ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก
ทดลองอ่าน ซ่อนแผนร้ายชิงบัลลังก์รัก บทที่ 137-138
บทที่ 138
เมื่องอนิ้วนับดู เซียวอ๋องจากไปนานสี่วันแล้ว ไม่รู้ว่าเข้าเฝ้าฮ่องเต้ราบรื่นหรือไม่ แดนเหนืออากาศหนาวเย็น ถึงแม้จะยังเหลือเวลาอีกมากถึงออกเดินทาง แต่จะต้องจัดเตรียมเสื้อผ้ากันหนาวเอาไว้เนิ่นๆ
พ่อค้าขายหนังสัตว์ที่หัวหน้าเว่ยรู้จักได้ขนเตียวชั้นดีมา จึงส่งมาให้อวี้ฉือเฟยเยี่ยนดูเพื่อเลือกสีขน แล้วค่อยเลือกรูปแบบที่เป็นที่นิยมกันในตอนนี้ จะได้ตัดเย็บออกมา
“ชายารองดูสิขอรับ หนังผืนนี้ดีหรือไม่ ขนสีขาวหิมะล้วนปราศจากสีอื่นแซม” หัวหน้าเว่ยชี้หนังผืนนี้พลางเอ่ย
อวี้ฉือเฟยเยี่ยนยื่นมือไปลูบขนบนผืนหนัง เนื่องจากต้องส่งมาที่จวนอ๋อง ผืนหนังที่พ่อค้าขายหนังสัตว์นำมาจึงผ่านวิธีดัดแปลงพิเศษ แผ่นหนังบางและอ่อนนุ่ม หากตัดเย็บเป็นเสื้อคลุมก็จะเข้ารูปดูดี ทว่าจะมีฮูหยินขุนนางตระกูลสูงศักดิ์สักกี่คนที่จะใช้ชีวิตอยู่ในพื้นที่หิมะหนาวเหน็บเป็นวันๆ แบบนายพรานหรือคนผ่าฟืนบ้าง เวลาออกจากจวนขึ้นเกี้ยวอุ่นหรือรถม้า เวลาเข้าจวนมีตี้หลงกับเตาอุ่นมือ ต่างไม่มีทางหนาวแข็ง การสวมชุดคลุมขนสัตว์ก็แค่ต้องการความหรูหราเท่านั้น ดังนั้นผืนหนังพวกนี้จึงไม่มีผืนที่หนาหนัก
อวี้ฉือเฟยเยี่ยนลูบคลำไปมาหลายครั้งแล้วส่ายหน้า เอ่ยกับหัวหน้าเว่ยว่า “ส่งคืนไปให้หมดเถิด บอกกับพ่อค้าผู้นั้นว่าหนังพวกนี้บางเกินไป ครั้งนี้ที่องค์ชายรองเดินทางไปคือทะเลทรายเหนือ ฤดูหนาวที่นั่นสามารถทำให้คนหนาวหูหลุด ไม่เหมือนกับที่ไหวหนาน มิหนำซ้ำองค์ชายรองทรงชอบขี่ม้า ยิ่งจำเป็นต้องเตรียมชุดฤดูหนาวกันลม บอกให้เขาส่งพวกหนังสัตว์มาเพิ่ม ขนจะต้องถี่ยิบ หนังเองก็ต้องหนาหน่อย”
หัวหน้าเว่ยได้ยินแล้วรีบขานรับติดต่อกัน ภายในใจลอบรู้สึกนับถือ ชายารองช่างละเอียดรอบคอบนัก นึกไม่ถึงว่าจะคำนึงถึงตรงจุดนี้ด้วย หรือจะเคยไปแดนเหนือมาก่อน มิฉะนั้นจะคำนึงถึงตรงจุดนี้ได้อย่างไร
หัวหน้าเว่ยเตรียมจะเก็บหนังสัตว์จากไป แต่อวี้ฉือเฟยเยี่ยนคิดแล้วเรียกรั้งเขาไว้อีกครั้ง “หนังพวกนี้ไม่ต้องส่งคืนทั้งหมด สีขาวปลอดผืนนั้นเอาไปตัดเป็นเสื้อคลุมครึ่งตัวสำรองไว้ให้องค์หญิงอันชิ่ง ส่วนกระดุมใช้พวกหินหางหงส์ปิดทองที่เพิ่งได้มาเมื่อหลายวันก่อน แล้วประเดี๋ยวเจ้าเอาส่วนที่เหลือส่งไปทางเรือนขององค์หญิงเล่อผิงอีกที ให้นางเลือกผืนที่ถูกใจ ตัดไปด้วยกันเลยแล้วกัน!”
หัวหน้าเว่ยจดจำทุกคำสั่งเช่นกัน
องค์หญิงเล่อผิงผู้นั้นเป็นตัวปัญหาผู้หนึ่ง แต่ความเคารพนอบน้อมภายนอกยังคงต้องรักษาไว้ ทุกวันนี้นางมาอาศัยอยู่ที่จวน ภายในจวนตัดชุดฤดูหนาวแล้วไม่มีส่วนของนางจะกลายเป็นขี้ปากชาวบ้านเอาได้ อวี้ฉือเฟยเยี่ยนไม่อยากให้คนตำหนิในเรื่องเล็กน้อยพวกนี้ จึงกำชับทุกอย่างจนครบ
ไม่นานจากนั้นหัวหน้าเว่ยก็ย้อนกลับมาเอ่ยเสียงเบาอย่างลนลาน “ชายารอง เมื่อครู่บ่าวเพิ่งเอาหนังสัตว์ไปส่ง เจอกับหลิวมาที่ตั้งใจจะออกมาพอดี นาง…นางบอกว่าเมื่อครู่นี้ท่านราชบุตรเขยแวะมาขอรับ…”
อวี้ฉือเฟยเยี่ยนเลิกคิ้วทันควัน หวังอวี้หล่างมาที่นี่งั้นหรือ เหตุใดนางถึงไม่รู้เรื่อง
หัวหน้าเว่ยเห็นสีหน้าแปลกใจของอวี้ฉือเฟยเยี่ยนก็รีบเอ่ย “เนื่องจากเรือนพำนักขององค์หญิงอยู่อีกฟากของจวนอ๋อง ค่อนข้างไกลจากประตูใหญ่ ดังนั้นจึงมีประตูรองอีกบาน เดิมทีเอาไว้ใช้เวลาเกิดไฟไหม้ ภายหลังตอนที่แต่งเติมจวนอ๋อง บ่าวกลัวจะมีโจรบุกรุกยามวิกาล จึงสั่งให้คนใช้โซ่เหล็กกับแผ่นไม้ปิดตายเอาไว้ขอรับ ผลปรากฏว่าเมื่อเช้าวันนี้องค์หญิงสั่งให้คนถอดแผ่นไม้ที่ปิดตายออก ท่านราชบุตรเขยหวังเข้ามาจากประตูบานนั้น ตอนเข้ามาเป็นช่วงที่หลิวมาปรนนิบัติอยู่หน้าประตูห้อง จึงหลบออกมาไม่ได้ หลังจากเขากลับไปแล้วถึงเตรียมออกมารายงานชายารองขอรับ…”
“หลิวมาได้ยินหรือไม่ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน ทะเลาะกันหรือไม่”
หัวหน้าเว่ยรีบส่ายหน้าเอ่ย “ไม่ได้ทะเลาะกันขอรับ ทั้งสองคนต่างคุยกันอย่างใจเย็น โดยเฉพาะองค์หญิงเหมือนจะมีความสุขมากด้วยซ้ำขอรับ”
อวี้ฉือเฟยเยี่ยนลุกพรวดเตรียมออกไปหาองค์หญิงเล่อผิง ตอนนั้นเองกลับได้ยินคนมารายงาน “องค์หญิงเล่อผิงทรงเชิญชายารองแวะไปหาขอรับ…”
รอตอนที่อวี้ฉือเฟยเยี่ยนไปถึงเรือนขององค์หญิงเล่อผิง ก็เห็นองค์หญิงเล่อผิงกำลังสั่งบรรดาสาวใช้เก็บสัมภาระด้วยสีหน้าสบายใจ
“องค์หญิงทรงกำลัง…”
องค์หญิงเล่อผิงนั่งอยู่บนเก้าอี้โยกทำจากเถาวัลย์ หลงเยวี่ยสาวใช้ที่อยู่ด้านหลังกำลังพัดให้นาง “ราชบุตรเขยบอกว่าถึงอย่างไรการพักอยู่ที่จวนเซียวอ๋องก็เป็นการเพิ่มปัญหาให้กับองค์ชายรอง เขาซื้อจวนที่ไหวหนานแล้ว ให้ข้าไปพักผ่อนเงียบๆ ที่นั่น”
ครั้นเห็นสีหน้าเบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อของอวี้ฉือเฟยเยี่ยนแล้ว องค์หญิงเล่อผิงกลับยิ้มอย่างได้ใจน้อยๆ “เป็นอะไรไป ทึ่มทื่อไปเลยหรือ มีเรื่องอะไรให้คาดไม่ถึงกันเล่า เจ้าเองก็ดี เสด็จแม่เองก็ดี ต่างทำตัวตื่นตูมกันไปทั้งนั้น! ต่อให้เด็กในท้องข้าไม่ใช่ของหวังอวี้หล่างแล้วอย่างไร ยังจะโวยวายเสียงดังไปถึงฝ่าบาทได้อีกหรือ เขาไม่ต้องการอนาคตขุนนางของตนเองแล้วหรือไร ราชบุตรเขยบอกแล้วว่าให้ข้าดูแลครรภ์อย่างสบายใจ รอวันหน้าเด็กคลอดออกมาแล้วเขาจะหาเหตุผลที่เหมาะสม หาบิดามารดาบุญธรรมให้กับลูกแล้วพาเข้าเมืองหลวงมาด้วยกัน ข้าจะได้ไม่ต้องทรมานคิดถึงลูก”
หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึก อวี้ฉือเฟยเยี่ยนถึงได้ถามอย่างระมัดระวัง “องค์หญิงทรงคิดดีแล้วจริงๆ หรือเพคะ ว่าจะตามท่านราชบุตรเขยจากไป”
องค์หญิงเล่อผิงรับถาดผลไม้ที่สาวใช้เซียงเถายื่นให้ ก่อนเบ้ปากเอ่ย “ไม่ไป? หรือจะให้อยู่ที่นี่ มองดูชายารองตัวเล็กๆ คนหนึ่งอย่างเจ้าวางอำนาจบาตรใหญ่น่ะหรือ เหอะ…”
อวี้ฉือเฟยเยี่ยนไม่ได้ถามต่อ ในเมื่อราชบุตรเขยมารับคนด้วยตนเอง ไม่ต้องพูดว่านางเป็นชายารองตัวเล็กๆ ต่อให้เซียวอ๋องอยู่ที่นี่ก็ไม่มีเหตุผลจะห้ามไม่ให้น้องเขยมารับภรรยาตนเองไป
Comments
