ซ่อนรักชายาลับ
ทดลองอ่าน ซ่อนรักชายาลับ เล่ม 3 บทที่ 67 – 68
ความจริงเรื่องย้ายออกจากบ้านสกุลลู่นางวางแผนไว้ในใจนานแล้ว กระทั่งเรือนหลังเล็กในเมืองข้างเคียงยังซื้อไว้เรียบร้อย รอแค่หาโอกาสบอกกับท่านตา
แน่นอนว่าเหตุผลแรกที่นางทำเช่นนี้ไม่ใช่เพื่อหลบเลี่ยงสุยอ๋อง แต่กลัวว่าชุยสิงโจวจะไม่ยอมเลิกรา แล้วลำบากมาถึงสกุลลู่
แต่ตอนนี้สุยอ๋องบังคับรับเป็นอนุ ประจวบเหมาะให้นางได้มีข้ออ้างย้ายออกจากสกุลลู่อย่างสง่าผ่าเผยพอดี
พี่ชายนางถูกเนรเทศ บิดาตายไปแล้ว เดิมทีก็เข้ากับเงื่อนไขการเป็นเจ้าบ้านสตรี ใต้เท้าหลี่ท่านนั้นได้ยินว่านางจะเป็นเจ้าบ้านสตรีก็ให้นายทะเบียนออกเอกสารให้นางอย่างไม่ลังเล
หลิ่วเหมียนถังลงมือทำก่อนค่อยบอก รอสำมะโนครัวทั้งหมดเสร็จเรียบร้อยถึงได้ไปพูดกับท่านตา
หลายวันมานี้ลู่อู่ถูกเหตุไม่คาดฝันติดต่อกันขัดเกลาจนมีน้ำอดน้ำทน เพียงถามหลิ่วเหมียนถังว่ากลัวท่านตาอย่างเขาปกป้องนางไม่ได้หรือ
หลิ่วเหมียนถังบีบนวดหลังให้ท่านตาไปพลางเอ่ยไปพลาง “หากมีเพียงท่านตาคนเดียวข้าจะไม่ไปที่ใดทั้งนั้น ท่านตาย่อมสามารถปกป้องข้าได้เป็นอย่างดี แต่สกุลลู่มีเด็กมากมายเพียงนี้ ท่านตาไม่อาจเอาแต่สนใจดูแลข้าแล้วไม่ดูแลพวกเขา สุยอ๋องมีนิสัยเย่อหยิ่งจองหอง ไม่ใช่คนมีเหตุผล ข้าแยกตัวออกไปคนเดียว ถ้าปฏิเสธหนักแน่นเขาเองก็ทำอะไรข้าไม่ได้ จะลำบากให้ทุกคนในสกุลลู่มาลงน้ำสกปรกไปด้วยกันกับคนต่างสกุลอย่างข้าได้อย่างไร”
ในฐานะผู้อาวุโสของทุกคน ลู่อู่รู้ว่าหลิ่วเหมียนถังพิจารณาได้ถูกต้อง แต่นางเป็นสตรีตัวคนเดียวไร้บิดามารดา นางออกไปอยู่ตามลำพัง วันหน้ายังมีความลำบากอีกมากมายนัก รวมกับที่ไม่รู้ว่าสุยอ๋องจะยอมรามือหรือไม่ เรื่องนี้ไม่เหมาะสมจริงๆ
แต่หลิ่วเหมียนถังกลับไม่ให้ท่านตาไตร่ตรองมากเกินไป บอกเพียงว่าสำมะโนครัวไม่สามารถเปลี่ยนได้บ่อยๆ ต่อให้ท่านตาไม่อนุญาตก็ไม่ทันแล้ว
อีกอย่างเรือนหลังนั้นนางซื้อไว้นานแล้ว สองวันมานี้กำลังหาคนมาทาสีตกแต่ง รอกำแพงแห้งเมื่อใดก็ย้ายเครื่องเรือนเข้าไปได้ทันที
ลู่อู่คิดอยู่หนึ่งคืน วันรุ่งขึ้นเขาพาลู่เซี่ยนไปดูเรือนหลังนั้นที่หลินโจว สถานที่อยู่ใจกลางเมือง ไม่นับว่าปลีกวิเวก เรือนดูแล้วไม่ใหญ่ ทว่าซ่อมแซมได้ดูดีมาก
ทั้งสองคนมองออกว่าหลิ่วเหมียนถังให้คนมาซ่อมที่นี่ไว้นานแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะขุดบ่อน้ำไว้ตรงซุ้มเถาองุ่นด้วย ข้างในเลี้ยงปลาจิ่นหลี่ที่สะบัดหางแหวกว่ายกับดอกบัวขนาดเท่ากำปั้นเอาไว้แล้ว
ลู่อู่เห็นว่าไม่มีอะไรให้เสริมเติมแต่งได้อีก เลยมอบกล่องเครื่องประดับที่เตรียมให้หลิ่วเหมียนถังแต่แรกกับนาง นอกจากนี้ยังโยกย้ายบ่าวรับใช้ที่วรยุทธ์ดีจำนวนหนึ่งมาคุ้มกันเรือนให้นางด้วย
ตอนที่หลิ่วเหมียนถังรับกล่องเครื่องประดับมาก็ตระหนักอย่างแปลกใจว่าตั๋วเงินข้างในมีมากขึ้นกว่าครั้งก่อนที่ท่านตาให้นางดูเสียอีก
นางมองท่านตาอย่างสงสัย
ลู่อู่เอ่ยเรียบๆ “ยายหนูบ้านรองมีบิดาที่หาเงินเก่ง ไม่จำเป็นต้องให้ท่านตาอย่างข้าเป็นห่วง เลยรวมสองส่วนเข้าด้วยกันแล้วนำมามอบให้เจ้าทั้งหมด”
หลิ่วเหมียนถังได้ยินว่าที่แท้มีส่วนของญาติผู้น้องลู่ชิงอิงด้วย ย่อมไม่ยอมรับไว้
แต่ลู่อู่กลับเอ่ยว่า “ที่เจ้ารองแอบยักยอกไปมากพอให้เขาแต่งบุตรสาวหลายคนแล้ว ในเมื่อข้าลำเอียงแต่แรก อย่างนั้นก็ลำเอียงให้ถึงที่สุดเถิด เจ้าออกมาเป็นเจ้าบ้านสตรีไม่ได้รอให้ข้าอนุญาต เช่นนั้นข้าอยากให้สินเดิมเจ้าเท่าไรเจ้าก็ห้ามไม่ได้! เพียงรับไว้ก็พอแล้ว!”
หลิ่วเหมียนถังอับจนหนทางได้แต่รับเอาไว้ก่อน เพราะว่าท่านตายังโกรธนาง ไม่ยอมมองนางตรงๆ ด้วยซ้ำ
แม้ลู่อู่จะเดินสำรวจกลับไปกลับมาแล้วหลายรอบ แต่ตอนที่หลิ่วเหมียนถังย้ายบ้าน ยังมีใต้เท้าหลี่มาช่วยตรวจสอบเพื่อนบ้านรอบๆ ด้วยตนเองอีกรอบหนึ่งด้วย เขานับจำนวนคน ดูว่ามีพวกนักโทษหรือว่าจู่ๆ มีบุคคลจากต่างถิ่นมาเช่าบ้านกะทันหันหรือไม่
หลี่มามาพอใจกับความละเอียดรอบคอบของหลี่กวงไฉมาก ในช่วงที่ใต้เท้าหลี่หยุดพักระหว่างตรวจสอบสำมะโนครัว นางให้ฟางเซียนำกล่องอาหารมามอบให้ใต้เท้าหลี่ ในนั้นมีกับข้าวและสุรารสเลิศ ป้องกันไม่ให้ใต้เท้ายุ่งกับการรักใคร่ราษฎรเกินไปจนไม่มีเวลากินอาหารกลางวัน
หลังหลิ่วเหมียนถังจัดการทุกอย่างเสร็จเรียบร้อยก็ผ่อนลมหายใจออกมายาวๆ มองเรือนหลังเล็กของตนเองอย่างพึงพอใจ ก่อนให้ปี้เฉ่าย้ายเก้าอี้เถาวัลย์ที่เพิ่งซื้อใหม่มา เตรียมนั่งอยู่ใต้ซุ้มเถาองุ่นที่งอกใบเขียวแล้วให้อาหารปลา
แต่ประโยคไม่ตั้งใจประโยคเดียวของปี้เฉ่ากลับทำให้อารมณ์ดีๆ ของหลิ่วเหมียนถังลดทอนลงไปมาก “คุณหนู บ่าวว่าลานบ้านหลังนี้เหตุใดจึงเหมือนกับลานบ้านบนถนนสายเหนือที่ตำบลหลิงเฉวียนมากเพียงนั้นเล่าเจ้าคะ!”
หลิ่วเหมียนถังเกือบจะสำลักน้ำชาที่ตนเองเพิ่งดื่มลงไป ตอนที่กำลังคิดเถียงกลับว่าเหมือนตรงที่ใดก็พลันนิ่งเงียบ
ไม่ใช่หรือไร…ในลานบ้านบนถนนสายเหนือเมื่อก่อนก็มีซุ้มเถาองุ่น ในฤดูร้อนหลิ่วเหมียนถังชอบจัดโต๊ะกินข้าวใต้ซุ้ม ซ้ำยังเคยพูดกับชุยสิงโจวว่าหากที่ตรงนี้มีบ่อปลาเล็กๆ ก็คงดี
ทั้งยังมีชั้นไม้ยาวที่สั่งช่างไม้ทำเป็นพิเศษตรงนั้นอีก ที่บ้านบนถนนสายเหนือก็มีอยู่ชุดหนึ่ง ทั้งสามารถตากเสื้อผ้าและผึ่งถ้วยชา แล้วยังตากเนื้อแดดเดียวที่หลี่มามาทำได้อีก…
หลิ่วเหมียนถังมองประเมินลานบ้านเสร็จก็ผุดลุกเดินเข้าไปในห้อง
เครื่องเรือนภายในบ้านจัดวางเรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็นตำแหน่งของเตียงหรือโต๊ะล้วนไม่แตกต่างกับบ้านที่ตำบลหลิงเฉวียนจริงๆ
หลิ่วเหมียนถังจากที่ไม่ค่อยรู้สึกหดหู่ใจ แต่ชั่วขณะนี้อยากจะเอาศีรษะโขกกำแพงนัก หากสาวใช้ไม่ทักขึ้นมานางก็ไม่รู้สึกตัวด้วยซ้ำว่าความเคยชินของคนเราน่ากลัวเพียงนี้
ทุกวันนี้นางตั้งตนเป็นเจ้าบ้านสตรี ใช้ชีวิตตามลำพัง แต่ดันมาโดนอำนาจของความทรงจำในอดีต เปลี่ยนสภาพบ้านของตนเองให้เป็นเหมือนบ้านบนถนนสายเหนือ
วันนั้นกระทั่งนอนหลับหลิ่วเหมียนถังยังหลับไม่สนิท
เช้าวันรุ่งขึ้นหลิ่วเหมียนถังก็สั่งให้พวกปี้เฉ่าช่วยนางจัดตำแหน่งเตียงกับตู้ภายในห้องใหม่อีกรอบ
ปี้เฉ่าผู้น่าสงสารเป็นเพราะเมื่อวานเผลอพลั้งปากไป วันนี้เลยต้องมาเหนื่อยขนย้ายข้าวของจนยืดเอวเหยียดตรงแทบไม่ไหว
เดิมทีหลิ่วเหมียนถังตั้งใจล้มซุ้มเถาองุ่นด้วย แต่จนใจที่นางชอบกินข้าวชมปลาใต้ซุ้มเถาองุ่นมากเกินไป ดังนั้นจุดนี้ที่เหมือนกันจึงยอมอดทนไว้ชั่วคราว
หลี่มามาเห็นหลิ่วเหมียนถังเหน็ดเหนื่อยเช่นนี้ก็ส่ายหน้าพลางถอนหายใจ ก่อนเข้าห้องครัวไปทำกระดูกหมูตุ๋น ขอเพียงสายตาไม่เห็นก็ไม่หงุดหงิดเอง!
ทว่าเรื่องที่ชวนให้หงุดหงิดใจ นอกจากการตกแต่งเครื่องเรือนแล้วยังมีมากกว่านั้น…