาวงดงามพริ้มเพราผู้หนึ่งยืนอยู่หน้าประตูบ้าน ซึ่งชาตินี้หลี่กวงไฉไม่เคยพบเห็นหญิงสาวที่ดูงดงามเพียงนี้มาก่อน จึงเดาได้ว่าคนผู้นี้น่าจะเป็นหลิ่วเหมียนถังที่สุยอ๋องต้องการบังคับรับตัวเป็นอนุ
หญิงสาวผู้งดงามเดินเข้ามาคารวะ แจ้งชื่อสกุลตนเองตามคาด หลี่กวงไฉถึงได้รีบก้มหน้าเอ่ยด้วยเสียงจริงจัง “ไม่ทราบว่าคุณหนูหลิ่วเรียกตัวข้าไว้ด้วยเรื่องใดหรือ”
หลิ่วเหมียนถังคารวะอย่างสุดตัวให้ใต้เท้าหลี่พร้อมเอ่ย “หลิ่วเหมียนถังขอขอบคุณความลำบากของใต้เท้าหลี่เจ้าค่ะ!”
หลี่กวงไฉโบกไม้โบกมือ “คุณหนูไม่ต้องมากมารยาท ข้ากับ…ชุยจิ่วเป็นสหายร่วมสอบขุนนางด้วยกัน น่าเสียดายที่เขาถูกฝ่าบาทดึงกระดาษข้อสอบออก ไม่มีวาสนากับการสอบเตี้ยนซื่อ ข้าถึงได้เป็นทั่นฮวาผู้หนึ่ง นับดูแล้วพอจะฝืนถือว่าเป็นสหายร่วมรุ่นการสอบพิเศษ ดังนั้นเรื่องที่เขาไหว้วานข้า ข้าย่อมช่วยจัดการให้เรียบร้อย”
หลิ่วเหมียนถังคาดเดาจากปากหลี่มามาได้แต่แรกแล้วว่าหลี่กวงไฉผู้นี้เป็นคนที่ไหวหยางอ๋องส่งมา แต่ไม่เคยได้ยินมาก่อนว่าผู้ช่วยนายอำเภอตัวเล็กๆ คนหนึ่งจะมีฐานะเป็นถึงทั่นฮวาในการสอบเตี้ยนซื่อ มิหนำซ้ำดูแล้วใต้เท้าหลี่ท่านนี้ดูจะมีมิตรภาพไม่ธรรมดากับไหวหยางอ๋องด้วย
ชุยสิงโจว…ส่งคนมีความสามารถระดับนี้มาที่นี่ มิใช่เป็นการสิ้นเปลืองคนหรอกหรือ
หลิ่วเหมียนถังไม่มีเวลาให้คิดมาก ได้แต่ค้อมตัวเอ่ยอีกครั้ง “ใต้เท้าเต็มใจออกหน้า ข้าย่อมสบายใจ เพียงแต่สุยอ๋องในฐานะท่านอ๋องราชนิกุล ตำแหน่งสูงศักดิ์มากอำนาจ หากไม่ยอมเลิกราง่ายๆ…”
หลี่กวงไฉโบกมือเอ่ยอีกครั้ง “ข้าทำงานตามกฎหมายบ้านเมืองมาโดยตลอด หากทำผิดกฎหมายต่อให้เป็นอ๋องก็มีความผิดเดียวกับชาวบ้านทั่วไป สุยอ๋องอยู่ไว้ทุกข์ให้ฮ่องเต้องค์ก่อน ออกบวชโดยไว้ผม เป็นผู้ให้ความสำคัญกับคุณธรรมเพียงใด จะทำผิดกฎทั้งที่รู้ดีแก่ใจ สร้างความลำบากให้ชาวบ้านได้อย่างไรกัน”
หลี่กวงไฉผู้นี้มีสีหน้าสัตย์ซื่อ มองแล้วเป็นคนคร่ำครึผู้หนึ่ง
แต่ว่าหลิ่วเหมียนถังเห็นเขายกย่องคุณธรรมสูงเสียดฟ้าให้สุยอ๋อง มองออกว่าฝีมือด้านวาทศิลป์ของใต้เท้าหลี่เองก็โดดเด่นเหนือผู้คน
หลี่กวงไฉเหมือนเข้าใจความกังวลของหลิ่วเหมียนถังเช่นกัน ดังนั้นจึงประสานหมัดเอ่ยอีกครั้ง “คุณหนูหลิ่ววางใจได้ ต่อให้ฟ้าถล่มลงมาจริงๆ ยังมีคนตัวสูงค้ำไว้ให้อยู่ ไม่มีทางถล่มมาโดนศีรษะครอบครัวสกุลลู่อย่างแน่นอน”
หลังเอ่ยจบเขาหันหน้าไปเรียกผู้ใต้บังคับบัญชาให้ไปหาคนบังคับรถม้ามา จากนั้นนำสินสอดจากไป
เมื่อครู่นี้ช่วงที่หลิ่วเหมียนถังคุยกับใต้เท้าหลี่ ลู่มู่รีบไปหาบิดาอย่างร้อนใจ อยากจะเกลี้ยกล่อมบิดาขัดขวางไม่ให้ใต้เท้าหลี่นำสินสอดกลับไป ซึ่งแน่นอนว่าถูกลู่อู่ด่ากลับมาเปิดเปิงอย่างไม่ไว้หน้า
รอเขาย้อนมาอีกทีใต้เท้าหลี่ก็ให้คนพาขบวนรถสินสอดจากไปแล้ว ทำเอาเขาร้อนใจจนตบตัก
พอเห็นหน้าหลิ่วเหมียนถังก็เอ่ยอย่างไม่สบอารมณ์ “เมื่อครู่นี้เจ้าไม่ได้บอกใต้เท้าหลี่หรือว่าสินสอดพวกนี้ไม่อาจส่งคืนได้ ไม่อย่างนั้นมิใช่ว่าพวกเราล่วงเกินสุยอ๋องหรือไร”
หลิ่วเหมียนถังหยุดยืนมองท่านลุงรองพร้อมถามเนิบๆ “ความหมายของท่านลุงรองคือ…ข้าควรจะรับปากเป็นอนุให้สุยอ๋องหรือ”
ลู่มู่ถูกถามจนสะอึก รีบเปลี่ยนคำพูด “ไม่ใช่…ลุงเองก็รู้ว่าเจ้าไม่เต็มใจเป็นอนุ แต่เจ้าต้องรู้ว่านี่คืออนุสูงศักดิ์ของจวนอ๋อง! ไม่ใช่อนุของครอบครัวคนมีฐานะทั่วไป นั่นเป็นสิ่งที่คนอื่นเรียกร้องยังหาไม่ได้ มิหนำซ้ำหากสุยอ๋องกล่าวโทษมาจะให้พวกเราทั้งครอบครัวลำบากไปกับเจ้าด้วยหรือไร”
หลิ่วเหมียนถังเอ่ยเรียบๆ “ข้าคิดไว้แต่แรกแล้วว่าวันพรุ่งนี้จะไปที่ว่าการยื่นเรื่องขอเป็นเจ้าบ้านสตรี รวมถึงหาซื้อบ้านแล้วย้ายออกไปอยู่ ข้าสกุลหลิ่ว ไม่ได้สกุลลู่ จะแต่งงานหรือไม่พวกท่านลุงสนใจจัดการนับเป็นน้ำใจ ไม่สนใจก็เพราะตามฐานะ ย่อมมีข้ารับผิดชอบด้วยตนเอง”
พูดจบนางไม่มองลู่มู่อีก เพียงพาสาวใช้สองคนย้อนกลับไปที่เรือนตนเอง